“เอ็น.ซี.ซี.” โชว์ ‘BALM’ รีเทลใน ‘ศูนย์ฯ สิริกิติ์’ โฉมใหม่ ตั้งเป้าทราฟฟิคเพิ่มขึ้น 13 ล้านคน/ปี ดันรายได้รวมพุ่ง 15 %

วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565

“เอ็น.ซี.ซี.”  โชว์ ‘BALM’ รีเทลใน ‘ศูนย์ฯ สิริกิติ์’ โฉมใหม่ ตั้งเป้าทราฟฟิคเพิ่มขึ้น 13 ล้านคน/ปี ดันรายได้รวมพุ่ง 15 %


นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์  ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า เป้าหมายเราต้องการขับเคลื่อนศูนย์ฯ สิริกิติ์ให้เป็นมากกว่า “ศูนย์การประชุมฯ” แห่งใหม่ของภูมิภาคเอเชีย จึงได้ทำการปิดปรับปรุงมาเป็นระยะเวลาเกือบ 4 ปี ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนกันยายน 2565 นี้ โดยเราต้องการจะสร้างโฉมใหม่ของ “ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์”  สู่การเป็น “The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All” ที่ครอบคลุมการจัดงานทุกรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด และตอกย้ำการเป็นมากกว่า “ศูนย์การประชุมฯ” ด้วยการพัฒนาพื้นที่รีเทลเต็มรูปแบบ ภายใต้  คอนเซ็ปต์ “แอคทีฟ ไลฟ์สไตล์ มอลล์” (Active Lifestyle Mall) อย่างไรก็ตาม ศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่นี้ มีจุดเด่นในด้านของทำเลที่ตั้งซึ่งสะดวกต่อการเดินทางเป็นอย่างมากด้วยจุดเชื่อมต่อกับ MRT ถึงด้านในอาคาร ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึง QSNCC ได้โดยง่ายทุกช่วงเวลา อีกทั้ง ยังมีการเพิ่มในส่วนของพื้นที่รีเทลขึ้นมา ซึ่งเราต้องการจะให้เป็นศูนย์รวมด้านแอคทีฟไลฟ์สไตล์เต็มรูปแบบของกรุงเทพฯ หรือ Bangkok Active Lifestyle Mall (“BALM”) โดยปรับขนาดพื้นที่ใหญ่ขึ้นจากเดิมที่ 7,200 ตร.ม เป็น 11,000 ตร.ม แบ่งเป็นโซนตามหมวดหมู่ประกอบด้วย กลุ่มร้านค้าอาหารและเครื่องดื่ม,กลุ่มอิเวนต์ซัพพอร์ต และกลุ่มแอคทีฟไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะรองรับความต้องการของกลุ่มผู้รักสุขภาพและการออกกำลังกาย พร้อมกับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของรีเทลในประเทศไทยที่มีบริการในลักษณะนี้  นอกจากนี้  ยังเตรียมเปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกของสุดยอดแบรนด์อุปกรณ์และเครื่องแต่งกายกีฬาชั้นนำของไทยอีกด้วย

                  จากการที่เราประกาศจะเปิดศูนย์โฉมใหม่ที่แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2565 นี้ ส่งผลให้ขณะนี้ มีลูกค้าจับจองพื้นที่ในการเตรียมจะจัดงานแล้วราว 70 % โดยสามารถแบ่งสัดส่วนเป็นลูกค้าชาวไทยที่ 40 % และต่างชาติ 60 % ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงาน เอ็กซิบิชั่น (exhibition) และงานเทรดแฟร์ (trade fair) อาทิ งานประชุมทางการแพทย์ต่างๆ งานอาหาร ,หนังสือ ,ท่องเที่ยว , เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และ ธุรกิจการเงิน เป็นต้น การเปิดศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่นี้ เราตั้งเป้าว่าจะมีจำนวนผู้จัดงานและผู้เข้าใช้บริการได้มากขึ้นกว่า 13 ล้านคน/ปี และจะมีงานที่จัดภายในศูนย์โฉมใหม่ประมาณ 70 งาน และตั้งเป้าว่าในปีหน้า 2566  จะเพิ่มเป็น 130 งาน ดังนั้นในส่วนเป้ารายได้หลังจากการเปิดศูนย์เราเชื่อว่าจะสามารถผลักดันให้รายได้เติบโตมากกว่าเดิมถึง 5 เท่า มาจากในส่วนของพื้นที่รีเทลที่มีพื้นที่มากขึ้นจะสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้เพิ่มอีกราว 15 %”

นางสาวธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า “ในฐานะตัวแทนบริษัทฯ ให้เป็นผู้พัฒนาและดูแลการตลาดพื้นที่รีเทลของศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ปัจจุบันมีร้านอาหารและร้านค้าแบรนด์ชั้นนำจำนวนมากให้ความสนใจพื้นที่ โดยได้ทยอยเซ็นต์สัญญาแล้วกว่า 20% ของพื้นที่รีเทลทั้งหมด และยังมีลูกค้าอีกจำนวนมากที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าภายในไตรมาสแรกของปีนี้ จะสามารถปิดดีลผู้เช่าได้เพิ่มขึ้นเป็น 40%”

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ