“ไฮคูล” มั่นใจตลาดฟิล์มกรองแสงปี 2565 เติบโตสอดรับกับตลาดรถยนต์ที่เติบโตจากผู้เล่นรายใหม่ และรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับกระแสนิยม วางเป้า “ไฮคูล” เติบโต 8% ด้วยสินค้านวัตกรรมใหม่ อย่าง ฟิล์มกรองแสง Super Hi-Kool รุ่น Beyond Ceramic ชิมลางตลาดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา พร้อมเตรียมทุ่มงบการตลาดรวม 50 ล้านบาทเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ โดยมีดีเจเพชรจ้าเป็นพรีเซนเตอร์ รวมทั้งทำการตลาดร่วมกับร้านประดับยนต์ และโชว์รูมรถยนต์ที่เป็นพันธมิตรกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ

ปรีชา วณิชชากรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายในประเทศ บริษัท ลีวณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ฟิล์มกรองแสง “ไฮคูล” ฟิล์มกรองแสงที่ลูกค้าเลือกใช้เป็นอันดับหนึ่งทั่วประเทศ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดฟิล์มกรองแสงปี 2564 หดตัวลงตามยอดขายของอุตสาหกรรมรถยนต์ สำหรับปี 2565 สภาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศไทยประเมินว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศจะอยู่ที่ 850,000 คัน หรือเพิ่มจากปีก่อนที่มียอดขาย 759,000 คัน ประกอบกับมีค่ายรถยนต์ใหม่เข้ามาแข่งขัน เช่น เกรท วอลล์ มอเตอร์ รวมทั้งการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ซึ่งรถยนต์ใหม่ยังจำเป็นต้องติดฟิล์มกรองแสงจากโชว์รูมทำให้ธุรกิจฟิล์มกรองแสงในปีนี้กลับมาคึกคัก

ปัจจุบันธุรกิจฟิล์มกรองแสงรถยนต์ของไทยมีมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท หรือ 600,000 คันต่อปี ซึ่งยอดขายรถยนต์ 2564 รวมทั้งปี 7.59 แสนคัน ซึ่งลดลง 4.2% จากปีก่อนหน้า สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปี 2565 “ไฮคูล” วางเป้าหมายการเติบโตฟิล์มกรองแสงรถยนต์ไว้ที่ 8% ผ่าน กลยุทธ์การตลาดทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจฟิล์มกรองแสงรถยนต์

ส่วนธุรกิจฟิล์มกรองแสงอาคาร และที่พักอาศัย ถือว่ามีการเติบโตต่อเนื่อง และสอดรับกับการขยายตัวของที่อยู่อาศัยแนวราบทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตวิถีใหม่ของผู้บริโภคที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยรองรับฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงมีการปรับปรุงที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน เพื่อป้องกันแสงแดด และมลพิษจากฝุ่นควันที่เกิดขึ้น “ไฮคูล” จึงได้เตรียมตั้งตัวแทนจำหน่ายเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ เพื่อมุ่งขยายธุรกิจฟิล์มกรองแสงอาคารอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้กำลังซื้อจะกลับมาฟื้นตัวทั้งสองกลุ่มธุรกิจ

ด้าน ชลิฏา วณิชชากรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด กล่าวว่า “จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด - 19 วิถีชีวิตผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป มีการใช้สื่อออนไลน์มากขึ้นในการค้นหาข้อมูลสินค้า ศึกษาข้อมูลสินค้า อ่านรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความต้องการซื้อสินค้าจริงๆ ช่องทางออนไลน์จึงเป็นช่องที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งปีนี้ “ไฮคูล” จะบุกช่องทางนี้มากขึ้น โดยจับมือกับโชว์รูมรถยนต์และค่ายรถยนต์ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าจัดทำคอนเทนต์ออนไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมทดลองประสิทธิภาพของฟิล์มกรองแสงนวัตกรรมใหม่ Super Hi-Kool รุ่น Beyond Ceramic ซึ่งเหนือกว่าทุกฟิล์มเซรามิคในท้องตลาด หรือฟิล์มกรองแสง Hi-Kool Ceramic รุ่น Black Night ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานตลอด 3 - 4 ปี เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคมากที่สุด”

สำหรับช่องทางออฟไลน์นั้น “ไฮคูล” ยังคงมุ่งทำการตลาดร่วมกับคู่ค้าของบริษัทที่เป็นร้านประดับยนต์ ซึ่งมีกิจกรรมสนับสนุนการขายตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น Flash Sale ประจำเดือน, ตรุษจีนอินเลิฟ, สาดโปรรับสงกรานต์ หรือแม้กระทั่งลงพื้นที่สำรวจความพึงพอใจของตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภคครอบคลุมทั้ง 4 ภูมิภาค เพื่อเข้าถึงความต้องการของตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภคอย่างจริงใจ

ชลิฏา ยังได้กล่าวถึงนวัตกรรมใหม่ของ “ไฮคูล” ว่า หลังจากรัฐบาลได้คลายมาตรการล็อกดาวน์ และเริ่มเปิดประเทศจนสามารถจัดงานเมื่อปลายปีได้ “ไฮคูล” ได้ส่งสุดยอดฟิล์มติดกระจกรถยนต์ Super Hi-Kool รุ่น Beyond Ceramic ฟิล์มเซรามิคหนึ่งเดียว ที่ยกระดับนวัตกรรมอุตสาหกรรมฟิล์มรถยนต์ขึ้นไปอีกขั้น โดยเป็นการผสานสาร Nano Ceramic สารป้องกันรังสี UV และ IR เข้าเป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อฟิล์ม PET ด้วย Embedded Nano Technology ทำให้ได้ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณสมบัติทนทานกว่า อายุการใช้งานยาวนานกว่า และกันความร้อนได้สูงขึ้น จึงเย็นกว่าด้วยการป้องกันรังสีอินฟราเรด Infrared Rejected (IR) สูงถึง 99 % และเหนือกว่าด้วยชั้นปกป้อง Premium Metallized Ceramic ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานกว่าอายุการใช้งาน และกันความร้อนได้สูงทำให้ป้องกันความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในงาน Motor Expo

ทั้งนี้ “ไฮคูล” ได้วางแผนใช้งบการตลาดรวม 50 ล้านบาทในปี 2565 เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ “Super Hi-Kool รุ่น BEYOND CERAMIC” ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ โดยมี “ดีเจเพชรจ้า” เป็นพรีเซนเตอร์ รวมทั้งมีการทำการตลาดร่วมกับร้านประดับยนต์ และโชว์รูมรถยนต์ที่เป็นพันธมิตรกับ Hi-Kool ที่มีอยู่กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ

ชลฑิชา วณิชชากรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานทั่วไป ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้นอกจากการมุ่งทำตลาดสินค้านวัตกรรมใหม่แล้ว “ไฮคูล” ยังให้ความสำคัญกับฝีมือช่างติดตั้งฟิล์มกรองแสง โดยได้จัดทำโครงการ Smart Service Project เพื่อเพิ่มการฝึกอบรมทักษะ และพัฒนาฝีมือช่างติดตั้งฟิล์มกรองแสงทั้งหมวดงานรถยนต์ และงานอาคาร เพื่อสร้างช่างติดตั้งให้มีฝีมือ และพร้อมปฏิบัติได้จริง โดยมีมาตรฐานควบคุมคุณภาพงานติดตั้งสมกับความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฟิล์มกรองแสงมากกว่า 36 ปีของ

“ไฮคูล” และเพื่อเป็นการกระจายมาตรฐานสู่ร้านตัวแทนจำหน่ายในอนาคต “ไฮคูล” มีแผนจับมือร่วมกับหน่วยงานราชการเพื่อร่วมกันพัฒนาฝีมือแรงงาน โดย “ไฮคูล” จะเป็นองค์กรเอกชนที่มีส่วนช่วยสังคมในการพัฒนาแรงงาน และสร้างอาชีพต่อไปในอนาคตอีกด้วย”