‘เจ้าสัวเจริญ’ รุกขายตรงดิ้นเปิดช่องทางขายใหม่

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

‘เจ้าสัวเจริญ’ รุกขายตรงดิ้นเปิดช่องทางขายใหม่


“เบอร์ลี่ ยุคเกอร์” รับลูก “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” เปิดเกมรบช่องทางขายใหม่ ผ่านขายตรง และอีคอมเมิร์ซ หวังปิดจุดอ่อนเพิ่มจุดแข็ง หลังแข่งประมูลห้างค้าปลีกในไทยไม่สำเร็จ โดยจะนำร่องด้วยกลุ่มเครื่องสำอาง
ถ้าพูดถึง “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” หรือที่รู้จักกันในนามของกลุ่มเบียร์ช้าง ณ เวลานี้ ต้องบอกว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะการสยายปีกรุกต่อธุรกิจภายใต้อาณาจักรแห่ง “สิริวัฒนภักดี” จัดว่าหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาคอสังหาริมทรัพย์, ประกัน, เครื่องดื่ม ฯลฯ ขณะที่ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกนั้นหลายปีมานี้ “เจ้าสัวเจริญ” ยังคงเดินหน้ารุกหนักมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การไล่เทกโอเวอร์บริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ หรือ BJC ที่ดำเนินธุรกิจใน 5 กลุ่มหลักไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเช่นขวดแก้ว ขวดพลาสติก, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มเวชภัณฑ์ ยา เครื่องมือแพทย์, กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ เช่น เอเชียบุ๊ค เทคโนโลยี และกลุ่มสนับสนุนธุรกิจ เช่น บัญชีการเงิน กฏหมาย และขยายอาณาจักรออกไปต่างแดน ด้วยการเทกโอเวอร์ F{amp}N บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติสิงคโปร์ ด้านสินค้าอุปโภค บริโภค และอสังหาริมทรัพย์
เมื่อไม่นานมานี้กลุ่มเบียร์ช้างยังได้โออิชิธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มชื่อดัง และเสริมสุข ยักษ์ใหญ่ด้านโลจิสติกส์มาอยู่ใต้ร่มธงเสริมความแกร่งเครือข่ายธุรกิจ แต่จุดอ่อนของกลุ่มเจริญก็คือการขาดช่องทางการขาย กระทั่งมีความพยายามที่จะต่อยอดทางธุรกิจในการขยายเครือข่ายการค้าปลีก ด้วยการแอบซุ่มเจรจาขอซื้อกิจการห้างแม็คโคร และคาร์ฟูร์หวังใช้เป็นจุดเชื่อมโยงธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ซึ่งหากสำเร็จนั่นหมายความว่าธุรกิจค้าส่งค้าปลีกจะเป็นช่องทางในการจำหน่ายที่สำคัญในการช่วยกระจายสินค้าส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกันยังถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนหรือเออีซีในช่วงปลายปี 2558 แต่แล้วก็ไม่สามารถ ปิดดีลการเจรจาซื้อได้เป็นผลสำเร็จ เพราะดีลการเจรจาซื้อห้างแม็คโคร และคาร์ฟูร์ ถูกเจ้าสัวซีพีและเซ็นทรัลปาดหน้าเจรจาซื้อไปเสียก่อน
คงเพราะเหตุนี้กระมังที่ทำให้ในที่สุดทางบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์จึงต้องปรับแผนเดินหน้าสู่ภูมิภาคอาเซียน พร้อมกับการเข้าเทกโอเวอร์ในธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ของประเทศเวียดนาม ที่ชื่อว่าบริษัท เมโทร แคช แอนด์ แครี่อาเซียน ด้วยมูลค่าสูงเฉียด 3 หมื่นล้านบาททีเดียว ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่แสนจะคุ้มค่า ทีเดียวเพราะนอกจากจะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังสามารถเติมเต็มธุรกิจในเวียดนามได้อีกช่องทาง จากเดิมที่มีโรงงานผลิตกระป๋อง ขวดแก้ว ยังจะได้ร้านค้า สะดวกซื้อเพิ่มขึ้นอีก ขณะเดียว กันยังสามารถเชื่อมโยงธุรกิจจากเวียดนามสู่ประเทศลาว ตลอดจนกัมพูชาได้ในอนาคตด้วย
ล่าสุด ทางบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ยังคงสยายปีกรุกเปิดช่องทางขายใหม่ๆ ด้วยธุรกิจขายตรง โดย นายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและฝ่ายธุรกิจ อี คอมเมิร์ซ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ออกมาเปิดเผยว่าบริษัทได้วางแผนสร้างช่องทางในการจำหน่ายสินค้าที่เป็นของตนเองขึ้นมา 2 ช่องทางด้วยกันคือการนำสินค้าไปจำหน่ายในธุรกิจขายตรง โดยการจับมือร่วมกับบริษัท มาย บิช อินเตอร์เนชั่นแนล และช่องทางอีคอมเมิร์ซ โดยการจัดตั้งบริษัท บีเจซี คอมเมิร์ซ ขึ้นมาสำหรับการจำหน่ายสินค้าทั้งสองช่องทาง โดยมุ่งจำหน่ายที่กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเครื่องสำอางนำร่องก่อน ซึ่งจะเป็นการพัฒนาแบรนด์และสินค้าขึ้นมาใหม่ ทั้งในส่วนที่มีการผลิตเองและนำเข้า
สำหรับปีนี้บริษัทจะเปิดตัวทางด้านธุรกิจขายตรงก่อน โดยผ่านทางธุรกิจขายตรงมายบิซซึ่งจะประเดิมด้วยการส่งสกินแคร์พรีเมดิกาพลัส จำหน่ายก่อนโดยจะมีประมาณ 3-4 รายการ อาทิ ครีมกันแดด ไวเทนนิ่ง และเตรียมนำกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมาจำหน่ายเพิ่มเติมต่อไป นอกจากนี้ บริษัทยังมองถึงโอกาสในการขยายธุรกิจขายตรง เปิดตลาดในอาเซียนผ่านทางมายบิซ อีกทั้งยังนำกลุ่มสินค้าพรีเมดิกา พลัส จำหน่ายในธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยจะเริ่มดำเนินการในปีหน้า ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ทุ่มงบในการลงทุนถึง 50 ล้านบาททั้งในส่วนของระบบออนไลน์และระบบการกระจายสินค้า ซึ่งจะมอบให้บริษัทบีเจซี โลจิสติกส์ บริษัทในเครือกระจายสินค้าให้กับผู้ที่สั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ จากปัจจุบันเป็นบริษัทกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับบีเจซีอยู่แล้ว
นายสรรค์ชัย ยังได้กล่าวต่อว่า การขยายช่องทางจำหน่ายทางอีคอมเมิร์ซและธุรกิจขายตรงจะทำให้สินค้าเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ยิ่งขึ้น สำหรับรายได้จากการจำหน่ายสินค้าผ่านทางธุรกิจขายตรงในปีหน้านั้นได้มีการตั้งเป้าไว้ ที่ 200 ล้านบาท ส่วนรายได้ในส่วนกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือ บีเจซี นั้นคาดว่าสิ้นปีจะไม่มีอัตราเติบโตหรือรายได้ราว 6,000 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ