“ดีป้า” เผยผลสำเร็จ The Smart City Ambassadors รุ่นที่ 1 สร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่สู่การเป็น ‘นักพัฒนาเมืองท้องถิ่น’ พร้อมเล็งขยายผลให้ครบทุกจังหวัด

วันอังคารที่ 05 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

“ดีป้า” เผยผลสำเร็จ The Smart City Ambassadors รุ่นที่  1 สร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่สู่การเป็น ‘นักพัฒนาเมืองท้องถิ่น’ พร้อมเล็งขยายผลให้ครบทุกจังหวัด


“อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย” ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ 22 นักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ ผลสำเร็จจากโครงการนักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ (The Smart City Ambassadors: SCA) รุ่นที่ 1 ที่ดำเนินการโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยคาดหวังที่จะทำให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ มีงานทำ และมีความพร้อมก้าวสู่การเป็น ‘นักพัฒนาเมืองท้องถิ่น’ ของตนเอง พร้อมเตรียมขยายผลความสำเร็จเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการฯ รุ่นที่ 2 ให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 21กรกฎาคม 2565

นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่นักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ ในโครงการนักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ (The Smart City Ambassadors: SCA) รุ่นที่ 1 จำนวน 22 คนจาก 22 จังหวัด รวมถึงผู้ที่ได้รับรางวัล Smart City Ambassadors ดีเด่นทั้ง 7 คน และเจ้าหน้าที่ตัวแทนเมือง ซึ่งโครงการดังกล่าวดำเนินการโดย สำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565

 นางสาวอัจฉรินทร์ กล่าวว่า “สมาร์ทซิตี้” อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในตัวแผนแม่บท กำหนดให้เป็นพื้นที่ และเมืองอัจฉริยะ ซึ่งจะมีการพัฒนาจากเมืองเดิม และเมืองใหม่ เมืองเดิมจะถูกพัฒนาให้มีความน่าอยู่ขึ้น พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ส่วนเมืองใหม่จะวางโครงสร้างใหม่ เพื่อดึงดูดคนเข้ามาอยู่ในเมืองใหม่ การจะขับเคลื่อนได้ต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์โดยประชาชน และผู้บริหารเมือง เพื่อร่วมกันวางเทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ มีการสื่อสารด้วยข้อมูล บริหารจัดการเมืองอย่างชาญฉลาด ทำเป็นระบบ ซิตี้ ดาต้า แพลตฟอร์ม เป็นบิ๊กดาต้าของเมืองขึ้นมาทำให้บริหารจัดการเมืองมีความโปร่งใส ประชาชนนำมาใช้ประโยชน์ได้ 

ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ คือ การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน พร้อมทั้งมีตัวแทนรัฐ เอกชน มาร่วมสร้างกระจายความเจริญอย่างเป็นธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดยภาครัฐเร่งส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการลงทุน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาบุคคลากร รวมทั้งการให้มาตรการสิทธิทางภาษีของบีโอไอ ซึ่งที่ผ่านได้มีพื้นที่เปลี่ยน ไปสู่เมืองอัจฉริยะอย่างแท้จริงแล้ว เช่น ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และพื้นที่ในจังหวัดอีอีซี 

ขณะที่ในกรุงเทพฯ มีพื้นที่ “สามย่าน” ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครบทุกด้าน พัฒนาสิ่งแวดล้อมโดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ ในการประหยัดพลังงาน เป็นต้นและในอนาคตจะขยายพื้นที่ให้เป็นเมืองอัจฉริยะเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับความก้าวหน้าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศไทยได้ดำเนินการ 5 เมืองอัจฉริยะนำร่อง Thailand Smart City เพื่อสร้างเมืองเดิมให้น่าอยู่ทันสมัยเกิดการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์บริบทเฉพาะของแต่ละพื้นที่ ได้แก่ ภูเก็ต, ขอนแก่น, แม่เมาะ, สามย่าน และ วังจันทร์วัลเลย์ นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการเพิ่มเติมในอีก 3 เมืองต้นแบบ (Thailand Smart City Index) ซึ่งประกอบด้วย ยะลา ศรีตรัง และฉะเชิงเทรา 

นางสาวอัจฉรินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ผ่านมาคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ได้พิจารณามอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทย แก่ 15 พื้นที่ ได้แก่  1.สามย่านสมาร์ทซิตี้ 2.ขอนแก่นเมืองอัจฉริยะ 3.เมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง 4.แม่เมาะเมืองอัจฉริยะ จ.ลำปาง 5.ภูเก็ตเมืองอัจฉริยะ 6.เมืองอัจฉริยะย่านพระราม 4

7.โครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพื่อสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่โดยรอบคลองผดุงกรุงเกษม 8.เมืองอัจฉริยะมักกะสัน เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน 9.การพัฒนาเมืองเก่าอย่างชาญฉลาด เทศบาลนครเชียงใหม่ 10.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมืองอัจฉริยะ ความเป็นเลิศที่ยั่งยืนสู่ชุมชน 11.เมืองศรีตรัง 12.ยะลาเมืองอัจฉริยะ เพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน 13.ฉะเชิงเทราเมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว น่าลงทุน 14.แสนสุขสมาร์ทซิตี้ และ 15.โครงการนครสวรรค์สมาร์ทซิตี้ เพื่อรับรองเป็นพื้นที่เมืองอัจฉริยะ 

นอกจากนี้ ยังมีการประกาศ เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ 50 พื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งพื้นที่เหล่านี้จะได้รับการส่งเสริมการลงทุน สำหรับกิจการพัฒนาพื้นที่เมืองอัจฉริยะและกิจการพัฒนาระบบเมืองอัจฉริยะจากบีโอไอต่อไป รับรองเป็นพื้นที่เมืองอัจฉริยะนอกจากนี้ยังมีการประกาศ เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ 50 พื้นที่ทั่วประเทศ 

“การจัดทำโครงการ “นักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่” (The Smart City Ambassadors) ทำการคัดเลือก 30 ตัวแทนหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่จากทั่วประเทศ โดยดีป้าให้ดำเนินจัดกิจกรรมกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการพัฒนากำลังคน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยในการบริหารจัดการเมือง เพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่” ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าว 

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยว่า โครงการนักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับกำลังคนด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยเฟ้นหาเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มี ‘ใจ’ ประสงค์จะพัฒนาภูมิลำเนาของตนเองให้มีโอกาสได้กลับมาทำงานในบ้านเกิด ซึ่งจะทำหน้าที่เสมือนคนกลางประสานและเชื่อมโยงการทำงานระหว่างส่วนกลางกับภาคเอกชนในพื้นที่ และเมือง โดยมีเจ้าหน้าที่ตัวแทนเมือง (Smart City Captains) ร่วมเป็นพี่เลี้ยง

“ตลอดระยะเวลา 1 ปีของการดำเนินโครงการฯ นักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่และพี่เลี้ยงได้ร่วมเรียนรู้และทำกิจกรรม Smart City Boot Camp ทั้งในรูปแบบ Online และ Onsite เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะสำคัญเกี่ยวกับการยกระดับพื้นที่สู่การเป็นเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ ฝึกฝนและพัฒนาศักยภาพด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมือง ก่อนลงพื้นที่จริง รับโจทย์จริง ภายใต้การดูแลจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมือง ซึ่ง ดีป้า คาดว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยสร้างงานให้กับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ขณะเดียวกันยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการก้าวไปสู่การเป็น ‘นักพัฒนาเมืองท้องถิ่น’ ของตนเองต่อไป” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

ด้าน ดร.ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า การส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งการพัฒนาเมืองมีความสำคัญและจำเป็นต้องดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ดังนั้น แต่ละเมืองจะต้องมีกำลังคนที่มีความรู้ ความสามารถคอยทำหน้าที่ขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม  

ดีป้าได้จัดทำโครงการ “นักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ The Smart City Ambassadors”ขึ้นมาเพื่อยกระดับและพัฒนากำลังคนด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้มีทักษะด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ อันนำไปสู่การสร้างโอกาส การจ้างงาน ในตำแหน่งงานด้านการพัฒนาเมืองที่เป็นกลไกสำคัญช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืนและสอดรับกับความต้องการของพื้นที่ พร้อมการลงไปปฏิบัติงานจริงร่วมกับหน่วยงานตัวแทนเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะประเทศไทยผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อพัฒนาท้องถิ่นภูมิลำเนาของตนเอง ร่วมกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรตัวแทนเมืองในการเป็นผู้นำการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City Captains) ให้น่าอยู่ 

โดยได้มีเมืองในเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ เข้าร่วมโครงการ 33 เมือง 25 จังหวัด และมีคนรุ่นใหม่รักบ้านเกิดที่มีความรู้ ความสามารถ เข้าร่วมโครงการจำนวน 30  คน เพื่อร่วมขับเคลื่อน 523 โครงการ ตามข้อเสนอแผนการพัฒนาเมืองของเมืองที่ร่วมโครงการ 

“Ambassadors เป็นเสมือนตัวกลางผสานการทำงานระหว่างส่วนกลาง และเมือง มีเจ้าหน้าที่ตัวแทนเมือง หรือ กัปตัน เป็นพี่เลี้ยง ซึ่งทั้ง Ambassadors และ Captains ได้เรียนรู้และทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งแบบ Online และ Onsite ใน กิจกรรม Boot Camp เพื่อฝึกฝน พัฒนาทักษะที่มี (Reskills) และเรียนรู้ทักษะใหม่ (Upskills) พัฒนาศักยภาพด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านการพัฒนาเมือง และลงพื้นที่จริง พร้อมการดูแลให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมืองตลอดโครงการ โดยผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญของโครงการ ประกอบด้วย 5 เมือง ได้แก่ เชียงใหม่ น่าน หาดใหญ่ชุมพร และสตูล ซึ่งได้รับการสนับสนุนติดตั้ง Smart Lighting มูลค่ารวมกว่าแปดแสนบาท จาก บริษัท จัมโบ้ อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด” รองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

นอกจากนี้ โครงการนักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ รุ่นที่ 1 ยังสามารถขับเคลื่อนให้เกิดโครงการใหม่เพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั้งสิ้น 23 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท และต่อยอดโครงการเดิมผ่านความร่วมมือกับภาคเอกชน จำนวน 26 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 570 ล้านบาท

จากผลสำเร็จของโครงการนักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ รุ่นที่ 1 ดีป้า จึงสานต่อโครงการนักดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ รุ่นที่ 2 โดยเปิดรับสมัครเยาวชนคนรุ่นใหม่ 150 คน และเมือง 150 เมืองทั่วประเทศเข้าร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี ซึ่งผู้สนใจสามารถส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 21 กรกฎาคมนี้ หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Page: Smart City Thailand Office 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ