ช่วงนี้ไม่ว่าจะถามผู้ประกอบการของค่ายไหนก็บ่นถึงแต่เรื่องปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลไปถึงแรงซื้อที่ลดลงของประชาชนในประเทศ
ทำให้ยอดขายของหลายบริษัท หรือแทบทุกบริษัทลดลง ไม่เป็นดั่งที่ฝันตั้งใจไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี
ผู้เขียนเลยอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ทั้งที่ธุรกิจ ขายตรง คือธุรกิจรายได้เสริมในความเข้าใจของใครหลายคน
ธุรกิจขายตรงไม่ต่างจากรายได้เสริมของผู้คน ยิ่งในยุคที่ เศรษฐกิจมีความผันผวน ผู้คนตกงาน รายได้ไม่เพิ่ม รายจ่ายมาก ขึ้น ธุรกิจขายตรงควรเปรียบเสมือนวีรบุรุษ ผู้ที่จะเข้ามาช่วยเหลือ เกื้อกูลรายได้ในส่วนต้องการ
แล้วเหตุใดขายตรงยุคนี้จึงยอดตก รายรับไม่ขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ จริงอยู่ที่ผู้คนต้องการเดินเข้าธุรกิจ ขายตรงเพื่อทำธุรกิจมากขึ้น ในช่วงที่ต้องการรายได้เสริม แต่ ในอีกมุมต้องไม่ลืมว่าไม่ว่าอย่างไร ขายตรงยังเป็นธุรกิจค้าขาย ที่พึ่งยอดขายจากการซื้อสินค้าของผู้บริโภค
โดยสิ่งหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจขายตรงหยุดชะงักในช่วงนี้ ก็เป็น ผลมาจากราคาสินค้าที่ไม่สามารถสนองความต้องการของผู้คน ได้ ด้วยราคาที่ผู้บริโภคมองว่าสูงเกินไปไม่เหมาะที่จะซื้อในช่วง ที่เศรษฐกิจไม่ดี
สินค้าของธุรกิจขายตรงส่วนใหญ่เป็นสินค้าในกลุ่มเครื่อง สำอาง และกลุ่มสุขภาพ ซึ่งตรงนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่มองว่า ปากท้องสำคัญกว่าที่จะไปซื้อสินค้าด้านความงาม หรือเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพ
สิ่งที่กล่าวมา ทำให้สินค้าขายตรงในช่วงนี้ขายยากยิ่งขึ้น
แต่ผู้เขียนยังเชื่อว่า ถึงแม้การซื้อสินค้าของผู้บริโภคจะลดลง แต่การสมัครเข้ามาทำธุรกิจของประชาชนยังมีมากอยู่ ด้วยความต้องการในเรื่องของรายได้
สิ่งนี้ผู้ประกอบต้องขย่มเข้าไว้ไม่ให้กระแสของภาพลักษณ์ การเป็นอาชีพเสริมของผู้คนลดลง เพราะอย่างน้อยเมื่อสินค้า ขายยาก การเดินเข้ามาเป็นนักธุรกิจของแต่ละบริษัทต้องไม่ลดลง
เน้นจากการขายต่อยอดบิลที่น้อยลงไปตามสภาพให้กลาย เป็นหลายยอดบิลแทน ซึ่งตรงนี้น่าจะสามารถสร้างถัวเฉลี่ยได้ดี
ผู้ประกอบการจะไม่สามารถนั่งรอวันฟ้าเปิด หรือวันที่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ แต่ควรที่จะลงทุนในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ ด้านการตลาด จัดประชุมให้ถี่มากขึ้น เพราะนักธุรกิจขายตรงขายสินค้ายาก หาคนมาต่อแข้งต่อขายาก ไฟในตัวย่อมหมดลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการต้องปลุกไฟความอยากของนักธุรกิจให้มีตลอดเวลา ห้ามลดลง
โปรโมชั่นดึงดูดก็สำคัญ ไม่จำเป็นต้องเน้นแผนที่อยู่ในตำรามาหลายยุคหลายสมัย อย่างโปรโมชั่นท่องเที่ยว บางทีไม่ต้องเพิ่ม แต่เน้นไปที่โปรโมชั่นที่แปลกใหม่ เพราะโปรโมชั่น ท่องเที่ยวในปัจจุบัน บางทีก็ดูธรรมดาเกินที่จะปลุกไฟในตัวนักขาย และบางครั้งอาจเป็นเรื่องที่นักธุรกิจไม่ต้องการ เพราะลำพังการ ทำธุรกิจเพื่อเก็บเงินก็เหนื่อยอยู่แล้ว ยิ่งต้องพิชิตโปรโมชั่นเพื่อ ได้ไปเที่ยวในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี อารมณ์ความสนุกจากการท่องเที่ยว ดูไม่ใช่เรื่องที่นักธุรกิจปรารถนา
ธุรกิจขายตรงปัจจุบันต้องมีความแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น ฉีกตำราเก่าๆ ลงบ้าง หาอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาทำ
เพราะคนที่เดินเข้ามาในธุรกิจขายตรงปัจจุบัน ไม่ใช่กลุ่ม วัยกลางคนอีกต่อไป ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นกลายเป็นกลุ่มที่ต้องการเป็น เจ้าของธุรกิจเพิ่มขึ้น
กลุ่มคนเหล่านี้มีความคิดแปลกใหม่ ตำราเก่าๆ ของขาย ตรงเกรงจะไม่มัดใจ หรือปลุกใจพวกเขาได้อีกต่อไป
บางครั้งไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจ หรือภัยใดๆ ก็ทำอะไรขาย ตรงไม่ได้ เพียงแต่ขออะไรใหม่ๆ ขึ้นมากระตุ้นต่อมอยาก ลดความจำเจกันหน่อย...คงดี