Toggle navigation
วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
หยุด!.. "แร่ใยหิน" ตีกรอบกฎหมายต้านมะเร็ง
หยุด!.. "แร่ใยหิน" ตีกรอบกฎหมายต้านมะเร็ง
วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556
Tweet
"นางสุนี ไชยรส" รองประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงความเคลื่อนไหวในส่วนของภาคประชาชน กับการเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้แร่ใยหินที่เป็นอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งในกลุ่มผู้ใช้แรงงานและผู้บริโภคว่า "ล่าสุดกฎหมายต่างๆ เกี่ยวกับยกเลิกแร่ใยหิน เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ถูกภาครัฐนำมาบังคับใช้เท่าที่ควร แม้ว่าในปัจจุบันมีการรณรงค์ที่กว้างขวางมาก และ นำไปสู่องค์ความรู้ และข้อมูลที่เกิดจาการวิจัยก็ตาม ในปัจจุบันพบว่าแนวโน้มของผู้ป่วยกำลัง จะมีจำนวน เติบโตขึ้นมากอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะกลุ่มที่ประกอบอาชีพ และกลุ่มผู้บริโภคที่เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง
โดยที่ผ่านมาการขับเคลื่อนของทีแบน และ สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ที่มีมติไปถึงรัฐบาลให้ดำเนินการเพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ กลับไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร โดยเฉพาะในโครงการต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งการใช้วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในแต่ละทีโออาร์ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ สุขภาวะอนามัยของประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ เป็นเรื่องของสิทธิ์ในส่วนของประชาชนที่สามารถยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้ โดยมีกฎหมายกองทุนเงินทด แทน และกฎหมายองค์อิสระคุ้มครองผู้บริโภค สอง กฎหมายนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง
ในขณะเดียวกันก็ต้องเป็นการขับเคลื่อนในสองมิติ คือทั้งในส่วนของกระบวนการยุติธรรม และ ในส่วนของการขับเคลื่อนทางสังคม เพื่อให้สังคมได้ ตระหนักถึงความรับผิดชอบร่วมกันถึงสุขภาวะอนามัยของผู้ประกอบอาชีพ และผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายใหญ่ที่จะให้ภาครัฐเล็งเห็นความสำคัญ และหันกลับมาเดินหน้ายกเลิกการใช้แร่ใยหินในประเทศไทย" รองปธ.คปก.กล่าว
ด้าน "นางสมบุญ สีคำดอกแค" ประธานสภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อม แห่งประเทศไทย และเครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ ใยหินแห่งประเทศไทย (ทีแบน) เปิดเผยภายหลังหา รือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับ ข้อสรุปของกระทรวงในนำเสนอครม.เพื่อยกเลิกแร่ ใยหิน ว่า "ล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้าและยังไม่มีผล สรุปที่ชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทางเครือ ข่ายเตรียมที่จะเคลื่อนไหวไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อทวงถามความคืบหน้าในเรื่องนี้ พร้อมๆ กับเร่งการรณรงค์ให้ภาคเอกชนร่วมมือกันยกเลิกการใช้แร่ใยหิน เพื่อให้ภาครัฐหันมาตระหนักและเห็น ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้
มีแนวโน้มความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่พิษภัยจากแร่ใยหินซึ่งแต่เดิมจะส่งผลกระทบเฉพาะกลุ่มผู้ ประกอบอาชีพก่อสร้าง หรืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับการใช้วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง จะลุกลามเข้าสู่กลุ่มผู้อยู่อาศัยในครัวเรือน และแนวโน้มของตัวเลขผู้ป่วย จากงานวิจัยมีผลให้ทางทีแบนต้องปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวต่อต้านการใช้แร่ใยหินในมิติใหม่ ซึ่งต้องการให้มีการยกเลิกการใช้วัสดุที่เกี่ยวข้องกับแร่ ใยหินในทุกๆ โครงการ และการจัดซื้อจัดจ้าง ผ่านมาตรการทางด้านสังคม และกฎหมาย ให้กลายเป็นสำนึก แห่งความรับผิดชอบและการมีส่วนร่วมของภาคสังคม
โดยจะมีการใช้แนวทางจากจุดเริ่มต้นในการขอความร่วมมือ และใช้หลักธรรมาภิบาลในการเข้า มาเคลื่อนไหวในหน่วยงานภาคเอกชน โดยจะมีการ ประสานไปยังองค์กรภาคเอกชนสำคัญๆ อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้า และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้มีส่วนร่วมในการสร้างแนวทางการยกเลิกแร่ใยหิน ที่ชัดเจนแล้วว่ามีผลก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์
ขณะที่หน่วยงานภาครัฐ จะเน้นไปที่การขอความร่วมมือ และอาจมีการใช้อำนาจผ่านกระบวน การยุติธรรม ฟ้องร้องศาลปกครองให้มีการคุ้มครอง ชั่วคราว โดยการระงับโครงการการจัดซื้อจัดจ้างที่มีส่วนผสมของแร่ใยหิน ซึ่งถือเป็นการจงใจขัดมติครม. ในปี 2554 โดยตรง" สมบุญกล่าว
"น.พ.อำพล จินดาวัฒนะ" เลขาฯคสช. เผยว่า สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้เสนอความเห็นไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาของครม. ต่อแผนและกรอบระยะเวลาในการยกเลิกการนำเข้า ผลิตและ จำหน่ายแร่ใยหินและผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็น ส่วนประกอบ ใน 5 ผลิตภัณฑ์ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยย้ำว่าแม้การดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้จะยังล่าช้ากว่ากำหนดเวลาตามยุทธศาสตร์ ที่กำหนดให้ประเทศไทยไร้แร่ใยหินทุกชนิด ภายในปี 2555 แต่ ครม.ควรเร่งรัดดำเนินการและยืนยันหลักการสังคมไทยปลอดการใช้ แร่ใยหินโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่มีวัตถุดิบ อื่นหรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นทดแทนได้แล้ว เช่น กระเบื้องมุงหลังคา ที่ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ปลอดแร่ ใยหินจำหน่ายอย่างแพร่หลายแล้ว
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ จึง เสนอให้กำหนดกรอบระยะเวลาในการยกเลิกการ นำเข้า ผลิต และจำหน่ายภายใน 2 ปี สำหรับผลิต ภัณฑ์กระเบื้องมุงหลังคาลอนใหญ่ และลอนคู่ ตามระยะเวลาที่ทีมนักวิจัยของ มสธ.เสนอ น.พ.อำพล ยัง ทวงถามไปถึงกระทรวงอุตสาหกรรมว่าทำไมจึงยกเหตุผลเรื่องการใช้เวลาศึกษาผลกระทบของแร่ใย หินต่อสุขภาพเพิ่มเติม ไปเสนอเพิ่มกรอบเวลาให้กับผลิตภัณฑ์นี้จาก 2 ปีเป็น 5 ปี ทั้งที่มีหลักฐานผล กระทบที่ชัดเจนดังกล่าวแล้ว ในขณะที่กระเบื้องมุงหลังคาลอนใหญ่ ลอนคู่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณการ ใช้งานสูงมาก หากปล่อยให้ใช้ใยหินในการผลิตต่อไป อาจก่อให้เกิดอันตรายจากฝุ่นใยหินที่ฟุ้งกระจาย ไปในวงกว้าง มีผลกระทบทั้งต่อคนงาน แรงงาน ก่อสร้างและประชาชนโดยทั่วไป อีกทั้งปัจจุบันนี้มีเอกชนบางราย ผลิตกระเบื้องมุงหลังคาลอนใหญ่ และลอนคู่ โดยใช้วัสดุทดแทนแร่ใยหินออกจำหน่าย แล้วด้วย นอกจากนี้ ยังได้เสนอให้มีการพัฒนาระบบและมาตรการเฝ้าระวัง วินิจฉัย และป้องกันการสัมผัสแร่ใยหินของประชาชน ตลอดจนมีมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากแร่ใยหินด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ