ตลาดสองล้อ‘กัมพูชา’เนื้อหอม‘ลีสซิ่งไทย’พาเหรดแข่งเปิดสาขาชิงเค้ก

วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ตลาดสองล้อ‘กัมพูชา’เนื้อหอม‘ลีสซิ่งไทย’พาเหรดแข่งเปิดสาขาชิงเค้ก


ตลาดมอเตอร์ไซค์กัมพูชาเนื้อหอม บริษัทลีสซิ่งไทยแห่เปิดบริษัท ชิงส่วนแบ่ง ฐิติกร เปิดบริษัทใหม่ “ซัวสดัยไฟแนนซ์” ปักธงที่พนมเปญเริ่มปล่อยสินเชื่อแล้ว หวังใช้เป็นหัวหอกบุกตลาด AEC ด้าน กรุ๊ปลีสแฮปปี้ GL Finance บริษัทลูกในกัมพูชา เริ่มทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ คาดดันกำไรพุ่งแรงในครึ่งหลังปีนี้ ปัจจุบัน รถมอเตอร์ไซค์จากประเทศไทย กำลังเป็นที่นิยมในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดมอเตอร์ ไซค์ในประเทศเหล่านี้ กำลังเติบโต แต่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเก็บเงินสดซื้อ ระบบการเช่าซื้อยังไม่เป็นที่นิยม ประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจในระบบผ่อนส่ง ทำ ให้บริษัทเช่าซื้อของไทยมองเห็นช่องทางในการขยายตลาด และเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน หรือ เออีซี รวมทั้งหาตลาดใหม่ๆ ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยชะลอตัว จากปัญหาการเมือง นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ซึ่งเป็นผู้นำสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผย “สยามธุรกิจ” ว่าเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา TK ได้รับอนุญาตจัดตั้งบริษัทซัวสดัยไฟแนนซ์ (SUOSDEY FINANCE PLC.) จากธนาคารแห่งชาติกัมพูชา เพื่อประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการขยายธุรกิจรับ AEC ของบริษัท โดยบริษัทฐิติกร ได้จัดตั้งบริษัท ซัวสดัยไฟแนนซ์ (SUOSDEY FINANCE PLC.) ณ กรุงพนมเปญด้วยทุนจดทะเบียน 1 แสนยูเอสดอลลาร์หรือ 3 ล้านบาท ถือหุ้นโดย บมจ. ฐิติกร 98% ส่วนอีก 2% ถือโดยตนและนางสาวปฐมา พรประภา เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ซึ่งได้เริ่มดำเนินการปล่อยสินเชื่อนับแต่วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกที่ บมจ.ฐิติกร ได้รุกเข้าไปทำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในต่างประเทศ ระยะแรกจึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าก่อน การทำตลาดจึงต้องเดินเข้าไปเคาะประตูบ้าน เพื่อทำความรู้จัก เนื่องจากผู้ใช้รถส่วนใหญ่ในกัมพูชาที่มีอยู่ 15 ล้านคน ซื้อรถด้วยเงินสด ยังไม่เข้าถึงระบบการซื้อด้วยเงินผ่อน ในปีแรกบริษัทเองจึงต้องเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ซื้อและทำความเข้าใจกับกฎหมายของกัมพูชาให้ละเอียดก่อน และจะปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่มีคุณภาพดีเท่านั้น ระยะแรกจึงคาดว่ามูลค่าจะอยู่ประมาณ 20-30 ล้านบาทเท่านั้น หรือประมาณ 200,000 คัน แต่ในอนาคตคาดว่าจะโตอีกมาก เพราะมีผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้ออยู่น้อยในประเทศนี้จึงเป็นโอกาสที่เราจะขยายตลาดได้อีกมาก นายประพล กล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ระบบการปล่อยสินเชื่อจะต้องเข้มงวดและระมัดระวัง ถึงแม้จะเป็นลูกค้าคุณภาพดี โดยเงินดาวน์จะสูงอยู่ที่ประมาณ 30-40% และผ่อนชำระสูงสุด 24 เดือนหรือ 2 ปีเท่านั้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักคือผู้ใช้รถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ ในอนาคตเตรียมแผนที่จะเข้าไป เปิดตลาดเช่าซื้อในอีกหลายประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการของ ใบอนุญาต สำหรับครึ่งปีแรกปีนี้ ลูกหนี้เช่าซื้อสุทธิของบริษัทรวม 8,596.8 ล้านบาท ลดลง 5.1% จาก 9,058.8 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์ในครึ่งปีแรกมียอดขาย 877,000 คัน หดตัวถึง 20.1% จาก 1,097,338 คัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของไทย ถือเป็นบริษัทลีสซิ่งรายแรกของไทยที่เข้าไปลงทุนขยายธุรกิจในกัมพูชาโดยตั้งบริษัทลูกในกัมพูชาคือ GL Finance (GLF) ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบ ธุรกิจเช่าซื้อจากธนาคารแห่งชาติของกัมพูชาเป็นเจ้าแรก หลังจากมองว่าเป็นตลาดมีศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับอัตราการทำกำไรสูงกว่าเมืองไทยเป็นอย่างมาก อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา ตลาดเมืองไทยชะลอตัว จากปัจจัยการเมืองยืดเยื้อ นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GL เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในประเทศกัมพูชา ได้ผ่านพ้นจุดคุ้มทุน ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ 1,400 คันต่อเดือน และบริษัทจะเริ่มบันทึกกำไร เป็นกอบเป็นกำตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป โดยคาดว่า ตลาดเช่าซื้อในกัมพูชาจะขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเพิ่มยอดขายให้ได้ถึง 3,500 คันต่อเดือนภายในปลายปีนี้ และพุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็น 5,000 คันในปีถัดไป นอกจากนี้ GL ยังได้รับลิขสิทธิ์ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในกัมพูชาเพียงเจ้าเดียว และลูกค้าในประเทศกัมพูชาจัดว่ามีคุณภาพดีเยี่ยม เนื่องจากแทบจะไม่มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เลย ในขณะที่อัตราการทำกำไร (Profit Margin) อยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าตลาดในประเทศไทย เป็นอย่างมาก นายมิทซึจิ มั่นใจว่า ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจะมี พัฒนาการที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เนื่องจากจะเริ่มบันทึกควบรวมผลการดำเนินงานของบริษัทธนบรรณ จำกัด ซึ่ง GL ได้ซื้อกิจการมาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และในขณะเดียวกันบริษัทย่อยในกัมพูชาจะเริ่มทำกำไรเป็นกอบเป็นกำในไตรมาสนี้ ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยหลักนี้ จะส่งผลทำให้ยอดรวมกำไรปรับตัวดีขึ้นเป็นอย่างมากเริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 และต่อเนื่องไปเรื่อย ทั้งนี้ การควบรวมกิจการกับ ธนบรรณเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ บมจ.กรุ๊ปลีส สามารถเพิ่มยอดรวมสินเชื่อเช่าซื้อทั้งหมดทันทีได้ถึง 30% โดยเพิ่มจากเดิมประมาณ 4.7 พันล้านบาท รวมยอดสินเชื่อเช่าซื้อของธนบรรณประมาณ 1.5 พันล้านบาท เป็นยอดรวมกว่า 6.2 พันล้านบาท และในขณะเดียวกันยังเปิด โอกาสให้ GL เริ่มเจาะตลาดใหม่ด้านธุรกิจเงินด่วนสำหรับรถจักรยานยนต์มือสอง ซึ่งให้มาร์จิ้นกำไรสูงกว่าธุรกิจเช่าซื้อเดิม ดังนั้น บริษัทจึงคาดหวังว่ายอดสินเชื่อรวมที่เพิ่มขึ้นอย่าง ก้าวกระโดด ประกอบกับบริษัทลูก ที่กัมพูชาที่จะเริ่มบันทึกกำไรอย่างเป็น กอบเป็นกำ จะส่งผลทำให้กำไรโดยรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในครึ่งหลังของปีนี้


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ