บริษัทขายตรงทุ่มทุนลุยสื่อทีวีงัดกลยุทธ์ปั้นแบรนด์ชิงลูกค้า

วันอังคารที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

บริษัทขายตรงทุ่มทุนลุยสื่อทีวีงัดกลยุทธ์ปั้นแบรนด์ชิงลูกค้า


กลุ่มบริษัทขายตรงเทงบการตลาดโหมประชาสัมพันธ์ผ่าน “ทีวีดาวเทียม” เชื่อมั่นเรตติ้งออกอากาศกระตุกยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แรงเกินคาด เหตุผู้บริโภคโทร.สั่งซื้อสินค้า และสมัครสมาชิกเป็นจำนวนมาก ขณะที่หลายค่ายพาเหรดสร้างกลยุทธ์ปั้นแบรนด์ผ่านสื่อทีวีอีกเพียบ
แม้ว่าปัญหาสืบเนื่องทางการเมืองจะส่งผลทำให้ยอดขายของแต่ละบริษัทขายตรงจะสะดุดหยุดลงไปบ้าง แต่พลันที่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารนำโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งผลทำให้บ้านเมืองเริ่มกลับสู่ภาวะความสงบอีกครั้ง เช่นเดียวกับยอดขายของแต่ละบริษัทเริ่มกลับมาสดใสขึ้น ประกอบกับหลายค่ายเริ่มปรับกลยุทธ์ด้วยการนำด้านโฆษณาเข้ามาช่วย จึงน่าจะทำให้ภาพลักษณ์ในการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความศรัทธาให้กับประชาชนได้ดีทีเดียว โดยบริษัทขายตรงที่น่าจับตามองเป็นพิเศษก็คือ บริษัทขายตรงค่ายที่ใช้สื่อทีวีดาวเทียมเข้ามาเป็นตัวช่วยในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจและรีครูตสมาชิกเข้าร่วมทำธุรกิจเครือข่าย ซึ่ง ณ เวลานี้หลายค่าย ต่างทำสงครามแย่งพื้นที่ทีวีดาวเทียม เพื่อการโปรโมตธุรกิจกันอย่างดุเดือด
สำหรับตลาดโฮมช็อปปิ้งกลายเป็นสมรภูมิธุรกิจที่ดูจะร้อนแรงที่สุด ทั้งช่องทางเคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียมและกำลังขยายแนวรบสู่ทีวีดิจิตอล ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการกันบ้างแล้วในปีนี้ โดยมีการประเมินมูลค่าการตลาดน่าจะพุ่งพรวดจากปีก่อนอีกเท่าตัว และมีศักยภาพเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานแถลงข่าวจับมือกับบริษัท โมโม่ดอทคอม อินคอร์ปอร์เรชั่น จำกัด เจ้าตลาดธุรกิจ Home Shopping จากไต้หวัน ร่วมเปิดตัวช่อง TVD Shop ทีวี โฮมช็อปปิ้ง ซึ่งสามารถเปิดรับชมได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงภายใต้บริษัทย่อย “ทีวีดี ช็อปปิ้ง” ที่มี นายธนะบุล มัทธุรนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีดี ช็อปปิ้ง จำกัด เป็นผู้บริหารงาน
โดยนายธนะบุล กล่าวว่า บริษัท ทีวีดี ช็อปปิ้ง จำกัด และช่อง TVD Shop เกิดขึ้นจากการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD กับบริษัท โมโม่ดอทคอม อินคอร์ปอร์เรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท จดทะเบียนจากไต้หวันและเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการดำเนินธุรกิจการตลาดแบบตรงโดยขายสินค้าผ่านสื่อต่างๆ เช่น TV Home Shopping, E-commerce และ Catalogue ทั้งในไต้หวัน จีน และไทย โดย TVD ถือหุ้นในสัดส่วน 65% และ MOMO ถือหุ้นในสัดส่วน 35% ส่วนการเข้าร่วมทุนในครั้งนี้ TVD Shop จะได้รับผลประโยชน์จาก Know-How ในการทำธุรกิจ Home Shopping รวมทั้ง Technology Transfer เพื่อใช้ในรายการสด (LIVE) ที่จะเข้ามาเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจ Home Shopping พร้อมทั้งช่วยต่อยอดการดำเนินธุรกิจทั้งในส่วนของ E-commerce และ Catalogue และบริษทตั้งเป้ารายได้ในปีแรกไว้กว่า 500 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยังมีสินค้าที่พร้อมจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเพราะ TVD Shop ให้มากกว่าประสบการณ์การช็อปปิ้งเดิมๆ และที่เหนือกว่านั้น TVD Shop ทำให้คนชอบช็อปมั่นใจได้ว่าคุ้มชัวร์ ด้วยสินค้ามากกว่า 2,000 รายการจากทั่วทุกมุมโลก โดยสามารถรับชมช่อง TVD Shop ได้ทาง PSI ช่อง 5 Big 4 ช่อง 5 IPM ช่อง 51 52 CTH ช่อง 136 และ MCOT ช่อง 172      
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีค่ายขายตรงจากหลายบริษัทที่ต่างออกมาจับทีวีดาวเทียม  เริ่มจาก ดร.นพรุจ เวชกุล ประธานกรรมการ บริษัท นีโอไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  ที่ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการขายตรงไทยด้วยการเปิดช่องทีวีดาวเทียม ช่อง “สยามธุรกิจ แชนแนล” เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารระหว่างสมาชิกและลูกค้าของบริษัท โดยมี นายศุภโชค โอภาสะคุณ นั่งแท่นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “สยามธุรกิจ แชนแนล” ทำหน้าที่คอยให้บริการ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสยามธุรกิจแชนแนล ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของข่าวสารและสาระ พร้อมๆ กับเพิ่มช่องทางในการรับชมใหม่ให้มีความหลากหลายมากขึ้นเพื่อการรับรู้ข่าวสารผ่านช่องมัลติมีเดียในแขนงต่างๆ อาทิ แซทเทลไลท์ทีวี Thaicom 5 ระบบ C-BAND, www.Siamch.net,Facebook : ช่องสยามธุรกิจ Channel และสามารถดาวน์โหลด Application ระบบ iOS และ Android เพื่อให้สมาชิกมีความสะดวก และรับชมสื่อดีๆ ได้อย่างเต็มอรรถรส
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดให้สมาชิกสมัครรับข่าวสารสารทาง SMS โดยขั้นตอนการสมัคร พิมพ์ R ส่งมาที่ 4689877 หรือ กด *468987700 และกดโทร.ออกเพียง 29 บาท/ต่อเดือน เพียงแค่นี้สมาชิกและแฟนๆ ผู้รับชมทั่วไปของ สยามธุรกิจ แชนแนลก็ไม่พลาดถึงการรับข้อมูลข่าวสารได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ รายละเอียดสามารถสอบถามได้ที่ 0-2692-8827 และ Fax : Call Center 0-2692-5318
ขณะที่ “พ.ญ.นลินี ไพบูลย์” เจ้าของ “กิฟฟารีน” ยอมลงทุนระเบิดความแรง ด้วยการเปิดช่อง “ทีวีดาวเทียม” เป็นของตัวเอง ด้วยการทุ่มงบ 50 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายต้องการให้กิฟฟารีนเป็นสถาบันแห่งการสร้างนักธุรกิจเครือข่ายเจ้าของกิจการอย่างแท้จริง  และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้เพื่อการขยายเครือข่ายอย่างยั่งยืนในกลุ่มนักธุรกิจกิฟฟารีน ด้วยการยกระดับสื่อธุรกิจขายตรงยุคดิจิตอล มาร์เก็ตติ้งและโซเชียลมีเดีย
โดย “กิฟฟารีน แชนแนล” สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมสไตล์ขายตรงยุคใหม่ เน้นสร้างความโดดเด่นและแตกต่าง โดยยิงสัญญาณ ดาวเทียมแพร่ภาพออกอากาศพร้อมกัน ทั่วประเทศใน 2 ระบบ คือ ระบบ C-Band ผ่านดาวเทียม THAICOM-5 (จานติดตั้งขนาด 1.5 เมตรขึ้นไป) ส่งสัญญาณครอบคลุมประเทศไทย ประเทศในแถบทวีปเอเชีย ยุโรป และทวีปออสเตรเลีย รับชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านจานดาวเทียม PSI ทางช่อง 112 และจานดาวเทียมของกลุ่ม Big4 ได้แก่ INFOSAT IDEASAT THAISAT และ LEOTECH สามารถรับชมได้ทางช่อง 212 และ GMM-Z ทางช่อง 60 และระบบ KU- Band ผ่านดาวเทียม NSS-6 (จานติดตั้งขนาด 35 เซนติเมตรขึ้นไป) ส่งสัญญาณครอบคลุมประเทศไทย และประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย รับชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านจานดาวเทียม INFOSAT DYNASAT และ IPM รับชม Giffarine Channel ได้ทางช่อง 112 จาน PSI (C-Band) และช่อง 212 จาน INFOSAT, IDEASAT, THAISAT และ LEOTECH (C-Band) โดยได้เปิด On Air พร้อมกันทั่วประเทศไปเมื่อปีที่แล้วทั้งในระบบ C Band และระบบ KU Band
มาดูกันที่ค่ายเล็กๆ โดย นายโกสิทธิ์ ผะลิวรรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สตาร์ ซันไชน์ จำกัด เปิดเผยว่า ได้วางแผนและปรับแนวคิดใหม่ กับการบริหารงาน ที่ใช้สื่อทีวีเข้ามาเป็นตัวช่วยในการขยายและบุกตลาดอย่างต่อเนื่องแล้ว โดยให้ความสำคัญกับสื่อทีวี Ping Channel (PSI 61) และ Hero Channel (PSI 131) 2 ช่องรายการทีวีดาวเทียมของบริษัท ซึ่งได้มีการพัฒนาช่องให้สังคมและบุคคลทั่วไปได้รู้จักช่องมากขึ้น โดยมีการผลักดันรูปแบบช่อง ไปในแนวทางของฟรีทีวี
โดยบริษัทได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เห็นว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง จึงได้อนุมัติและให้การสนับสนุนในการผลิตรายการนี้ขึ้นภายใต้การดูแลและประสานงานการผลิตโดยโรแมนซ์ และถ่ายทำรายการ โดย Ping Channel ซึ่งรายการนี้มีชื่อว่า รายการ “ปะ ฉะ ดะ” ออกอากาศ ทางช่อง Ping Channel (PSI 61)
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งทำตลาดผ่านวิทยุชุมชนและทางช่องทีวีดาวเทียม ที่ทำมาหลายปีอย่างต่อเนื่อง เพราะถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่เห็นผล โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนสร้างออฟฟิศใหม่ ทำห้องสตูถ่ายทำรายการต่างๆ รวมทั้ง ซื้อสื่อโทรทัศน์ดาวเทียม Ping Channel และ Hero Channel เป็นของตัวเอง นอกจากนี้ยังซื้อเวลาของสถานีอื่นอีก 10 ช่อง เพื่อ โปรโมตสินค้าให้ประชาชนได้เห็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอด 2-3 ปีที่มีการใช้กลยุทธ์แบบนี้ก็เป็นผลดีต่อตัวแทนจำหน่ายขายสินค้าได้มากขึ้น
ทางด้าน นายสาคร ใสกมล ประธาน ผู้ก่อตั้ง บริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันสินค้าหลัก 4 ตัวของทางบริษัทติดตลาดเป็นที่รู้จักของคนหมู่มากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโกเรจินส์, ดี เบรม, ดี คอนเทค และ D10 หลังจากนี้ทางบริษัทต้องการสร้าง แบรนด์สินค้าใหม่ขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่ 5 ให้ติดตลาด โดยทางบริษัทโฟกัสไปที่ผลิตภัณฑ์ “บานเย็น รากขาว”
วิธีการโปรโมตผลิตภัณฑ์ “บานเย็น รากขาว” ทางบริษัทจะใช้การประชาสัมพันธ์ ผ่านทางฟรีทีวี จะเริ่มต้นโปรโมตที่ช่อง 5 เวลา 05.00-05.30 น. ทุกวันพุธผ่านรายการเกษตรไทยน่ารู้ เราซื้อเวลาเพื่อโปรโมตในรายการจะมีการสัมภาษณ์ถึงประสบการณ์การใช้สินค้าบานเย็นกับเกษตรกร และเรายังมี สปอตโฆษณาคั่นรายการความยาว 30 วินาที โดยมีการว่าจ้างคุณปิยะ ตระกูลราษฎร์ ที่ยังไม่ ติดสัญญากับค่ายปุ๋ยค่ายใด การที่เราเลือกคุณ ปิยะ เนื่องจากเรามองการณ์ไกล โดยเราจะนำ เอาผลิตภัณฑ์บานเย็นรากขาวไปประชาสัมพันธ์ ในรายการมวยอัศวินดำทางช่อง 9
นายสาคร กล่าวต่อว่า ส่วนสเต็ปต่อไป ทางบริษัทจะขยับไปช่อง 7 โดย ทาง ดี เน็ทเวิร์ค พร้อมเข้าไปสนับสนุนในปัจจุบันทางบริษัทได้ทำการจองไว้แล้วล่วงหน้า โดยคาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี จะถึงคิวของ ดี เน็ทเวิร์ค และมีการจองรายการมวย ช่อง 3 และรายการเกษตรช่อง 11 เป็นแผน ในก้าวต่อไป ในสเต็ปแรกนี้ทางบริษัททุ่มงบไปกว่า 20 ล้านบาทในการประชาสัมพันธ์ทางฟรีทีวี เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของความเป็นไปของบริษัทขายตรงกับการโหมทำตลาด ที่นับวันดูจะดุเดือดและเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการหันมาจับสื่อทีวีเพื่อการโปรโมตผลิตภัณฑ์รวมถึงการเติมเต็มในส่วนของสาระ เพื่อสร้างแรงดึงดูดใจต่อผู้ชม และนักธุรกิจที่สนใจ


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ