"ดีเอสไอ" บุกจ.ลำพูน จับประธานสมาคมพัฒนาคน พิการ จ.ลำพูน ผู้ต้องหาในคดีแชร์ลอตเตอรี่ จัดการอายัดบ้าน รถ ที่ดิน และทองคำ รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท หลังผู้เสียหาย เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ "ดีเอสไอ" รวมมูลค่าความเสียหาย 1,470 ล้านบาท คนตกเป็นเหยื่อกว่า 1 พันคน ด้านผู้ต้องหายังดิ้น บอกขอเวลาสมาคมฯ ต่อสู้คดีกับผู้ที่นำหุ้นออกไปขายให้เสร็จก่อน คาดไม่เกินสิ้นปีนี้มีเงินคืนผู้เสียหายแน่!
จากเหตุการณ์เมื่อช่วงปลายเดือน ตุลาคมที่ผ่านมา นายยอดชาย ชโลปถัมภ์ ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงให้ลงทุนแชร์ลอตเตอรี่ ใน จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ เข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ดำเนินคดีกับขบวนการแชร์ลอตเตอรี่
โดยนายยอดชาย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายแล้วกว่า 200 คน ใน จ.ลำพูนและเชียงใหม่ เป็นประชาชนทั่วไป มูลค่าความเสียหาย 1,470 ล้านบาท ขบวนการนี้มีนายกสมาคมผู้พิการของจังหวัดทางภาคเหนือ ชักจูงหลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนซื้อสลากฯ ชุดละ 38,000 บาท ชุดละ 5 เล่ม จะได้เปอร์เซ็นต์คืนงวดละ 1,000 บาท ในระยะเวลา 17 เดือนคืนทุน มีผู้เสียหายรายหนึ่งสูญเงินสูงสุด 25 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีการจ่ายเปอร์เซ็นต์ให้ตามข้อตกลงถึง 4 งวด คือ งวดวันที่ 1ก.ย. 16 ก.ย. 1 ต.ค. และ 16 ต.ค. อ้างว่า มีคนถอนหุ้นออกไป แล้วกำลังติดตาม
โดยขณะนี้ มีรายงานว่า ขบวนการ ดังกล่าวกำลังไปชักจูงชาวบ้านใน จ.อุตรดิตถ์ จ.ตาก และ จ.สุโขทัย ให้ร่วม ลงทุนนายยอดชาย ยังได้นำหลักฐานการโอนเงินและรายชื่อผู้เสียหายทั้งหมด ให้ดีเอสไอ เพื่อทำการสืบสวนขยายผล ดำเนินคดี
โดยในเรื่องนี้ พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาสัก ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า จากการที่ประชาชนและข้าราชการใน จ.ลำพูน และจ.เชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงจำนวน 1,247 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางวารุณี ดวงตาสิทธิ์ ประธานสมาคมพัฒนาคนพิการจังหวัดลำพูน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมานางวารุณีได้รับโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำนวนหนึ่งในนามของคนพิการ จากนั้นนำสลากมาแบ่งให้คนรับไปขายต่อ ซึ่งกรณีนี้ได้ระดมหุ้น โดยขายหุ้นแก่บุคคลทั่วไป หรือแชร์ลอตเตอรี่ ราคาหุ้นละ 38,000 บาท โดยผู้ชื้อหุ้นจะได้รับเงินดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่องวด จึงมีผู้ซื้อหุ้นกันเป็นจำนวนมาก
"หลังจากดำเนินการมาแล้ว ประมาณ 10 ปี จนมาถึงเมื่อเดือนก.ย. ที่ผ่านมา หุ้นดังกล่าวของสมาคมพัฒนา คนพิการ จ.ลำพูน มีสภาพการเงินไม่คล่องอย่างที่ผ่านมา จนต้องหยุดการจ่ายดอกเบี้ย เนื่องจากเงินที่ได้มาหมุนไม่ทัน ซึ่งบางคนมีการซื้อหุ้นมากถึงรายละ 20-30 หุ้น มีมูลค่าความเสียหายมาก กว่า 1 พันล้านบาท จึงมีสมาชิกเข้าแจ้ง ความดำเนินคดี และแจ้งต่อดีเอสไอ" พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าว
โดยการตรวจค้นครั้งนี้ พบหลักฐาน การทำสัญญาซื้อหุ้นสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงอายัดทรัพย์ สินเป็นบ้าน โฉนดที่ดิน 2 แปลง เงินสด และทองคำรูปพรรณอีกจำนวนหนึ่ง รวม มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท
นอกจากนั้น ยังตรวจพบว่าผู้ต้องหา มีการถ่ายโอนทรัพย์สินไปยังผู้อื่นช่วงก่อนหน้านี้บ้างแล้ว มีทั้งที่ดิน ทองคำน้ำหนักมากกว่า 200 บาท และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะตามอายัดกลับมาทั้งหมด เพื่อชดใช้ให้กับผู้เสียหาย หลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ ผู้เสียหายทั้งหมดหากมีผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความ สามารถเข้าแจ้งความได้ เพิ่มเติมที่ห้องประชุม อบจ.ลำพูน
ด้านนางวารุณี ดวงตาสิทธิ์ ประธานสมาคมพัฒนาคนพิการจังหวัดลำพูน ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน เผยว่า "เงินต้นที่ทางเราจำหน่ายจริง เราปันผลอยู่เท่าเดิม ส่วนที่เกินจากการขายต่อของสมาชิกบางราย เราไม่รับผิดชอบ เขาต้องไปจ่ายกันเอง ทำให้เงินปันผลที่ได้ของคนที่นำไปขายต่อไม่พอจ่ายกับเงินปันผล คนที่ซื้อต่อจาก สมาชิกบางราย เข้าใจว่าทางสมาคมเราไม่จ่ายเงิน ทั้งที่เราจ่ายให้ทุกเดือนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดไปมาก จึงได้มีการเข้าแจ้งความ ทั้งนี้จึงเป็นที่มาของการเข้าแจ้งความของสมาชิก" วารุณี กล่าว
ทั้งนี้ นางวารุณี ยังกล่าวต่ออีกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ทางสมาคมฯ จะหาเงินมาจ่ายให้กับสมาชิกที่ซื้อหุ้นจากสมาคมโดยตรงในเร็ววันนี้ รับรองไม่มีปัญหา แต่ ขอเวลาให้สมาคมได้ต่อสู้คดีกับที่ผู้นำหุ้นออกไปขายให้เสร็จก่อน คาดว่าไม่เกิน สิ้นปีนี้จะทยอยจ่ายให้ได้