สุกรี กีไร ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสประจำภูมิภาคอินโดไชน่า บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ แอลแอลซี ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจร้านสะดวกซักของไทยในปี 2565 ว่า ร้านสะดวกซักจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยคาดว่าปีนี้จะมีร้านสะดวกซักถึง 3,500 ช็อป จากเดิมปี 2564 ที่มีเพียง 2,400 ช็อป ซึ่งจากการเติบโตของธุรกิจร้านสะดวกซักนั้น อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ เป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดถึง 70% และคาดว่าจะเติบโตเป็น 80% ในอีก 3 ปีข้างหน้า พร้อมตั้งเป้ายอดขายของปี 2565 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท โดยปัจจัยการเติบโตมาจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการร้านสะดวกซักมากขึ้น ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพและใส่ใจในเรื่องความสะอาดอย่างยิ่ง จึงนำเสื้อผ้ามาซักและอบเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ร้านสะดวกซักเป็นจำนวนมาก
สำหรับมูลค่าตลาดรวมของร้านสะดวกซักในปีนี้คาดว่าจะพุ่งไปแตะที่ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท และคาดว่าในอีก 6 - 7 ปีข้างหน้าไทยจะมีร้านสะดวกซักรวมกว่า 9,000 สาขา อย่างไรก็ดี ภาพรวมของธุรกิจร้านสะดวกซักในปัจจุบันยังมีโอกาสเติบโตได้อีกยาว และตอนนี้ถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต ซึ่งคนที่เข้ามาลงทุนก่อนก็จะได้เปรียบในแง่ของโลเคชันและการแข่งขัน
“อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องซักผ้าอบผ้าอุตสาหกรรมที่อยู่ในธุรกิจนี้มาถึง 114 ปีแล้ว โดยเราเข้ามาในไทยเมื่อปี 2560 ตอนนั้นมีร้านที่ซื้อสินค้าของเรา 6 ช็อปเท่านั้น ซึ่งเมื่อเราเปิดตลาดและรุกตลาด อย่างต่อเนื่อง เพียงระยะเวลา 4 ปี เราได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าทั่วประเทศ โดยปี 2564 มีร้านสะดวกซักที่ใช้สินค้าของเราถึง 1,565 ช็อป และคาดว่าปี 2565 จะเพิ่มจำนวนขึ้นอีก 1,000 ช็อป”
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ขยายธุรกิจในไทยนั้นมีกลยุทธ์การตลาดที่เจาะกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ อย่างการจัดงาน “Alliance Wealth Investment” ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดให้ตัวแทนจำหน่ายได้รับฟังเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ และการเติบโตของธุรกิจ พร้อมทั้งมีข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้สนใจลงทุนเปิดร้านสะดวกซัก และจากความสำเร็จของงานนี้ ทางบริษัทฯ ได้ต่อยอดไปสู่กิจกรรมการตลาดที่บุกไปตามต่างจังหวัด เพื่อเข้าถึงลูกค้ารายใหม่ๆ มากขึ้น อีกทั้งจากผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมในไทย ปีนี้บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ประเทศต่างๆ ในอินโดไชน่า ซึ่งมีจำนวนประชากรรวมกว่า 250 ล้านคน โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าไปจำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มโรงพยาบาล, โรงแรมและโรงงานซักผ้ามาแล้ว แต่ครั้งนี้จะเจาะไปที่ธุรกิจร้านสะดวกซักโดยเฉพาะ ตั้งเป้าเริ่มต้น ด้วยประเทศเวียดนาม ก่อนที่จะขยายไปสู่ลาว, กัมพูชาและเมียนมาต่อไป
ล่าสุด บริษัทฯ ออกเครื่องอบผ้ารุ่น Tempest ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นระบบรวมอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ซึ่งมอเตอร์มีขนาดเล็กลงแต่ให้ประสิทธิภาพการอบที่ดีเหมือนเดิม และอีกรุ่นอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบสินค้ารุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกันบริษัทฯ เตรียมขยาย Service Center ไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อเสริมจุดแข็งด้านการบริการในการดูแลลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น