รถบรรทุก MAN ว่างปี 65 พุ่งเป้าไปที่ยอดขาย 100 คัน พร้อมขยายเครือข่ายดีลเลอร์ครอบคลุมภาคอีสานและภาคเหนือ เผยตัวเลขปี 64 สร้างยอดจดทะเบียนสวยงาม 91 คัน นับเป็นยอดสูงที่สุดของ MAN ประเทศไทยในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ตอกย้ำด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากที่สุด มีผลทำให้ เอ็ม เอ เอ็น ก้าวขึ้นมาเป็น 1 ใน 3 ของผู้นำรถบรรทุกแบรนด์ยุโรปในไทย
ท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคขนส่งและตลาดรถบรรทุกทั้งในตลาดประเทศไทยและตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต ขนส่ง และกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ โดย เอ็ม เอ เอ็น ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าขยายธุรกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การขยายศูนย์ให้บริการผ่านเครือข่ายดีลเลอร์ คุณภาพมาตรฐานบริการ Onsite Service และเสริมแกร่งด้านการขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์
เอ็ม เอ เอ็น เติบโตอย่างต่อเนื่องและได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ประกอบการ โดยที่ผ่านมา เอ็ม เอ เอ็น ได้เซ็นสัญญาลงนามความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์คนสำคัญประจำภาคกลางอย่าง บริษัท เค-แมน.ออโต้เซอร์วิส จำกัด และ บริษัท ริช แอนด์ เบสท์ วิฮีเคิล จำกัด ดีลเลอร์รายใหญ่ประจำภาคใต้ ในการเป็นผู้แทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดทางภาคใต้และจังหวัดใกล้เคียง
และในปีนี้ เอ็ม เอ เอ็น มีแผนขยายการเติบโตในประเทศไทย ด้วยการเปิดรับสมัครดีลเลอร์ที่จะมาเป็นผู้แทนจำหน่ายและให้บริการดูแลหลังการขายรถบรรทุกและรถบัส เอ็ม เอ เอ็น ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและเชียงใหม่ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและขยายบริการให้ครอบคลุมพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ประกอบการของเอ็ม เอ เอ็น ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ
นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้อำนวยการ เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย กล่าวว่า ปีที่แล้วถือเป็นอีกปีแห่งความสำเร็จของเอ็ม เอ เอ็น ประเทศไทย เรารู้สึกขอบคุณลูกค้าผู้ประกอบการและคนขับทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจตลอดมา เราพร้อมอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าผู้ประกอบการในประเทศไทย
ทั้งนี้ เราตั้งใจที่จะขยายเครือข่ายดีลเลอร์ เพิ่มศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทยเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานบริการ เพื่อความคุ้มค่า ปลอดภัย ของลูกค้าผู้ประกอบการและคนขับ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอ็ม เอ เอ็น จะได้เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจภาคการขนส่งให้กับผู้ประกอบการไทยต่อไปในอนาคต