การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับกับสถานการณ์หรือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ จะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งธุรกิจจะต้องรู้จักกระจายความเสี่ยง แสวงหาโอกาส เสริมสร้างความแข็งแกร่ง ด้วยการหาพันธมิตรหรือเครือข่าย ทางธุรกิจที่มีศักยภาพ ตลอดจนธุรกิจต่างๆ จะต้องมีความสามารถในการปรับตัว และพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดีขึ้น
ก่อให้เกิดความเข้าใจ มีการรับรู้ที่ดี ทำให้รู้สึกมั่นใจจนนำไปสู่ความภักดีต่อ ผลิตภัณฑ์และองค์กร ตลอดจนทำให้สมาชิกอยู่ร่วมกันในองค์กรอย่างยาวนานที่สุด เพราะเป็นการสร้างสรรค์คุณค่าให้สามารถเข้าถึงความรู้สึกและสร้างประสบการณ์ ที่ดีต่อธุรกิจ จะทำให้สมาชิกหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายมีความสุขกับการไขว่คว้าโอกาสและเดินทางไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จได้ดั่งใจหมายอย่างมีความสุข
นั่นแสดงให้เห็นว่าองค์กรต่างๆ จะต้องร่วมกันสร้างพลังแห่งเครือข่าย เพื่อ สร้างเสริมให้เกิดองค์กรที่มีความมั่นคง ด้วยสมาชิกและทีมงานที่มีคุณภาพ ซึ่งการ สร้างพลังแห่งเครือข่ายเป็นแนวทางสำหรับการพัฒนาศักยภาพของสมาชิกและทีมงานในองค์กรให้มีความเข้มแข็ง เป็นฐานพลังสำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจ สามารถ นำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ได้อย่างไม่ยากนัก
การสร้างพลังแห่งเครือข่ายของธุรกิจจะต้องดำเนินกิจกรรมต่างๆ ภายใต้กรอบแนวคิด 7 ประการ ดังต่อไปนี้
1.ภาวะความเป็นผู้นำ เป็นธรรมชาติของมนุษย์เมื่อมีการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นองค์กรก็จะต้องมีผู้นำในการขับเคลื่อน เชื่อมโยงเครือข่ายภายในองค์กร ให้ดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งผู้นำจะต้องมีวิสัยทัศน์ มีแนวคิดและมุมมอง ที่กว้างไกล สามารถสื่อสารกับสมาชิกได้อย่างชัดเจน เข้าใจง่าย มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีบุคลิกภาพสง่างาม กล้าคิดกล้าตัดสินใจ ทันต่อเหตุการณ์ มีแนวคิดการ ทำงานเป็นทีม เป็นที่ยอมรับของสมาชิก สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นที่พึ่งให้กับสมาชิกได้
2.การทำงานเป็นทีม เป็นแนวทางของการอยู่ร่วมกันด้วยการบริหารทีมงานและการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ สามารถเข้าใจในความรู้สึก ความต้องการ และ สิ่งที่ปรารถนาของสมาชิก จนนำไปสู่การส่งมอบคุณค่าให้สมาชิกรับรู้และเกิดความ พึงพอใจ ด้วยความมุ่งมั่นของการทำงานเป็นทีม ซึ่งจะต้องใส่ใจและส่งมอบคุณค่า แห่งความพึงพอใจของสมาชิกในทุกโอกาสอย่างเป็นกันเอง
3.สู่เป้าหมายเดียวกัน สำหรับการสร้างเครือข่ายหรือการอยู่รวมกันเป็นองค์กรจะต้องเป็นการรวมกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันหรือเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน นั่นหมายถึงต้องดำเนินกิจกรรมไปสู่เป้าหมายในทิศทางเดียวกัน เพื่อเสริม สร้างพลังซึ่งกันและกัน
4.เอาใจเขาใส่ใจเรา มิตรภาพในการอยู่ร่วมกันจะต้องหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจมีความเข้าใจกัน เคารพในความคิดและสิทธิหน้าที่ ของเพื่อนสมาชิก รู้จักการให้อภัยกันโดยยึดหลักการสร้างประสบการณ์และสาย-สัมพันธ์ด้วยการส่งมอบความรู้สึกที่ดีๆ ระหว่างสมาชิกด้วยกัน
5.มีจิตวิญญาณบริการ เป็นบทบาทสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรหรือทีมงาน สามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นใน กระบวนการดำเนินงานด้านต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก เป็นการนำเสนอถึงมิตรภาพ ความซื่อสัตย์ จริงใจ เพื่อก่อให้เกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา และภาพลักษณ์ที่ดี
6.การบริหารเวลา การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของเครือข่ายจะต้องให้ความสำคัญกับช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม ตรงต่อเวลา และมีการจัดสรรเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบางกิจกรรมก็จะต้องดำเนินการแข่งขันกับเวลา
ทั้งหมดนี้ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถช่วยให้องค์กรธุรกิจขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จได้อย่างไม่ไกลเกินฝัน..