เคาต์ดาวน์ AEC ขายตรงแบรนด์ต่างชาติเริ่มเคลื่อนไหวคึกคัก เร่งสร้างฐานที่มั่นในไทยให้แข็งแกร่งก่อนเปิดฉากลุยตลาด อาเซียนเต็มรูปแบบ "แคทส์ดอทคอม" ยึดโมเดลขายตรงไทย ขยายสาขาเพื่อนบ้าน "เจอร์เนสส์" เน้นสื่อออนไลน์ปั้นรายรับไทย "ยูนิซิตี้" อุ่นเครื่องส่งสินค้าจากไทยไปตะวันออกกลาง พร้อมเปิดสาขาฮานอยและพนมเปญชิมลาง ด้าน "โมนาวี" วาดแผนขยายสาขาเพิ่ม พร้อมบุก 5 ประเทศรอบไทย
กลุ่มบริษัทขายตรงข้ามชาติที่เข้ามาเปิดสาขาอยู่ในไทย ต่างเห็นพ้องที่จะใช้ประเทศไทยเป็นแกนกลางในการสู้ศึกขายตรง ในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนที่จะเปิดเสรีการค้าในอนาคตอันใกลนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดขายตรงบ้านเรา ที่ต่างชาติมองว่าเหมาะสมที่จะใช้เป็นฐานในการขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน
+ "แคทส์" ยึดโมเดลไทยขยายสาขา
นายเกียรติพงษ์ ตั้งงามจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคทส์ดอทคอม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นไม่มากนัก โดยที่บริษัทต้องการที่จะขยายออกไปสู่ตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เรื่องยอดขายในประเทศจึงเพิ่มไม่มากนัก
อย่างไรก็ดี สำหรับสาขาของบริษัทในประเทศไทย มีความ พร้อมในการลุยตลาดอาเซียนเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาก็เริ่มขยายไปแล้วที่เวียดนาม, ลาว และมาเลเซีย โดยในอนาคตบริษัท ต้องการที่จะขยายสาขาไปในประเทศพม่าต่อไป
"ในเรื่องของการขยายสาขา บริษัทจะขยายไปในรูปแบบการตั้งบริษัทให้มีความคล้ายคลึงสาขาประเทศไทยมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของแผนการจ่าย ซึ่งตอนนี้ติดในเรื่องของภาษีในแต่ละประเทศ ที่ทำให้การขยายตลาดติดขัดในการทำเรื่อง แผนงาน และแผนจ่ายอยู่บ้าง" เกียรติพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2556 แคทส์ได้ทำการขยายตลาดไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตมะโฮ ในการขยายกำลังการผลิต และวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีเพิ่มอีก 10 รายการ จากที่ในปี 2555 ได้เพิ่มมาแล้ว 7 รายการรวมถึงผลิต-ภัณฑ์ดูแลผิวระดับจากยีสต์ดำ
ในส่วนของระบบการทำงานของสมาชิก แคทส์ได้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ ทั้งรูปแบบการทำงานแบบ Off-line, Online และ Airline ซึ่งจะช่วยให้สมาชิกสามารถที่จะสร้างเครือข่ายได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยการพัฒนา Application บน มือถือซึ่งใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย รองรับการเดินทางสู่ต่างประเทศ
+ "เจอร์เนสส์" ปั้นสื่อออนไลน์สู้
ด้าน มร.สก็อต เอ. ลิวอิส ประธาน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจอเนสส์ โกลบอล เปิดเผยว่า แผนการตลาดในครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวโปรเจกต์ "Get Promotion" โดยการมุ่งเน้นเกี่ยวกับ การส่งเสริมการทำธุรกิจมากขึ้น ซึ่งจะพยายามให้ผู้ใช้ได้ทดลองใช้สินค้าของบริษัทในปีนี้ และสมาชิกจะได้รับโบนัสจากการแนะนำประมาณ 1.5 พันบาท พร้อมกัน นี้ยังมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นตลาดโซเชียล เน็ตเวิร์ก ที่เข้าถึงสื่อต่างๆ สามารถเชื่อมต่อ ไปได้ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม "เจอร์เนสส์" ได้ตั้งเป้า หมายในปี 2556 สำหรับตลาดในประเทศไทย ซึ่งจะต้องการปิดยอดขายสิ้นปีนี้ให้ได้ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากช่วงต้นปีถึงเวลา นี้ผ่านมา 6 เดือนเศษๆ บริษัททำยอดขายไปแล้วที่ 600 ล้านบาท และหากนับยอดขายรวมทุกสาขาในเอเชีย สาขาประเทศไทย มียอดขายสูงเป็นอันดับ 2 รองจากจีนในเวลานี้
โดยสาขาของเจอเนสส์ในแถบเอเชีย มีทั้งสิ้น 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีน, เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ฮ่องกง และมาเก๊า โดยที่ปีนี้จะมีการขยาย เพิ่มในฟิลิปปินส์ และอีกหลายประเทศ ซึ่งหากเรียงลำดับจากการเติบโตทั่วโลก ปัจจุบัน ประเทศที่สร้างรายได้สูงสุด คือ ประเทศจีน รองลงมาคือ ไต้หวัน อเมริกา มาเลเซีย และ ไทย เรียงตามลำดับ
+ "ยูนิซิตี้" ส่งสินค้าไทยทำตลาดโลก
ฝั่ง มร.คริสโตเฟอร์ คิม ประธานบริหาร ประจำภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท ยูนิซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้เตรียมแผนการขยายธุรกิจเพิ่มเติมที่พม่าและบรูไน ที่สำคัญ ขณะนี้กำลังมองตลาดในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศบาห์เรน ซึ่งจะสามารถต่อยอดไปยังประเทศ อื่นๆ ใกล้เคียงได้ และบริษัทได้ทดลองตลาด แล้วโดยเปิดศูนย์บริการที่ประเทศดูไบ
"ตลาดต่างประเทศเติบโตเร็วมาก และเรากำลังวางแผนที่เปิดสาขาในแถบตะวันออกกลางด้วย เพราะตะวันออกกลาง เป็นกลุ่มประเทศที่มีความต้องการอยากให้เราไปเปิดความท้าทายคือ กลุ่มนี้เป็นกลุ่ม ประเทศที่ร่ำรวย มีศักยภาพในการทำธุรกิจ มาก และส่วนใหญ่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพและน้ำหนักตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความอ้วน จากที่มีโอกาสคุยกับคุณหมอคนที่เข้ามารักษาโรคหัวใจกลุ่มตะวันนออก-กลางมีเยอะมาก เราคิดว่าผลิตภัณฑ์ของ ยูนิซิตี้จะตอบโจทย์และช่วยพวกเขาได้" มร.คริสโตเฟอร์ คิม กล่าว
โดยสินค้าที่จะนำเข้าไปเปิดตลาดแถบตะวันออกกลางจะนำเข้าจากบริษัทแม่ที่สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังจะมาจาก ประเทศไทยด้วย เนื่องจากเวลานี้ประเทศไทยมีความสามารถในการผลิตภัณฑ์สินค้าหลายประเภทที่กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ต้องการ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้เจอปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมาย หรือด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2558 บริษัทได้ทำการขยายธุรกิจสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เปิดสำนักงาน ยูนิซิตี้ ประจำประเทศเวียดนาม เมืองฮานอย และสำนักงานยูนิซิตี้ประจำประเทศกัมพูชา กรุงพนมเปญ ซึ่งนับว่าเป็นการขยายฐานธุรกิจของยูนิซิตี้ และเปิดโอกาสให้ประชากร ในประเทศนั้นๆ มีรายได้ รวมทั้งความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมของการทำงานร่วมกันของเครือข่ายยูนิซิตี้ในประชาคมอาเซียน เพื่อช่วยขับเคลื่อนยูนิซิตี้ ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
+ "โมนาวี" เล็งปักมุด 5 ปท.อาเซียน
มร.ฟิล เวลช์ ประธานกรรมการประจำภูมิภาคเอเชียเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท โมนาวี โฮลดิ้งส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า "ต้องยอมรับว่า เวลานี้ยอดขายในเมืองไทย ไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่ก็มั่นใจว่า สิ้นปีนี้ บริษัทจะต้องเติบโตขึ้นแน่นอน ส่วน เรื่องของรหัสสมาชิกที่เคยตั้งเอาไว้ต้องมีอย่างน้อย 3 หมื่นรหัส ถึงปัจจุบันนี้ก็ใกล้ จะเกือบๆ 3 หมื่นรหัสแล้ว คาดว่าสิ้นปีจะได้ 3 หมื่นรหัสเป็นอย่างต่ำ และสิ่งที่ต้อง เร่งทำให้เร็วคือ การสร้างผู้นำที่สามารถขยายเครือข่ายออกไปได้ เพราะยังมีอีกหลายแห่งที่โมนาวียังไม่ได้ขยายไป แต่จะเร่งขยายให้ครอบคลุมในเมืองไทยให้มากที่สุด"
ส่วนแผนการรุกตลาดต่างประเทศ ประธานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดตลาดขายตรงโมนาวี ในมาเลเซีย และสิงคโปร์ไปแล้ว และประเทศไทยเป็นประเทศ ที่ 3 ในแถบอาเซียน โดยมีแผนผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายตลาดไปยังภูมิภาคอาเซียน บริษัทยืนยันจะดำเนินตามแผนให้สำเร็จเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, กัมพูชา และลาว โดยยังมองว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพค่อนข้าง สูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ