สะบัดร้อนสะบัดหนาว : ณรงค์ ปานนอก

พรรคประชาธิปัตย์ตั้งเวที "ผ่าความจริง" ตามรอยม็อบเสื้อแดงมาตลอดเลียนแบบแม้กระทั่งเปิดสื่อทีวีดาวเทียม "บลูสกาย" ขยายความนิยมให้เรตติ้งคนดูเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนคนในฟากพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่ามีคะแนนตีตื้นได้

จึงใช้กลยุทธ์ปราศรัยคู่ขนานไปกับการเมืองในรัฐสภา กลายเป็น "ยุทธศาสตร์ 3 ขา" ที่น่าจะยืนหยัดมั่นคงไปอย่างได้ผล

แต่กลับไม่น่าเชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์พลาดพลั้งหัวคะมำตีลังกาคลุกฝุ่นก้นจ้ำเบ้าไม่เป็นท่าในหลายเกม เหมือน "มวยชกไม่สมศักดิ์ศรี" ของพรรคเก่าแก่ยังไงยังงั้น

ขาหนึ่ง ใช้สื่อโทรทัศน์ดาวเทียมแทนที่จะรายงานข่าวไปตามความเป็นจริง ก็กลับ "ใส่สีตีไข่" ใส่อารมณ์และความรู้สึกส่วนตัว แถมพ่วงลีลาถอดแบบประชาธิปัตย์เหน็บแนมผสมข่าวจนไม่เป็นข่าว มีแต่วิพากษ์และใส่ความเห็นของคนอ่านข่าวไปเสียฉิบ...ยิ่งบวก "สามเกลอสายฟ้าผ่า" ที่ส่งตรงจากพรรคไปจัดรายการแขวะพรรคศัตรูคู่ตรงข้ามด้วยแล้ว จึงดูไม่จืด

ถามว่า มีคนนิยมเพิ่มขึ้นไหม ตอบได้เลยว่า มีคนดูเพิ่มขึ้นจากที่ไม่เคยมีสื่อ เลือกข้าง มาเป็นการเพิ่มเรตติ้งให้สมาชิกของพรรคได้มีโอกาสสัมผัสข่าวคราวของฝ่ายตัวเองบ้าง

ความนิยมที่เห็นชัด จะเหนียวแน่น ก็เฉพาะในภาคใต้และสมาชิกพรรคเท่านั้น

ส่วนบนเวทีนอกสภา (ขาที่ 2)ตามที่ประชาธิปัตย์หมายมั่นว่าจะเป็น "หมัดเด็ด" ด้วยการปราศรัยที่ช่ำชองหาใครจากพรรคไหนมาเทียบได้ยาก หวังปลุกระดมให้มวลชนคนรักประชาธิปัตย์หลั่งไหลถาโถมให้เสมือน "สึนามิ" ที่น่าสะพรึงกลัว เมื่อหัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นหัวหมู่นำทัพเคลื่อนมวลชนจากใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ ไปแสดงพลังที่หน้าสภา เพื่อกดดันทั้งภายนอกและการอภิปรายในสภา (ขาที่ 3) ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรมการ แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือ และ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท สร้างรถไฟความเร็วสูงให้ ล้มครืนลงให้ได้...แต่แล้วก็กลายเป็น "มุกแป้ก" หน้าแตกยับ

ประชาธิปัตย์อาจลืมไปก็ได้ว่า กลยุทธที่ดีที่สุดในสภานั้น คือการอภิปรายที่มีเนื้อหาสาระและมีเหตุมีผล มีข้อมูลที่เต็มไปด้วยน้ำหนักน่าเชื่อถือ คือ "หมัดเด็ด" ที่สามารถน็อกคู่ต่อสู้ดีกว่าอาวุธร้ายใดๆ ทั้งสิ้น

แต่ห้วงเวลานั้น คนของพรรคเก่ากลับหันไปใช้ลีลาถ่อย เถื่อน หยาบคาย ไร้จรรยามารยาท ส.ส.หลายรายยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนคนขาดสติ กำลังเดินหลงอยู่ในอบายแห่งกิเลส จะว่าสูบยาไอซ์ใส่กัญชาหรือพกพาใบกระท่อมเข้าสภาหรือก็ หาคำบรรยายให้สมกับพฤติกรรมที่พบเห็นไม่ถูกจริงๆ

ช่างเป็นภาพที่ประทับตาสยองใจแก่ผู้คนทั้งแผ่นดินที่สัมผัสรู้ได้อย่างยาวนานแท้

ยังคิดว่าเมื่อถึงวันนั้น วันที่คุณสุเทพเตรียมพร้อม เราจึงอยากเห็นจริงๆ ว่า คุณสุเทพจะ "เป่านกหวีด" เรียกพลรวมพวกมาให้เกิดกระแสฝูงชนล้นหลามแบบพลิกแผ่นดินได้หรือไม่...และเมื่อเจือสมกับคารมคมกริบที่สรรหามาเทียบไม่ได้อีกแล้วในพิภพนี้ที่พ่นออกมาจากปากหัวหน้าพรรคซึ่งมีอายุอานามทั้งหนุ่มและหล่อที่สุด ด้วยคำว่า "แรด" - "กะหรี่" และ "อีโง่"

เราจึงสัมผัสได้กับสัญญาณของพรรคเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย กำลัง "อับแสง" และเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา...เป็นกาลเวลาที่ไม่น่าเชื่อว่า จะหรี่แสงลงภายใต้กำมือของคนวัยฉกรรจ์ที่พรั่งพร้อมไปด้วยพลังประชาธิปไตยที่ถูกปลุกปั้นมาแต่อ้อนแต่ออก

แต่ดันปิดตาเดินหลงไปเข้าถ้ำ ทำท่าจะตามพี่เลี้ยงมุดลงไปในรูใช้ชีวิตอยู่เยี่ยงญาติแมลงสาบ

เพราะพฤติกรรมที่ "สาละวันเตี้ยลง" ของคนชั้นนำในพรรคเก่าแก่นี่เอง มวลชนคนเสื้อแดงจึงได้ทีที่เห็นอาการเพลี่ยงพล้ำเข้าลักษณะ "ปลาหมอตายเพราะปาก" และเป็นที่เบื่อหน่ายของคนใจเป็นกลาง...จึงใช้กลยุทธ "ตั้งเวทีตีโอบ" ย้อนรอยเวทีผ่าความจริงอันแสนหยาบทันที

ด้วยเวทีปราศรัยที่สุภาพ และมีคารมโวหารที่ไม่น้อยหน้ากว่าพรรคประชาธิปัตย์ ใครได้ฟังก็รื่นหูประทับใจในลีลาการพูดที่ไม่เป็นรองพรรคที่อายุมากกว่า 60 ปีตรงไหน แถมยังตอกย้ำให้ติดตรึงไปถึงผู้คนอย่างเข้ากระดูกด้วยว่า รัฐบาลไหนที่ไม่รับผิดชอบต่อความตายของประชาชน อันเป็นจิตสำนึกของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยควรตระหนัก

มวลชนคนเสื้อแดง เป็นแค่พลังประชาชนกลุ่มหนึ่งซึ่งได้หล่อหลอมการเรียกร้องทางการเมืองด้วยเลือดและชีวิตมาอย่างตกผลึกมากกว่าพรรคเก่าแก่อย่าง ประชาธิปัตย์ ซึ่งปัจจุบันได้กลายร่างจากพรรคนักต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบมาเป็นพรรคที่อิงแอบแนบชิดกองทัพแบบหลับหูหลับตา ไม่พอใจใครก็หาทางยั่วยุจะให้ทหารออกมายึดอำนาจจากระบบเลือกตั้งของประชาชนอีก

จึงดูเหมือนยุทธศาสตร์ม็อบเสื้อแดงจะพัฒนาเหนือกว่าพรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์ไกลไปหลายก้าว และเห็นว่า แม้แต่เวทีปราศรัยทางการเมืองที่เชี่ยวชาญที่สุดของประชาธิปัตย์ ก็กลับถูกดูดซับโดยม็อบเสื้อแดงที่กำลังตีโอบย้อนกลับมาปราศรัยอย่างสุภาพชนที่มากด้วยเหตุผล สร้างพลังศรัทธาน่าเชื่อถือแทน

วันหนึ่งที่ม็อบเสื้อแดงสร้างเวทีศรัทธาให้คนเมืองหลวงนิยมชมชอบได้ ประชาธิปัตย์อาจถอยร่นลงไปอยู่แค่แดนใต้เพียงภาคเดียว...เพราะณัฐวุฒิฟันธงมานานแล้วว่า ขอบคุณที่ยกให้อภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยาว นานต่อไป แล้วจะรู้เองว่า "อเวจี มีจริงหรือไม่ ?"