‘บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN’ รุกตลาดผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกัญชากัญชง รับจังหวะภาครัฐดันกัญชากัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ เร่งนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีส่วนผสมจากสารสกัดจากกัญชากัญชง รวมกว่า 30 รายการ ครอบคลุมทุกแบรนด์ เพื่อตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพของผู้บริโภค ชู กลยุทธ์ ‘ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง’ สร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทาง JKN18 และออนไลน์ หวังปั้นยอดขาย 200 ล้านบาท
จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า ด้วยนโยบายภาครัฐที่ผลักดันกัญชาและกัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของไทย ที่มุ่งส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากกัญชากัญชงในเชิงการแพทย์และเศรษฐกิจ โดยใช้เป็นส่วนผสม สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ หลังจากประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ปลดล๊อกกัญชาและกัญชงออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 นี้ บริษัทฯ จึงมีแผนรุกตลาดผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดจากกัญชาและกัญชงมาเป็นส่วนผสม ผ่านการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ กว่า 30 รายการ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีส่วนผสมของน้ำมันกัญชง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสอดรับเทรนด์รักสุขภาพของผู้บริโภค
ด้าน นางสาวกมลรัตน์ มงคลครุธ กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการสายงานขาย บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ภาพรวมตลาดยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากกัญชงในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 50 ล้านบาท และประเมินว่าภายในปี 2568 จะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 15,770 ล้านบาท ซึ่งเป็นโอกาสให้บริษัท เจเคเอ็น เบสท์ ไลฟ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JKN นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงามที่มีสารสกัดกัญชากัญชง ที่มีคุณสมบัติที่เพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยลดการอักเสบ ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง กระจ่างใส อีกทั้งช่วยในการผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี เพื่อเสริมพอร์ตโฟลิโอให้แข็งแกร่งรองรับการเติบโตในตลาดดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์ ‘ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง’ เพื่อสื่อสารการตลาดและสร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นผลิตภัณฑ์ ผ่านช่องทาง JKN18 เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าผ่านช่องทาง D2C และผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงช่องทางการขายผ่าน Convenience Stores อาทิ 7-Eleven เพื่อรองรับความต้องการซื้อของผู้บริโภค โดยตั้งเป้าสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีส่วนผสมของกัญชงจะทำยอดขายในปีนี้กว่า 200 ล้านบาท และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ Commerce ในปีนี้ให้เติบโตตามเป้าหมาย