Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
ขายตรง
ยอด "แอมเวย์" หล่นวูบ! "รถคันแรก" ฉุดกำลังซื้อ คาดตลาดรวมโตต่ำสุด รอบ 10 ปี
ยอด "แอมเวย์" หล่นวูบ! "รถคันแรก" ฉุดกำลังซื้อ คาดตลาดรวมโตต่ำสุด รอบ 10 ปี
วันพุธที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2556
Tweet
"กิจธวัช" นายใหญ่ "แอมเวย์" พยากรณ์ขายตรงปี 56 ตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี คาดขยายตัวแค่ 5% "แอมเวย์" เปิดแผน 2 กระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง อัดสินค้าใหม่กลุ่มเสริมอาหาร "นิวทริไลท์ แคล แมก ดี" เน้นทำตลาดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น พร้อมทุ่มงบตลาดปั้นยอดขายท้ายปี ด้านบริษัทแม่เตรียมทุ่มงบกว่าหมื่นล้านบาท ขยายโรงงาน 7 แห่ง ในสหรัฐอเมริกา, จีน, อินเดีย และเวียดนาม เพิ่มฐานการผลิต ในอนาคต
นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยในงานแถลงข่าวครบรอบ 30 ปี สมาคม การขายตรงไทย (TDSA) ในฐานะนายกสมาคมว่า จากสภาวะเศรษฐกิจ ทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพิษเศรษฐกิจยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน ทำให้ประเทศ ไทยได้รับผลกระทบ ทำให้ภาพรวมของวงการขายตรงปีนี้ ไม่สามารถเติบโตได้เหมือนปีก่อนๆ โดยจะเติบโตได้เพียงประมาณ 5% จากมูลค่าการตลาดรวมกว่า 7 หมื่นล้าน บาท ซึ่งหากโตได้เพียงเท่านี้ ก็จะถือเป็นการเติบโตที่น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี จากที่เคยเติบโตในแต่ละปีที่ 7-10%
"เหตุที่ทำให้ธุรกิจขายตรงต้องพบกับการเติบโตที่น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี ก็เป็นผลมาจากพิษเศรษฐกิจภายนอกประเทศ แต่สำคัญกว่านั่นคือปัญหาเศรษฐกิจภายใน ประเทศ โดยเฉพาะนโยบายรถคันแรก และนโยบายอื่นๆ ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาส่งผลให้ ประชาชนลดการซื้อ ซื้อช้าลง โดยเฉพาะ สินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัทขายตรงต่างๆ ทำให้กลุ่มบริษัทขายตรงต้องออกกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมถึง หาวิธีการกระตุ้นตลาดเพิ่มขึ้น" กิจธวัช ให้ความเห็นภาพรวมของขายตรง
"ในส่วนของ "แอมเวย์" เอง ขณะนี้บริษัทได้มีการปรับแผนปรับกลยุทธ์ในการกระตุ้นยอดขาย โดยเริ่มใช้แผน 2 ซึ่ง การทำงานของบริษัท เราจะวางแผน 1, 2 และ 3 ในทุกปี เพื่อรองรับกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เป้าของยอดขาย สะดุดลง"
อย่างไรก็ดี บริษัทได้วางงบการตลาด ทั้งปี 56 ไว้ที่ 800 ล้านบาท โดยผ่านช่วง ครึ่งปีแรก บริษัทยังเหลืองบอีกมาก ซึ่ง "แอมเวย์" จะใช้งบที่เหลือกระตุ้นตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง
ล่าสุด "แอมเวย์" ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ ในกลุ่ม "นิวทริไลท์" โดย "กิจธวัช" เผยว่า เทรนด์ของผู้บริโภคยังคงตระหนัก ถึงความสำคัญในการดูแลร่างกายให้ แข็งแรงมีสุขภาพดี และยอมรับให้ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพพื้นฐานมากขึ้น ส่งผลให้ ยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ ทั่วโลกเติบโตสูงขึ้นถึง 147,000 ล้านบาท* ในปีที่ผ่านมา บริษัทจึงวางแผนขยายกำลัง การผลิตโดยทุ่มงบประมาณอีก 11,250 ล้านบาท* เพื่อขยายโรงงานผลิตเพิ่มเติมอีก 7 แห่งในสหรัฐอเมริกา, จีน, อินเดีย และเวียดนาม สำหรับประเทศไทย นิวทริ-ไลท์เติบโตและประสบความสำเร็จในทิศทาง เดียวกัน โดยมียอดขายทะลุ 6,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
"ความสำเร็จดังกล่าวนอกจากจะมา จากเทรนด์ใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นผลจากกลยุทธ์การตลาดที่เรามุ่งสร้างความรู้ให้กับนักธุรกิจแอมเวย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทำให้เรามีนักธุรกิจ แอมเวย์มืออาชีพที่สามารถให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องแก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี สำหรับปีนี้เพื่อขยายตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มวิตามินและเกลือแร่ให้แข็งแกร่งมากขึ้น เรายังคงใช้กลยุทธ์เดิมพร้อมการมองหาโอกาสใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งพบว่าวิตามินและ เกลือแร่กลุ่มแคลเซียมเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่มีโอกาสการตลาดสูงมาก" นายกิจธวัช กล่าว
นายกิจธวัช กล่าวต่อไปว่า องค์การ อนามัยโลกพบว่าผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน ทั่วโลกเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นปัญหาทางสาธารณสุขอันดับ 2 รองจากโรคหัวใจและ หลอดเลือด นอกจากนั้น ยังพบว่าอายุเฉลี่ย ของผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุนเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ภายใน 10 ปีข้างหน้า สังคมไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่าง สมบูรณ์ นอกจากนั้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยระบุว่า คนไทยได้รับแคลเซียมจากอาหารไม่เพียงพอ คือ ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณขั้นต่ำที่ร่างกายต้องการต่อวัน** ดังนั้น นิวทริไลท์ขอแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ "นิวทริไลท์ แคล แมก ดี" เป็นตัวช่วยเพื่อดูแลสุขภาพกระดูกของคนไทย ซึ่งหากให้ ความรู้และทำความเข้าใจกับผู้บริโภคอย่างถูกต้องแล้ว สินค้าตัวนี้มีโอกาสขยาย ตลาดทั้งในกลุ่มวัยหนุ่มสาว วัยทำงานและ ผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ด้านนางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวย-การฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ "นิวทริไลท์ แคล แมก ดี" มีส่วนประกอบสำคัญคือ แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินดี และเกลือแร่ พร้อม สารสกัดเข้มข้นอัลฟัลฟา โดยแคลเซียมมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและ ฟันที่แข็งแรง และมีส่วนช่วยในการแข็งตัว ของเลือด แมกนีเซียมช่วยในการทำงาน ของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ และวิตามินดีช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส นอกจากนั้น ยังพิเศษไม่เหมือนใครคือมีสารสกัดเข้มข้นอัลฟัลฟาที่ประกอบด้วยไฟโตนิวเทรียนท์เสริมลงไปอีกด้วย
"สถิติล่าสุดจากมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ พบว่าผู้หญิง 1 ใน 3 คน และผู้ชาย 1 ใน 5 คน มีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุน แต่ละคนต้องสูญเสียค่ารักษาเฉลี่ยปีละ 3 แสน บาท นอกจากนั้น เรายังพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่า วัยที่เหมาะสมในการ รับประทานสารอาหารแคลเซียมต้องเป็นผู้ใหญ่หรือวัยผู้สูงอายุเท่านั้น ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ควรให้ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพกระดูก ตั้งแต่วัยหนุ่มสาวเพราะอาการของปัญหา กระดูกจะไม่ปรากฏให้เห็นในช่วงอายุน้อย แต่จะส่งผลเมื่อสูงวัย ทั้งนี้ ช่วงอายุ 18- 30 ปี เป็นช่วงโอกาสทองในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง เราควรให้ความสำคัญ กับการใช้ชีวิตประจำวันโดยเฉพาะโภชนาการที่ดี บริโภคสารอาหารแคลเซียม ให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการต่อวัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการได้รับแสงแดด ล้วนมีผลช่วยการสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีในระยะยาว" นางรัตนา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
“Zhulian Gala Night 2025” ปรากฏการณ์ค่ำค...
...
“ซูเลียน” ส่งชานม “ที พลัส 3 in 1” เขย่า...
...
Happy MPM Business Trip @ จันทบุรี...
...
กิฟฟารีน แนะนำไอเท็มเด็ด “Giffarine Roya...
...
กิฟฟารีน แนะนำไอเท็มเด็ด “Giffarine Adva...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ