ไทยศรีฯผนึก "ลาว" ผุดบริษัทประกัน เคาะสัดส่วนหุ้นเมษายนได้ใบอนุญาต

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556

ไทยศรีฯผนึก


กลุ่มทุน "พานิชชีวะ" เจ้าของบริษัทประกันภัย 3 แห่ง คือ บมจ.ไทยศรีประกันภัย, บมจ.สยามซิตี้ประกันภัย และบมจ.กรุงไทย พาณิชประกันภัย เคยแย้มแผนการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนรอง รับเออีซีโดยสนใจจะเข้าไปลงทุนในประเทศสปป.ลาว และพม่า ซึ่งสปป. ลาวน่าจะเปิดได้ก่อนถึงขั้นเจรจากับผู้ร่วมทุนซึ่งมีความคืบหน้าเป็นระยะ
"นที พานิชชีวะ" ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร ไทยศรีประกันภัย ให้ข้อมูลว่ากำลังอยู่ในช่วงขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ประกันภัยในสปป.ลาว คาดว่าประมาณเดือนเมษายนนี้น่าจะจบ โดยขณะนี้กำลังเจรจากับหุ้นส่วนทางธุรกิจอยู่จะถือหุ้นกัน อย่างไร โดยผู้ถือหุ้นจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะเป็นไทยศรีฯ ที่จะร่วมกับกลุ่มผู้ถือหุ้นไทยและกลุ่มสองจะเป็นภาครัฐของสปป.ลาว
"ไลเซ่นส์ของลาว 1 ใบจะอนุญาตให้ทำธุรกิจได้ 3 อย่างเลยคือประกันวินาศภัย ประกันชีวิตและรับประกันภัยต่อ ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 4 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 120 ล้านบาท"
นอกจากบริษัทประกันภัยทั้ง 3 บริษัท นี้แล้วกลุ่มพานิชชีวะยังถือหุ้นบมจ.ทิพยประกันชีวิตอยู่ 15% ด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้กลุ่มทุนไทยที่ว่าน่าจะเป็นกลุ่มทิพย
+ เป้าปีนี้เบี้ย 2,600 ล้าน โต 17% + ลุยประกัน "เจ็ตสกี" คนเห่อเยอะ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของไทยศรีประกันภัยในปีนี้ "นที" กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกัน 2,600 ล้านบาท เติบโตประมาณ 17% เทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีเบี้ยประกัน 2,350 ล้านบาท เติบโต 24% โดยจะขยายประกันภัยไม่ใช่รถยนต์ (นอนมอเตอร์) มากขึ้น ให้น้ำหนักกับการ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้สัดส่วนระหว่าง ประกันนอน มอเตอร์และประกันรถยนต์อยู่ที่ 40:60 จากปีก่อนอยู่ที่ 35:65 ซึ่งภายในอีก 3 ปีนับจากนี้มีเป้าหมายที่จะให้ สัดส่วนงานทั้ง 2 ประเภทเท่ากันคือ 50:50
โดยบริษัทเน้นเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (นิช มาร์เก็ต) เช่น ประกันเรือเจ็ตสกีที่ให้ความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากเจ็ตสกีได้รับความนิยมมากขึ้นเฉพาะที่พัทยา ระยอง ประมาณ 600 ลำ ยังไม่รวมสมุย ภูเก็ต ขณะที่อัตราความเสียหายหรือสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ประมาณ 40% โดยบริษัทมีเป้าหมายไม่ให้เกิน 50% ซึ่งการประกันภัยเรือเจ็ตสกีคุ้มครองทั้งทรัพย์สิน และประกันอุบัติเหตุตัวบุคคลรวมถึงประกัน ความรับผิดบุคคลภายนอก วงเงินสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท เบี้ยประกันมี 3 แบบขึ้นอยู่กับวงเงินความรับผิดส่วนแรกของลูกค้า (ดีดัคเทเบิล)
+ ขยาย "ซูเปอร์ไบค์-ลีมูซีน" + ปรับกธ.ลูกค้าเลือกคุ้มครองได้
ส่วนประกันรถยนต์มุ่งขยายทั้งมอเตอร์ ไซค์ประเภทซูเปอร์ไบค์หรือรถมอเตอร์ ไซค์ราคาสูง ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าประมาณ 4,000 คัน เบี้ยประกันประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี โดยได้ปรับเบี้ยประกันบางรุ่นขึ้นแล้ว 20% เพราะมีความเสี่ยงสูง ขณะเดียวกันปรับแผนใหม่ด้วยการเข้าไปเป็น สปอนเซอร์ฝึกขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถเหล่า นี้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยเพราะลอสเรโชของมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ เหล่านี้จะเกิดมากช่วง 3 เดือนแรกที่ซื้อไป
ส่วนรถยนต์ให้น้ำหนักกับขนาด 3000 ซีซีขึ้นไปจะขยายกลุ่มรถลีมูซีนประเภทรถบ้านมากขึ้นเพราะมีความเสี่ยง ต่ำ โดยจะปรับปรุงกรมธรรม์ใหม่ให้ลูกค้า ทั้งรถลีมูซีนและมอเตอร์ไบค์เลือกความคุ้มครองเป็นพิเศษได้
ยิ่งกว่านั้นยังออกสินค้าใหม่ในหมวด ประกันภัยเบ็ดเตล็ดซึ่งอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติจากคปภ. คาดว่าปีนี้จะมีสินค้าใหม่ 2 ตัวเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม
"กลยุทธ์ของเราเน้นนวัตกรรมใหม่อย่างสินค้าต้องพัฒนาตลอดมองไปถึงการแข่งขันเมื่อเปิดเออีซีด้วย"
+ คาดปีนี้กำไรลงทุน 200 ล้าน + เล็งเข้าตลาดหุ้นให้แบรนด์น่าเชื่อถือ
ผลงานด้านลงทุน "นที" คาดว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในปีนี้จะใกล้เคียงที่ผ่านมาประมาณ 6-7% แต่เชื่อว่ากำไรจากการลงทุนปีนี้ไม่น่าจะต่ำกว่า 150-200 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเงินลงทุนรวม 3,000 ล้านบาท
"นที" กล่าวว่า บริษัทสนใจจะเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพราะต้องการสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าส่วนการระดมทุนเป็นประเด็นรอง หากบอร์ดอนุมัติ ก็จะเข้าจดทะเบียนทันที


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ