กฎหมายขายตรงกลายเป็นกระทู้ ที่ยากจะหาคำตอบ
ในช่วงที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่น กระทบ โดยตรงมาถึงวงการขายตรงไทย โดยเฉพาะในเรื่องของการ เปลี่ยนหัวของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.
จาก "จิรชัย มูลทองโร่ย" มาเป็น "อำพล วงศ์ศิริ"
เหตุดังกล่าว กระพือคลื่นยักษ์ถล่มซัด สคบ. จนคน ใน สคบ.ต้องสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันวุ่น สุดท้ายกลายเป็น "สุวิทย์ วิจิตรโสภา" ที่ได้กลับมานั่งในตำแหน่งเดิม คือ ผู้อำนวยการส่วนขายตรง และตลาดแบบตรง ซึ่งถือเป็นตำแหน่ง ที่มีความสำคัญกับคนขายตรงเป็นอย่างยิ่ง
และเมื่อ "สุวิทย์" เข้ามานั่งในตำแหน่งเก่า เรื่องของกฎหมายขายตรง ที่มีการรณรงค์ให้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ก่อนหน้านี้ กลายเป็นสิ่งที่ "สุวิทย์" ต้องเข้ามารับช่วงต่อ จะเปลี่ยนหรือจะปรับ ผอ.ส่วนขายตรงและตลาดแบบตรงผู้นี้ ถือเป็นปัจจัยหลักที่อาจจะทำให้เรื่องดังกล่าวเป็นจริงขึ้นได้
โดยล่าสุด วงการขายตรงก็ได้รับทราบข่าวดี เมื่อ สคบ. จะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผังการบริหาร โดยที่ธุรกิจขายตรงจะถูกตั้งเป็นกองคุ้มครองด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง หรือหากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ ธุรกิจขายตรง ถูกแยกออกมาได้ชัดเจนขึ้น ขนาดของการควบคุมดูแลใหญ่ขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก
ส่วนเรื่องของการตั้งกรมขายตรง หรือตั้งหน่วยงานอิสระอะไรขึ้นมาสักอย่าง เพื่อให้เป็นหน่วยงานที่คอยควบคุม กำกับดูแลวงการขายตรง ยังเป็นสิ่งที่วงการขายตรงยังต้องการ อยู่ ซึ่ง "สุวิทย์" ก็มีความเข้าใจดี
ในเรื่องนี้ "ผอ.สุวิทย์" ก็ลั่นวาจาว่า ตนก็อยากจะเห็น การตั้งกรม หรือหน่วยงานที่มีอำนาจในการคุ้มครองวงการขายตรง ไม่ต่างจากภาคเอกชน
ส่วนจะจริงเท็จอย่างไรนั้น คงยากที่จะคาดเดา
แต่สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้วงการขายตรงยังต้องหนาวๆ ร้อนๆ อยู่นั่นคือ การที่ "วิมล จันทร์จิราวุฒิกุล" ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประกาศว่า ธุรกิจขายตรงต้องพยายามปฏิบัติให้อยู่ในกรอบของกฎหมายเดิม อย่าเพิ่งไปพูดถึงกฎหมายใหม่
กฎหมายขายตรงตัวใหม่ หากจะมีการปรับแก้ไขอย่างไร คงต้องใช้เวลา ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ต่ำกว่า 3-5 ปี ในความหมาย ที่ว่าวันนี้เดินหน้าแก้ไขแล้ว
วันนี้กฎหมายขายตรง ยังอยู่เพียงแค่ในช่วงรณรงค์ ทำ วิจัย พูดง่ายๆ คือ กฎหมายขายตรงฉบับใหม่เพิ่งเริ่มจะนับ หนึ่ง กว่าจะถึงสิบไม่ใช่เรื่องง่าย หรือใช้เวลาอันสั้น
อีกทั้ง เราต้องยอมรับว่า วันนี้ธุรกิจขายตรงยังไม่ใช่ธุรกิจที่ภาครัฐโฟกัส สิ่งนี้ยิ่งทำให้เกิดความล่าช้าออกไปอีก
ซึ่งหากจะให้กล่าวกันจริงๆ ผู้เขียนขออนุญาตเผื่อใจเลยว่า 3-5 ปีนี้ กฎหมายขายตรงคงเป็นเรื่องยากที่เราจะเห็น ทุกอย่างต้องมีปัญหาขึ้นมาก่อน โดยเรื่องของ AEC นี่แหละ จะเป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้หลายฝ่ายเห็นความสำคัญของ กฎหมายขายตรง
เมื่อถึงเวลานั้น เราจะได้เห็นการแก้ไขกฎหมายขายตรง อย่างจริงจัง
และเราต้องบวกระยะเวลาเพิ่มเข้าไป พูดง่ายๆ หาก นับวันนี้ ก็อีกประมาณ 5-7 ปี กฎหมายขายตรงฉบับใหม่ ถึงจะคลอด