ราคากับคุณภาพมีผลต่อการซื้อสินค้าเสริมอาหาร

วันพุธที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ราคากับคุณภาพมีผลต่อการซื้อสินค้าเสริมอาหาร


ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งหลายคนยอมจ่ายสำหรับ การซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เพราะมุ่งหวังว่า ผลที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เช่น ผิวพรรณ รูปร่าง ประสิทธิภาพต่างๆ ทำให้หลายคน ยอมควักจ่ายกับสินค้าประเภทนี้ ทำให้ตลาดของผลิตภัณฑ์เสริอาหารเติบโตอย่าง ต่อเนื่องและแตกไลน์ของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายออกไป เพิ่มคุณสมบัติต่างๆ เข้าไปในผลิตภัณฑ์ ถึงแม้ว่าราคาของสินค้า ดังกล่าวจะสูงก็ตาม แต่ผู้บริโภคก็ยินดีสำหรับ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นดังกล่าว ในมุมมองของ ผู้บริโภคนั้นมีความคิดเห็นอย่างไร ทำให้ ทางบริษัท นาโน เซิร์ช จำกัด มีความสนใจในการศึกษาประเด็นเกี่ยวกับความคุ้มค่าและราคาของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งได้ดำเนินการสอบถามข้อมูลกับกลุ่ม ผู้บริโภคเพศชาย คิดเป็น 32.8% เพศหญิง คิดเป็น 67.2% สำหรับสัดส่วนของผู้บริโภคมีช่วงอายุในระดับอายุต่ำกว่า 25 ปี คิดเป็น 35.8% ช่วงอายุ ระหว่าง 26-35 ปี คิดเป็น 46.8% และช่วงอายุมาก-กว่า 36 ปี คิดเป็น 17.4% ในเรื่องระดับรายได้ของผู้บริโภคพบว่า ผู้บริโภคมีระดับรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท คิดเป็น 31.3% ระดับรายได้ 15,000-25,000 บาท คิดเป็น 25.4% ระดับ รายได้ 25,001-35,000 บาท คิดเป็น 20.4% และระดับรายได้มากกว่า 35,000 บาท คิดเป็น 22.9% ในส่วนของการศึกษา พบว่า ระดับการศึกษาอยู่ที่ระดับการศึกษา ปริญญาตรี คิดเป็น 58.2% ระดับการศึกษา ระดับปริญญาโท คิดเป็น 20.4% สำหรับ กลุ่มอาชีพนั้น โดยส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทเอกชน คิดเป็น 48.3% และกลุ่มอาชีพข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ คิดเป็น 18.4% ตามลำดับ
ก่อนอื่นเราจะต้องทราบก่อนว่า ผู้บริโภคซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ได้ทำการสอบ ถาม มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้บริโภคที่ซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทานอยู่ในปัจจุบัน คิดเป็น 67% และอีกกลุ่มคือ เคยซื้อรับประทานแต่ ในปัจจุบันนี้ไม่ซื้อรับประทานแล้ว คิดเป็น 33%
เนื่องจากเราต้องการทราบเกี่ยวกับ ความคิดเห็นที่มีต่อความเหมาะสมทางด้าน ราคาของสินค้า ดังนั้น เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น จึงได้ทำการเปรียบเทียบระหว่าง ผู้บริโภคทั้ง 2 กลุ่ม พบว่า กลุ่มผู้บริโภคที่ เคยซื้อและปัจจุบันยังเลือกซื้อรับประทาน อยู่นั้น เห็นว่าราคาสินค้ากับคุณภาพมีความเหมาะสมแล้ว คิดเป็น 85.2% ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น ผู้บริโภคอีกกลุ่มที่เคย ซื้อแต่ปัจจุบันไม่ซื้อทานแล้วเห็นว่า ราคา สินค้ากับคุณภาพมีความเหมาะสมแล้ว คิดเป็น 48.5% และราคาของสินค้าแพงเกินไปไม่เหมาะสมกับคุณภาพของสินค้า คิดเป็น 28.8% ตามลำดับ
เปรียบเทียบความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไปเพื่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น พบว่าผู้บริโภคทั้ง 2 กลุ่มเห็น ว่ามีความคุ้มค่าในการเลือกซื้อดังกล่าว แต่ มีความแตกต่างในเรื่องของสัดส่วน โดยพบว่าผู้บริโภคที่เคยซื้อแต่ปัจจุบันไม่ซื้อทาน แล้วนั้นเห็นว่า คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป 74.2% และไม่คุ้มค่า 25.8% และผู้บริโภคอีกกลุ่ม ที่มีพฤติกรรมของการซื้อรับประทานอยู่ในปัจจุบันนั้นเห็นว่ามีความคุ้มค่า คิดเป็น 88.9% และไม่คุ้มค่า 11.1% ตามลำดับ
ที่มา : บริษัท นาโน เซิร์ซ จำกัด


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ