"สุมิตร" ยุบทิ้ง! "มิ้ลค์กี้ เวย์ อินเตอร์ฯ" ตั้ง "เบสท์ มีไลฟ์" เหตุชื่อซ้ำยอดขายลดฮวบ

วันพุธที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2556



"สุมิตร วชโรดมทรัพย์" ประธานใหญ่ "มิ้ลค์กี้ เวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล" ตั้งบริษัทใหม่ นาม "เบสท์ มีไลฟ์" อ้างเหตุเปลี่ยนชื่อเพื่อป้องกันการสับสนในชื่อของ "มิลค์กี้ เวย์" หลังในช่วงก่อนหน้ายอดขายลดฮวบ เหลือ 20 ล้านบาท/เดือน ย้ำชัดบริษัทยังไม่โดนฮุบกิจการ เพียงแต่มีผู้ขอร่วมหุ้นเท่านั้น ฟุ้ง! จากการเปลี่ยนชื่อบริษัท สมาชิกเก่าแห่ขอกลับมาร่วมธุรกิจ เชื่อยอดขายปี 56 แตะที่ 300 ล้านบาท พร้อมทุ่มทุน 100 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตสินค้าเอง
นายสุมิตร วชโรดมทรัพย์ ประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ มีไลฟ์ จำกัด หรือ "BWL" เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยบริหารงาน บริษัท มิ้ลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค จำกัด มาตั้งแต่ เดือน มิ.ย. 2555 แต่พอเข้าสู่ในปี 2556 ช่วงสิ้นเดือน มี.ค. เรียกว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตนโดนปลดออกจากตำแหน่ง การบริหารงาน ซึ่งทำให้ตนต้องแยกบริษัทออกมาและตั้งชื่อบริษัทใหม่เป็น บริษัท มิ้ลค์กี้ เวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด
ซึ่งได้บริหารงานมาสักระยะหนึ่ง ชื่อ บริษัท มิ้ลค์กี้ เวย์ อินเตอร์ เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ยังมีความคล้ายคลึงกับบริษัท มิ้ลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค จำกัด และเพื่อป้องกันความสับสนในทางธุรกิจ และ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ เนื่องจากมีสมาชิกหลายท่านยังให้ความเชื่อถือและศรัทธาในบริษัท จึงได้ถือโอกาสเปิดตัวทีมบริหาร ใหม่อย่างชัดเจน พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก "มิ้ลค์กี้ เวย์อินเตอร์เนชั่นแนล" มาเป็น "บ.เบสท์ มีไลฟ์" โดยมีผู้นำจากทุกจังหวัดมาร่วมในงานเปิดตัวบริษัทใหม่
สำหรับการแถลงข่าว บริษัทจัดขึ้นเพื่อให้สมาชิกได้ทราบว่า บริษัทพร้อมในการ ดำเนินธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ปัญหาที่ผ่านมาคงเป็นเรื่องของความคิดที่ไม่ตรงกัน ในเรื่องของคอนเซปต์ความคิด เพราะบริษัท ต้องการความสำเร็จที่ไม่มีอะไรมาทำให้สะดุด โดยสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ บริษัทได้รีบลงทุนทำการรีแบรนด์ใหม่ทั้งหมด โดยใช้งบประมาณกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งมี 20 กว่าสาขาที่ต้องทำให้เสร็จโดยเร็วในการปรับเปลี่ยนโลโก้และตกแต่งภายใน หากช้ากว่านี้อาจจะมีผลต่อยอดขาย
"ก่อนหน้านี้มีหลายบริษัทเสนอเข้ามาร่วมหุ้น แต่สู้ตัวเลขการลงทุนกับเราไม่ไหว เลยถอนตัวไปหลายบริษัท เพราะการ ร่วมธุรกิจกับเราต้องใช้งบประมาณสูงพอสมควร โดยตอนนี้มีผู้ที่เข้ามาร่วมหุ้นกับเรา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ ผู้บริหารกับผู้นำในองค์กร โดยที่บริษัทยังถือหุ้นอยู่ประมาณ 60% ส่วนที่เป็นข่าวออกไปว่า บริษัทโดนเทกโอเวอร์นั้น ไม่ใช่เรื่องจริงแน่นอน มีแค่คนอยากเข้ามาร่วมหุ้นกับบริษัทด้วยเท่านั้น โดยยังมีข่าวดีตามมา คือ สมาชิกหลายคนที่เคยถอนตัวไปก็ได้ติดต่อกลับมาร่วมธุรกิจกับบริษัท" สุมิตร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทางผู้นำของบริษัทช่วยกันทำงานขยาย เครือข่ายอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าตอนนี้บริษัทเติบโตถึง 200% แสดงให้เห็นถึงความ สามัคคีและความรักองค์กร ขณะที่เรื่องการ เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่นั้น ตอนนี้ได้ยื่นเรื่องไปทาง สคบ. เรียบร้อยแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนการปรับแก้ไขอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเรียบร้อยในเร็วๆ นี้
ขณะที่เป้าหมายของบริษัท นับจาก นี้ถึงสิ้นปี 2556 "สุมิตร" ประธานใหญ่ "BWL" เผยว่า "ก่อนหน้านี้บริษัทมียอดขายพุ่งขึ้นไปกว่า 50 ล้านบาทต่อเดือน พอมี ปัญหาเรื่องชื่อบริษัททำให้ยอดขายตกลงไปเหลือที่ประมาณ 20 ล้านบาทต่อเดือน แต่พอได้เปลี่ยน และสร้างความเข้าใจกับสมาชิกแล้ว ขณะนี้ทำให้ยอดขายเริ่มกลับมา โดยปัจจุบันยอดขายอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้บริษัทมั่นใจว่า สิ้นปีนี้จะมียอดสมาชิกแตะ 5 แสนรหัส ยอด ขายน่าจะทำได้ถึง 300 ล้านบาท โดยช่วง ครึ่งปีที่ผ่านมาก็ได้รวมๆ แล้วประมาณ 100 ล้านบาท โดยในอนาคตภายใน 5 ปี จะต้องมียอดขายขึ้นไปถึง 1,000 ล้านบาทให้ได้"
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ บริษัทได้มีการหาสินค้าใหม่ๆ หลายรายการมาทำตลาด โดยกำลังเจรจากับบริษัทผลิตและจำหน่ายสินค้ามากมาย ซึ่งมีสินค้าบางตัวที่ติดต่อได้สำเร็จแล้ว โดยจะมีการจัดงานเปิดตัวสินค้าของบริษัทอีกครั้งในอนาคต นอกจากนี้ "เบสท์ มีไลฟ์" ยังได้ยกเลิกสั่งสินค้าจากบริษัทอื่น และ ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานผลิตสินค้าของตนเอง โดยจะ ตั้งอยู่บริเวณคลองหลวง ตรงข้ามกับวัดธรรมกาย ซึ่งได้ลงมือสร้างไปกว่า 30% แล้ว และอยากให้สมาชิกสบายใจได้


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ