การผลักดันให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้กฎหมายขายตรงไทยยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะหลาย ฝ่ายต่างมองและเห็นในทิศทางเดียวกันว่า หากกฎหมายขายตรง ไทย มีการปรับเปลี่ยนอย่างตรงจุด ก็จะทำให้ธุรกิจขายตรงเดินหน้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกว่าที่เป็นอยู่
โดยนายพิสิษฐ์ เดชวรรณพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เวิลด์โปร (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยเรื่องกฎหมายว่า การปรับแก้ไขกฎหมายขายตรงให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน ถือเป็น เรื่องดี และเห็นด้วยแน่นอน เพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เครือข่ายจะได้รับผลประโยชน์ อีกทั้งจะทำให้ทุกบริษัทขายตรง ในประเทศดำเนินธุรกิจได้สะดวกและมั่นใจมากขึ้น อีกทั้งยังส่งผล ในเรื่องของเศรษฐกิจต่อประเทศชาติที่จะได้กำไรจากตรงนี้ด้วย
การปรับแก้ไขกฎหมายนั้น ต้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันช่วยออกความคิดจะดีที่สุด เพราะผู้ประกอบการก็ดี รวมถึงผู้บริโภคจะเข้าใจธุรกิจขายตรงดีที่สุด หากมีการระดมความคิดกัน หรือร่วมกันหาวิธีจริงๆ เชื่อว่าจะเป็นผลดีแน่นอน และจะมีผู้ที่อยู่ในวงการนี้ออกมาร่วมประชุมมากมาย พร้อมอาจจะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศไทยเลยทีเดียว
"ลองคิดดู หากแก้ไขกฎหมายขายตรงเรียบร้อย และแก้ไขถูกจุดจะทำให้ธุรกิจขายตรงไปได้สวยขนาดไหน เพราะเป็นการยกระดับธุรกิจขายตรงไปอีกขั้นหนึ่ง เหมือนธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นในลักษณะนี้ เราต้องยอมรับว่า ธุรกิจขายตรงช่วยคนให้มีงานทำได้จริงๆ และเปลี่ยนแปลงชีวิตคนได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงคนที่ร่ำรวยจากธุรกิจนี้ก็เยอะไปหมด และ จะไม่ให้ดีได้อย่างไร"
พิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า ในแต่ละปีมีนักศึกษาจำนวนมากที่เรียนจบปริญญาตรี และต้องตกงานเป็นจำนวนมาก ก็หันมาทำธุรกิจขายตรงจนประสบความสำเร็จมากมาย และยังเป็นการช่วยประเทศชาติด้วย ธุรกิจขายตรงที่ดูไม่ดีเป็นเพราะพวกคนหวังผลประโยชน์เข้ามาทำลายจนทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย และในที่สุดคนก็ไม่กล้าเข้ามา แต่ก็ยังเชื่อว่า ธุรกิจขายตรงให้รายได้ มากกว่างานที่ทำอยู่ และก็ประสบความสำเร็จได้จริง
"หากมีกฎหมายที่ควบคุมดูแลอย่างครอบคลุม ก็จะช่วย ให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถดูแลได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเหนื่อยมากขนาดนี้ เพราะอย่างที่ทราบว่า ธุรกิจขายตรงมีบริษัทกว่า 350 บริษัท และยังไม่นับที่จดทะเบียน สคบ.อีกมากมาย ทำให้การควบคุม เป็นไปได้ยาก แต่หากมีกฎหมาย กติกาที่ชัดเจนก็จะช่วยควบคุมได้ง่าย และเป็นผลดีต่อประเทศชาติด้วย"