ความคุ้มค่าในการเลือกซื้อสินค้าขายตรง

วันพุธที่ 04 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ความคุ้มค่าในการเลือกซื้อสินค้าขายตรง


ผลิตภัณฑ์ในระบบธุรกิจขายตรงนั้นมีความแตกต่างกับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายอยู่ทั่วไปในสายตาของผู้บริโภคหรือไม่ อย่างไร จะต้องมองและวิเคราะห์จากแนวคิดที่มีต่อผลิตภัณฑ์ โดยผู้บริโภคจะเป็นกลุ่มบุคคลที่สะท้อนออกมาให้เห็นเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นและประสบการณ์ดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผลิตภัณฑ์ในระบบธุรกิจขายตรงหรือไม่ ทางบริษัท นาโน เซิร์ช จำกัด ได้ดำเนินการสำรวจข้อมูลกลุ่มประชากรจำนวน 200 คน ในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในธุรกิจขายตรงในช่วงปลายปี 2556 ถึงความต้องการผลิตภัณฑ์ แนวโน้มและทิศทางของการเลือกซื้อ รวมทั้งปัญหาหรือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการสะท้อนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โดยจะนำเสนอในแต่ละส่วนต่อไป
โดยได้ดำเนินการสอบถามข้อมูลกับกลุ่มผู้บริโภคเพศชาย คิดเป็น 30.3% เพศหญิง คิด เป็น 69.7% สำหรับสัดส่วนของผู้บริโภคมีช่วงอายุในระดับอายุต่ำกว่า 25 ปี คิด เป็น 36.8% ช่วงอายุระหว่าง 26-35 ปี คิดเป็น 49.3% และ ช่วงอายุมากกว่า 36 ปี คิดเป็น 13.9% ในเรื่องระดับรายได้ของผู้บริโภคพบว่า ผู้บริโภคมีระดับรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท คิดเป็น 37.8% ระดับรายได้ 15,000-25,000 บาท คิดเป็น 51.7% และระดับรายได้มากกว่า 25,000 บาท คิดเป็น 10.4% ในส่วนของการศึกษาพบว่าระดับการศึกษาอยู่ที่ระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็น 49.8% และระดับการศึกษาระดับปริญญาโท คิดเป็น 16.4%
สำหรับกลุ่มอาชีพนั้น โดยส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน คิดเป็น 64.7% และ กลุ่มอาชีพข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ คิดเป็น 11.9% ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนโสด คิดเป็น 66.7% และกลุ่มผู้ที่สมรสแล้ว คิดเป็น 21.4%
ผู้บริโภคได้เปรียบเทียบการเลือกซื้อระหว่างการเลือกซื้อสินค้าทั่วไปกับสินค้าในระบบธุรกิจขายตรง พบว่า ผู้บริโภคเห็น ว่าการเลือกซื้อสินค้าในระบบธุรกิจขายตรง นั้นมีความคุ้มค่า คิดเป็น 76.0% และเห็นว่า การเลือกซื้อนั้นไม่คุ้มค่า คิดเป็น 24.0% ตามลำดับ
ความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ในระบบธุรกิจขายตรง โดยส่วนใหญ่พบว่า ผู้บริโภค เห็นว่ามีราคาถูกกว่า คิดเป็น 26.6% ลำดับ รองลงมาคือ มีประสิทธิภาพในการใช้ดีกว่า คิดเป็น 16.9% และได้รับส่วนลดค่อนข้างมาก คิดเป็น 16.9% ตามลำดับ และอีกประเด็นคือ ความไม่คุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ใน ระบบธุรกิจขายตรงในสายตาของผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่พบว่า ผู้บริโภคเห็นว่ามีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพ คิดเป็น 42.3% ลำดับรองลงมาคือ ไม่สะดวกเมื่อต้องการจะ ซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ในครั้งต่อๆ ไป คิดเป็น 17.3% และการบริการหลังการขายไม่ดี (คืนไม่ได้) คิดเป็น 17.3% ตามลำดับ
ที่มา : บริษัท นาโนเซิร์ช จำกัด


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ