Toggle navigation
วันพฤหัสบดี ที่ 5 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
"พาคนกลับบ้าน" แก้โจทย์ไฟใต้! สร้างหลักประกันแห่ง"สันติสุข"
"พาคนกลับบ้าน" แก้โจทย์ไฟใต้! สร้างหลักประกันแห่ง"สันติสุข"
วันเสาร์ที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2556
Tweet
เดินหน้าโครงการ "พาคนกลับบ้าน" จากนโยบาย "สานใจสู่สันติ" โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากรัฐ หรือผู้ที่ต่อสู้กับรัฐด้วยวิธีรุนแรง หันกลับมาแก้ปัญหาด้วย "สันติวิธี" พร้อมเข้ารายงานตัวแสดงตนเพื่อแสวงหาทางออก จากปัญหาความขัดแย้ง
แม้การแสวงหาทางออกร่วมกันระหว่าง "รัฐ" กับ "ผู้เห็นต่าง" จะเริ่มต้นมานานแล้ว นับตั้งแต่มีการโหมกระพือของไฟใต้ แต่เริ่มจะเห็นเป็นรูปธรรมเมื่อไม่นานมานี้เอง โดยมี "เสธ.เมา" พล.ท. อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาค 4 ได้นำแนวทางที่มุ่งเน้นการ "เสริมสร้างความเข้าใจ" และฟื้นคืนความไว้วางใจระหว่างรัฐกับประชาชน และระหว่างประชาชนด้วยกันเอง ขณะที่ฝ่ายรัฐก็ยินดีให้ความช่วยเหลือในเรื่องความเป็นธรรม
เช่นเดียวกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ได้มีการติดตามตรวจสอบเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในช่องทางต่างๆ โดย "รัฐ" ได้พยายามเร่งรัด "คดี" ที่ยังค้างอยู่ในการพิจารณา
โดยที่การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบนั้น จะยึดโยงอยู่บนความจริง ใจของ "ภาครัฐ" ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม ให้คุณค่ากับชีวิตมนุษย์ ดำรงคุณภาพชีวิต ความมีเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้ได้รับผลกระทบทุกฝ่ายด้วยความถูกต้องและเป็นธรรม
"พาคนกลับบ้าน" จึงนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จต่อแนวทางแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของ "รัฐบาล" เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม และเอื้อต่อการพูดคุยในการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง รวมถึงการให้ "หลักประกัน" ในการเข้ามามีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการ "เสริมสร้างสันติภาพ"
ขณะที่ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้กล่าวถึงแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้ว่า
"..รู้สึกดีใจที่ทราบว่าพี่น้องทุกคนมีความต้องการที่จะร่วมกันยุติปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น 100 ปีที่ผ่านมา ที่ทุกคนเกิดความคับแค้นใจอะไรต่างๆ นั้น ตนเองในฐานะของทหารก็ต้องขออภัยและขอโทษกับทุกสิ่งที่ผ่านมาด้วย แม้เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ แต่ก็สามารถเริ่มต้นกันใหม่ได้และหวังว่าในวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ดีวันหนึ่ง พวกเราทุก คนก็จะมาร่วมกันสร้างความสันติสุขขึ้นในพื้นที่โดยเร็ว"
"พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง" ผู้บังคับ การหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 47 ระบุถึงการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยการขับเคลื่อนผ่านนโยบาย "สานใจสู่สันติ" !!
"แม้ที่ผ่านมาจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐออกมาแสดงตนแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากบุคคลที่หลงผิดยังขาดข้อมูลที่ถูกต้อง หรืออาจจะมองไม่เห็นช่องทางในการออกมาแสดงตน ทั้งยังขาดคนชี้นำ ให้คำปรึกษาในกระบวนการ แสดงตน กอปรกับผลสืบเนื่องจากการกระทำที่ผิดพลาด หรือผิดกฎหมาย ของตนเองในขณะที่ร่วมอยู่ในขบวนการ"
ด้วยเหตุนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการประสานงานและรณรงค์เพื่อยุติการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะกรรมการอำนวยความสะดวกด้านกระบวนการ ยุติธรรมสำหรับผู้รายงานตัวแสดงตนเพื่อยุติการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ออกมาแสดงตน โดยการช่วยเหลือ ด้านกฎหมาย ทำให้ผู้เห็นต่างมีความเข้าใจและเห็นถึงความตั้งใจจริงของ "รัฐ" ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่าง "สันติวิธี" ทำให้ผู้ที่มีความเห็นต่างเข้ามารายงานตัวแล้วทั้งสิ้น 983 คน ขณะที่รัฐได้ให้การช่วยเหลือเสร็จสิ้นแล้ว 648 คน และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 335 คน
สำหรับการแสดงตนของ "ผู้เห็นต่าง" ในพื้นที่จังหวัดยะลาในครั้งนี้ นับว่าเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของการแก้ไข ปัญหาไฟใต้อย่างสันติวิธี ทั้งยังได้รับความ ร่วมมือจากทุกภาคส่วน มีการบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่มีความมุ่งมั่นในแนว ทางปฏิบัติตามนโยบายการเมืองนำการทหาร โดยการสร้างสภาวะที่เกื้อกูลต่อการขจัดความขัดแย้งที่มีอยู่ ยึดหลักกฎหมาย หลักสิทธิมนุษยชน และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ สร้างสถาบันครอบครัวที่อบอุ่น มีความเข้มแข็ง อันจะนำไปสู่สันติสุขที่ยั่นยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
ทางด้านผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐ เปิดเผยผ่าน "สยามธุรกิจ" เกี่ยวกับการเข้าร่วมแสดงตนเพื่อแสวงหาทางออก "สางปัญหาไฟใต้" ที่ต้องแก้ด้วยสันติวิธี!!
"เป็นสิ่งที่อยากทำมานานแล้ว แต่ขณะนั้นยังไม่มีความเชื่อมั่นในฝ่ายเจ้าหน้าที่ รวมถึงกลัวจะถูกฝ่ายนั้นทำร้าย เพราะเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ ตอนนี้รู้สึกว่าภาครัฐมีความจริงใจมากขึ้น และที่สำคัญคืออยากอยู่ใกล้ๆ กับครอบครัว ที่จากไปก็คิดถึงมาก และตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นมากเหมือนได้เกิด ใหม่อีกครั้ง"
หากการออกมา "รายงานตัว" ในครั้งนี้ ไม่มีกระบวนการ "จัดฉาก" หรือมีสิ่งใดน่าเคลือบแคลง มันก็ย่อมจะเป็น "สะพาน" ที่ทอดยาวจาก "รัฐ" ไปสู่ประชาชนชาวใต้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่หลงผิด หรือที่ยังลังเล ไม่แน่ใจ และไม่มีความเชื่อมั่นต่อนโยบายของภาครัฐ ได้เห็นความจริงใจในการแก้ปัญหาภาคใต้ และพร้อมตัดสินใจออกมาแสดงตนเพื่อ "ยุติความรุนแรง"
โดยที่คนกลุ่มแรกนี้เอง จะเป็นตัวอย่างให้กับคนอื่นๆ "เข้าใจ-เข้าถึง"
ยิ่งถ้ารัฐมีนโยบายที่ถูกต้อง สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบ โอกาสที่การใช้ "สันติวิธี" เปิดพื้นที่พูดคุย เพื่อยุติปัญหาความรุนแรงก็จะประสบผล แต่ถ้าแนวร่วมเหล่านี้ได้รับการปฏิบัติจากหน่วยงานของรัฐ ที่ขัดแย้งกันเองในความคิดและวิธีปฏิบัติ ที่มักจะไปกันคนละทิศละทาง..นโยบาย "พาคนกลับบ้าน" ก็คงจะเกิดได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ทิ้งอาวุธ..แล้วหันหน้าคุยกันร่วมสร้างสันติสุขให้กลับคืนสู่จังหวัดชายแดนใต้!!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
สังคมอุดมการพนัน By นายหวานเย็น...
...
ประธานาธิบดีพันธุ์หมาบ้า...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ