"คอลลาเจน" ผลิตภัณฑ์ทำผิวขาวเด้งปลอมเกลื่อนตลาด ผู้ประกอบการปล่อยข่าวแจ้งจับสินค้ากันวุ่น "แม็กซ์ เฮลท์ตี้" ยัน Maxx Gluta Collagen เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทลุยฟ้องกลับคู่แข่ง เรียกค่าเสียหายกว่า 30 ล้านบาท ด้าน "ดี เน็ทเวิร์ค" โดนเลียนแบบเพียบ ผู้บริหารตั้งโต๊ะพิสูจน์ เปรียบเทียบของแท้ของเทียม พร้อมเดินหน้าหาต้นตอ แจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด
จากกรณีที่มีกระแสข่าวบนสื่ออินเตอร์เน็ต ว่า Maxx Gluta Collagen เป็นสินค้าปลอมแปลงและได้มีการจับกุมร้านค้าที่ขาย สินค้าดังกล่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายธีรยุทธ พืชมาก ทนายความของ บริษัท แม็กซ์ เฮลท์ตี้ ซัพพลาย จำกัด กล่าวว่า กรณีที่ถูกกล่าวหาว่า สินค้าเราเป็นสินค้าปลอมนั้น ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด คาดว่า ผู้ปล่อยข่าวต้องการหวังผลทางธุรกิจ พร้อมโชว์เอกสารในการยื่นจดทะเบียนสินค้ากับทาง อย. และกล่องผลิตภัณฑ์ที่แสดงชื่อโรงงานผลิตสินค้าพร้อมที่อยู่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้
กระแสข่าวที่ว่าร้านค้าใดที่ขาย Maxx Gluta Collagen Plus จะถูกดำเนินคดี นายธีรยุทธ ชี้แจงว่า การตั้งข้อหาที่ เจ้าหน้าที่นำมาจับนั้น ไม่ใช่เรื่องการปลอมสินค้า แต่เป็นเรื่องการ ละเมิดลิขสิทธิ์รูปภาพ ซึ่งในกรณีดังกล่าว ยังเป็นข้อพิพาททางคดีอยู่ ในส่วนของบริษัทได้นำเรื่องส่งฟ้องร้องขอความเป็นธรรม ไปยังศาลเรียบร้อยแล้ว และศาลได้นัดวันไต่สวนแล้วเช่นเดียวกัน โดยในเบื้องต้นบริษัทได้ฟ้องร้องกับคู่กรณีที่ทำให้บริษัทเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท ในครั้งแรก และหากยังไม่หยุดการกระทำผิดดังกล่าวอีก เราก็จะฟ้องเดือนละ 3 ล้านบาท
"เอกสารที่ใช้ประกอบการจับกุมนั้น เป็นหนังสือรับรองการ แจ้งข้อมูลจิตรกรรมรูปภาพ ซึ่งมิได้เป็นเอกสารรับรองการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่อย่างใด ตามระเบียบกรมทรัพย์สินทางปัญญา รลข. 01 และ รลข. 02 และทางบริษัทก็ได้มีหนังสือรับรองการแจ้งข้อมูลจิตรกรรมรูปภาพดังกล่าวเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น ประเด็นที่ว่า ใครเป็นผู้มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาล ซึ่งแน่นอนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความ เสื่อมเสียต่อชื่อเสียง และสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจของ แม็กซ์ เฮลท์ตี้ ทางบริษัทจึงได้มีการดำเนินคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของรายละเอียดการยื่นฟ้อง เราขอส่วนสงวนสิทธิ์ในการให้รายละเอียด เพื่อมิให้ส่งผลต่อรูปคดี" ทนายความ แม็กซ์ เฮลท์ตี้ กล่าว
ด้านนายประกาศิต เลิศมุกดา ประธานบริษัท ได้กล่าวว่า แม้ว่าช่วงนี้บริษัทจะเจอปัญหาดังกล่าว แต่ยังคงเดินหน้า พัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัว 4 โปรเจกต์ ภายใต้คอนเซปต์ Maxx new gen โดยมี 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่เริ่มด้วย Maxx Gluta Collagen Plus Perfect Edition 35,000 mg ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น หรูหรา เลอค่าเมื่อได้สัมผัส ผลิตภัณฑ์ที่สองคือ Maxx Collagen Pure ด้วยคอนเซปต์ เข้มข้น สั่งได้ ตามใจคุณ ผลิตภัณฑ์ที่สามคือ Maxx Snail Plus ครีมจากส่วนผสมของเมือกหอยทาก โด่งดังมาแล้วที่เกาหลี วันนี้ให้คุณได้พิสูจน์แล้ว Maxx รับประกันคุณภาพ และสุดท้ายไฮไลต์ของงานกับผลิตภัณฑ์เพื่อท่านชาย Sparta ที่มาพร้อมกับพรีเซ็นเตอร์สินค้า อย่าง "อู๊ด เป็นต่อ" โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ 30,000 กล่องต่อเดือน
ปัจจัยทำให้เติบโตทางธุรกิจมาจาก ตัวแทนจำหน่าย ตัวแทนร้านค้า โปรโมชั่น ท่องเที่ยวต่างประเทศ โปรการสะสมคะแนน ตอนนี้เรามีโรงงานผลิตสินค้าที่เป็นพันธมิตร กับเราหลายโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานเจเอสพี และเชียงใหม่โฮลดิ้ง นี่คือกลุ่มพันธมิตรของเรา ทำให้ช่วงที่กลุ่มผู้ไม่หวังดี ทำทุกอย่างลอกเลียนแบบผลิตภัณฑ์เราจนได้รับความเสียหาย เราก็ได้พันธมิตรที่ดี เหล่านี้ช่วยแก้ไขปัญหาได้
"ตอนที่เปิดบริษัทแรกๆ ปกติยอดขาย เฉลี่ย 7-8 แสนบาทต่อวัน วันแรกที่เปิดตัว ขายสินค้าได้ถึง 13-14 ล้านในวันเดียว เรียก ว่า ในเดือนหนึ่งบริษัททำยอดได้ถึง 50 ล้านกว่าบาท พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้ยอดตกถึง 50% หรือกำไรหายไปประมาณกว่า 30 ล้านบาท บริษัทก็เลยพลิกวิกฤติเป็นโอกาสด้วยการจัดโปรเจกต์ "โดนจับรับหมื่น" คือตัวแทนร้านค้าไหนที่ไปรับสินค้าจากกลุ่มที่หลอกลวงแล้วโดนจับกุม เราก็ไป ช่วยและให้เงินเป็นการปลอบใจ" ประกาศิต เผย
ในส่วนของไลน์การผลิต เราดูแลและ เอาใจใส่ทุกขั้นตอน เพื่อให้เพียงพอต่อความ ต้องการของผู้บริโภค ในขณะที่เตรียมเปิดโปรเจกต์ "นูทริแมกซ์" โรงงานผลิตสินค้าของแมกซ์ เฮลท์ตี้ โดยเฉพาะ พร้อมชวนตัวแทนหลักของบริษัททุกท่าน ร่วมทริป มัลดีฟส์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ หลังจากที่ เพิ่งแจก เบนซ์ ซี คูเป้ ไปถึงสองคันให้กับตัวแทนที่ทำรายได้ตามเป้าโปรโมชั่น บริษัท ได้พยายามเน้นทำสื่อการตลาดให้ครอบคลุม ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์, เคเบิล ทีวี และสื่อออนไลน์ เพราะหลักๆ บริษัท ได้กำไรมาจากตรงนี้ถึงเดือนละ 30 ล้านบาทต่อเดือน
+ "ดี เน็ทเวิร์ค" โดนปลอม "ดี เท็น"
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในช่วงที่ผ่านมาเพียงไม่กี่สัปดาห์ "บริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด" บริษัทขายตรงสัญชาติไทย ก็เคยตั้งโต๊ะแถลงข่าว โดย นายสาคร ใสกมล ประธานผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท อ้างว่า ปัจจุบัน สินค้ากลุ่ม "คอลลาเจน" ของตนชื่อ "ดี เท็น" ก็ถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดี นำไปปลอมเพื่อทำให้เหมือนของบริษัท และนำไปลดราคาหลอกขายผู้บริโภค จนทำให้กลุ่มสมาชิก และผู้บริโภคร้องเรียนถึงคุณภาพของสินค้า โดยในงานแถลงข่าว ทาง "ดี เน็ทเวิร์ค" ก็ได้นำสินค้าปลอมมาทดสอบให้เห็น พร้อม ทั้งชี้จุดสังเกตของบรรจุภัณฑ์ระหว่างของจริงและของปลอม
โดย "สาคร" ประธานผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เผยว่า "สินค้า "ดี เท็น" ที่ผู้ไม่หวังดี นำไปลอกเลียนแบบเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งทางบริษัทกำลังเร่งรัดตรวจสอบถึงที่มาของสินค้าปลอมเหล่านี้ แต่ยังไม่สามารถบอกกับสื่อได้ เพราะเกรงว่ากลุ่ม ผู้กระทำผิดจะรู้ตัว และหนีไปเสียก่อน ซึ่งแน่นอนว่าสร้างความเสียหายให้กับบริษัท เป็นอย่างมาก ซึ่ง "ดี เน็ทเวิร์ค" ได้มีการแจ้งความ และกำลังสืบค้นที่มาที่ไปอยู่ ซึ่งหากได้ตัวผู้กระทำผิดทั้งหมดเมื่อไหร่จะแถลงข่าวให้ทราบในทันที"
ทั้งนี้ สินค้ากลุ่ม "คอลลาเจน" นับว่าเป็นสินค้ายอดฮิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน เนื่องจากความเชื่อที่ว่า "คอลลาเจน" เป็นสาระสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใส จนกลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมที่จะ เลือกมาบริโภค เพื่อตอบสนองความต้องการ ดังกล่าว จนกลายเป็นช่องทางของกลุ่ม ผู้ประกอบการเลือกนำมาเป็นจุดขายของสินค้าตนเอง และในทางตรงกันข้าม กลุ่มคนที่หวังแต่กำไรก็เลือกที่จะผลิตลอกเลียนแบบ โดยหวังเพียงเม็ดเงิน โดยไม่สนเรื่องคุณภาพ หรือผลเสียที่ผู้บริโภคจะได้รับ