ขับ DFSK รุ่น GLORY i-Auto ช่วงล่างหนึบ เงียบ สุดประหยัดติดแก๊สแอลพีจีจากโรงงาน

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ขับ DFSK รุ่น GLORY i-Auto ช่วงล่างหนึบ เงียบ สุดประหยัดติดแก๊สแอลพีจีจากโรงงาน


โดย...สิริวิทย์ บ่อจันทึก

(sirivit@yahoo.com)

https://www.youtube.com/watch?v=-UxudWcCZp0&t=918s

หลังจาก บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถ SUV มัลติแบรนด์แห่งแรกของไทย และเป็นผู้จัดจำหน่ายแบรนด์ DSFK หรือ DONGFENG ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของจีน แต่ผู้เดียวในประเทศไทย  ได้เปิดตัวรถ DFSK รุ่น GLORY i-Auto และ DFSK GLORY 560 ซึ่งเป็นรถ SUV 7 ที่นั่ง เมื่อปลายปีที่แล้ว

โดยล่าสุด บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด สู้ศึกราคาน้ำมันพุ่ง ได้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน LPG จากโรงงานให้ DFSK SUV ทั้ง2รุ่น ซึ่งชุดอุปกรณ์ LPG ที่นำมาเสนอต่อลูกค้า ได้ทำการศึกษาและทดสอบกับเครื่องยนต์ โดยทีมวิศวกรจากอิตาลีและโรงงานที่ประเทศอินโดนีเซีย

ผมได้มีโอกาส ได้ขับ DFSK รุ่น GLORY i-Auto เพื่อพิสูจน์สรรถนะและความประหยัดในการใช้แก๊สแอลพีจี โดยใช้เส้นทางจาก กรุงเทพมหานคร มุ่งสู่ภาคเหนือ ที่จังหวัดลำปาง

ก่อนออกเดินทาง เรามารายละเอียดของตัวรถการออกแบบทั้งภายใน และภายนอก โดยการออกแบบภายนอกดูเรียบง่าย ไม่หวือหวามากนัก แต่ก็มีมนต์เสน่ห์อีกแบบหนึ่ง  ขนาดตัวถังยาว 4,700 มม. กว้าง 1,845 มม. สูง 1,715 มม. และความยาวฐานล้อ 2,780 มม.

อุปกรณ์มาตรฐานทั่วๆไปจัดให้แบบเต็มๆ ไฟหน้า Full LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED  กระจังหน้าแบบดาวล้อมโลโก้ หรือ Infinite Starlight Design ไฟท้ายแบบ LED Combination Light พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential เช่นเดียวกับด้านหน้า กระจกมองข้างปรับและพับอัตโนมัติพร้อมไล่ฝ้า  เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยสีเทาดำขนาด 18 นิ้ว ขนาดยาง 225/55 R18

ติดตั้งราวหลังคา และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมม่านกรองแสงเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าเช่นเดียวกัน แถมใช้คำสั่งด้วยคำพูด i-Talk ได้ด้วย รวมถึงประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า และเซ็นเซอร์ โมชั่น หรือ ใช้เท้าแตะด้านล่างเพื่อเปิดฝาท้าย

สำหรับ ถังแก๊ส LPG เป็นรูปโดนัสซ่อนไว้บริเวณใต้กันชนฝั่งขวาในช่องใส่ล้ออะไหล่ แบบมิดชิดพอประมาณ มองไม่เห็นและไม่รู้ว่าเป็นรถติดแก๊ส

มาดูที่การออกแบบ DFSK Glory i-Auto ทันทีที่เข้ามานั่งในห้องโดยสาร จะรู้สึกถึงความหรูหรา โอ่อ่า กว้างขวาง เทียบได้กับรถหรูหลายรุ่นเลยทีเดียว  อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายจัดให้ครบครัน ทั้ง ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ  ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ช่องแอร์แถวหน้าและแถวผู้โดยสารแถวที่ 2 จำนวน 6 ช่อง ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ทำงานคู่กับกุญแจ Keyless Entry กล้องบันทึกภาพขณะขับขี่บริเวณกระจกบังลมหน้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังแบบมีรูระบายอากาศ โดยปุ่มควบคุมฝั่งซ้ายจะใช้สำหรับเครื่องเสียง ส่วนปุ่มฝั่งขวาจะใช้สำหรับ Cruise Control และระบบสั่งงานด้วยเสียง หรือ i-Talk

     หน้าจอประมวลผลอินโฟเทนเมนท์ขนาด 9 นิ้ว อยู่เหนือแผงคอนโซล สั่งการผ่านระบบทัชสกรีน หรือผ่านปุ่มควบคุมบริเวณคอนโซลกลาง รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมช่อง USB/AUX ลำโพง 6 ตำแหน่ง

ขณะที่ เบาะนั่งหุ้มหนังสีดำปรับระดับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทางฝั่งผู้ขับขี่ ขณะที่ฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าเป็นแบบปรับมือ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะแถวที่ 2 สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมปรับเลื่อนขึ้นหน้า-หลังเพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาให้กับเบาะแถว 3 ได้ ขณะที่เบาะแถว 3 พื้นที่กว้างขวางพอสมควร การออกแบบมีเส้นสายลายด้ายสวยงามคลาสสิก

     มาดูที่แผงความคุมการใช้เชื้อเพลิงจะติดอยู่บริเวณฝั่งขวามือของผู้ขับขี่ ข้างๆ พวงมาลัย เป็นปุ่มสลับระหว่างโหมด LPG รูปตัว G และน้ำมันรูป ปั๊งแท่นเติมต้ำมัน เมื่อแก๊สหมดและปุ่มสีเขียวสุดท้ายจากสี่ปุ่มกระพริมแรงๆ และเสียงเตือนปิ๊บๆ ต้องหาปั๊มแก๊สเติมในทันที ไม่อย่างนั่นจะต้องปรับไปสู่โหมดการใช้น้ำมัน

    ส่วนระบบความปลอดภัยมาตรฐานก็จัดมหาให้เต็มๆ เช่นกัน ชนิดไม่เป็นรองแบรนด์เอสยูวีอื่นๆ  ทั้งระบบควบคุมการทรงตัว ESP ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control  ระบบเบรก ABS/EBD ระบบเสริมแรงเบรก EBA เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง พร้อมกล้อง 360 องศา ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง และถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง คู่หน้าและด้านข้างคู่หน้า

               ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างแบบที่ไม่ค่อยได้เจอในแบรนด์อื่นๆ ก็คือ ช่วงกลางคืนปุ่มใช้งานฟังค์ชั่นต่างๆ จะติดเป็นสีแดงทุกปุ่ม ให้ความรู้สึกแปลกตาสดใสไปด้วย ขณะที่ จะมีไฟส่องสว่างติดขึ้นด้วยบริเวณเท้าคนขับ และฝั่งผู้โดยสารติดคนขับ

สำหรับขุมกำลัง DFSK Glory i-Auto ขับเคลื่อนด้วยเบนซิน 4 สูบเทอร์โบชาร์จ ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 - 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่สามารถล็อกอัตราทดได้ 6 สปีด รองรับน้ำมันทางเลือก E85 ได้อีกด้วย ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 12.3 กม./ลิตร ตามที่ปรากฏบน ECO Sticker

     ส่วนระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันอิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ติดตั้งระบบดิสก์เบรกมาให้ทั้ง 4 ล้อ ตกแต่งคาลิเปอร์เบรกด้วยสีแดง มาพร้อมระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPS เป็นมาตรฐาน

หลังจากทราบรายละเอียดการออกแบบ และเครื่องยนต์ แบบคร่าวๆ แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะออกเดินทางเพื่อพิสูจน์สมรรถนะกัน ทันทีที่เข้ามานั่ง    ทันทีที่กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ จะเป็นการสตาร์ทด้วยน้ำมันโดยอัตโนมัติ จอบนคอนโซลกลางจะปรากฏตัวอักษร DFSK Glory i-Auto  สีฟ้า ขณะที่หน้าปัดจะเรืองแสงด้วยสีฟ้าสวยงาม ขณะที่สัญญาณไฟสีเขียวบริเวณปุ่มแก๊สจะกระพริบ แสดงว่าระบบกำลังรอสแตนบายเพื่อเปลี่ยนเป็นแก๊สหลังจากที่เครื่องยนต์เริ่มร้อนได้ที่ จากนั้นไม่นานระบบก็จะเปลี่ยนเป็นแก๊สให้โดยอัตโนมัติ แต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้คือ ไม่มีอาการสั่นไหวใดๆ เกิดขึ้นถือว่า ราบเรียบมากๆ

               ทันทีที่แตะคันเร่ง เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร กับตัวถังรถที่มขนาดใหญ่ หลายคนอาจมองว่า อาจอืด แต่ด้วยขุมกำลัง 150 แรงมา แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ถือว่า ตอบสนองได้ค่อนข้างดี ความเร็วสามารถพุ่งขึ้นไปได้อย่างทันใจไม่อืดอาด และสามารถแช่ด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. แบบสบายๆ ไม่มีอาการสั่นไหวหรือโคลง แสดงให้เห็นว่าระบบช่วงล่างที่ให้มาตอบสนองได้ดีมาก

               ขณะที่ อัตราเร่งแซงถือว่า ทำได้ทันใจสั่ง การขึ้นเขา ลงเนิน ทำได้ดี เพราะได้มีโอกาสขับขึ้นเขา ลงเขา ลัดเลาะไหล่เขา ตั้งแต่ออกจากจังหวัดตาก สู่ จังหวัดลำปาง ซึ่งต้องผ่าน อ.บ้านตาก อ.สามงาม จ.ตาก เข้าสู่ จ.ลำปาง ผ่าน อ.แม่พริม อ.เถิน อ.สบปราบ ซึ้งล้วนแต่เป็นพื้นที่ภูเขาน้อยใหญ่ สูง ต่ำ ลาด ชัน มีให้พิสูจน์ ทุกสถานะ แตะอัตราเร่ง ความเงียบของเครื่องยนต์ การเบรก ทำได้ด้วยความมั่นใจ แถมบางช่วงเจอฝนตกหนักด้วย ได้ทดสอบระบบเบรก ความหนึบของช่วงล่าง ไม่มีอาการโคลงหรือลื่นไถล แม้ว่าจะเจอฝน ถนนเปียก เครื่องปัดน้ำฝนทำงานอัตโนมัติ ระดับการปัดขึ้นอยู่กับความแรงของน้ำฝน เรียกว่า เป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่น ที่ขับได้เพลิน ขับสนุก มากทีเดียว

               จากสมรรถนะที่น่าพอใจ เราลองมาดูที่อัตรา ประหยัด ก่อนสิ่งที่อยากบอก คืน ผมทดลองขับทั้งที่ใช้น้ำมัน และแก๊ส ความรู้สึกที่ได้ไม่ต่างกันมากนัก ไม่มีกลิ่นแก๊สปรากฏ ไม่มีการสั่นสะเทือน ส่วนความประหยัดในการใช้แก๊ส ทาง อีวี ไพรมัส แจ้งว่า อัตราสิ้นแปลงจากการทดสอบแล้ว ณ ราคาแก๊ส LPG ที่ 13.62 บาทต่อลิตร อัตราค่าใช้จ่ายจะลดลงเหลือ 2.29 บาทต่อกิโลเมตร

               อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองตามที่ผมได้ทดสอบโดยใช้ความเร็วเฉลี่ยไม่เกิด 110 กม./ชม. ในการวิ่งทางไกลใช้ความเร็วสม่ำเสมอ อัตราค่าใช้จ่ายจะลดลงเหลือประมาณ 1.50 บาทต่อกิโลเมตร แต่หากใช้ความเร็วขึ้นไปมากกว่านี้ อัตราสิ้นเปลืองก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จากการที่ทดสอบในการเดินทางครั้งนี้กว่า 1,500 กิโลเมตร

               นอกจากการใช้ตามคอนเซ็ปต์รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ เอสยูวี เป็นรถครอบครัว นั่งสบาย 7 ที่นั่งแล้ว ท่องเที่ยวตามต่างจังหวัดได้ดีแล้ว ผมความประหยัด และขับสนุก ก็สามารถใช้ได้ดีในพื้นที่ในเมืองเช่นกัน ตอบโจทย์ยุคน้ำมันแพงได้เป็นอย่างดี

               ขณะที่ ทั้งตัวที่ใช้พลังงานน้ำมัน และติดตั้งอุปกรณ์แก๊สมาตรฐาน ขายในราคาเดียวกัน ได้แก่ รุ่น Glory 560 ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท และ Glory i-Auto ราคาเริ่มต้น 919,000 บาท ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถ SUV ขนาดใหญ่ ในราคารถซีดาน

               แถมใครที่สนใจ ช่วงนี้ ทาง อีวี ไพรมัส จัดโปรโมชั่น แบบเต็มๆ ได้แก่     เข้าบริการได้ที่ดีลเลอร์พร้อมศูนย์บริการมาตรฐาน 23 แห่งทั่วประเทศ แล้ววันนี้     ฟรีค่าแรงเช็คระยะตลอด 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตรของการขับขี่เพื่อความมั่นใจ ไร้กังวลในบริการหลังการขาย     ฟรีค่าอะไหล่สิ้นเปลือง อาทิเช่น ไส้กรอง หัวเทียน ผ้าเบรค ใบปัดน้ำฝน และอื่น ๆ ทุกรายการแบบครบ ๆ ไม่มีเงื่อนไขซับซ้อนให้กังวล ฟรีแม้แต่แบตเตอรี่     ฟรีค่าเคมีภัณฑ์ อาทิเช่นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำยาหล่อเย็น และเคมีภัณฑ์ทุกประเภท    ฟรีสิทธิ์ @HomeService บริการเช็คระยะที่บ้าน 2 ครั้ง และฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง พร้อม Call Center ที่ดูแลตลอดทุกเส้นทาง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ