TDNA บุก สคบ.เร่งรื้อกฎหมาย "จิรชัย" ลั่น!! พร้อมหนุน ดึง ม.เกษตรฯร่วมยกขายตรงเทียบประกัน

วันพุธที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2556

TDNA บุก สคบ.เร่งรื้อกฎหมาย


สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย จับเข่าคุย เลขาธิการ สคบ. เสนอทางแก้กฎหมายขายตรง ยันหากข้อมูลสำรวจวิจัยจาก ม.หอการค้าเสร็จสมบูรณ์พร้อม นำเสนอนายกฯ "ยิ่งลักษณ์" ทันที "จิรชัย" เลขาฯ สคบ. พร้อมหนุน จับมือ ม.เกษตรฯ วาง 3 แนวทาง ศึกษาแนวทางแก้กฎกระทรวง, การตั้งหน่วยงานดูแลเฉพาะ และให้มีการสอบขึ้นทะเบียนนักขายเหมือนธุรกิจประกัน "นิโรธ เจริญประกอบ" นายกสมาคมฯ ชี้ไม่ต้องการผลักดันแก้กฎหมายเพียงลำพัง หวังทุกภาคส่วนในวงการร่วมแสดงความคิดเห็น
เป็นการเดินหน้ารุกแก้ไขกฎหมายขายตรงของสมาคมเครือข่ายขายตรงไทย (TDNA) หลังจากประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปได้ไม่นาน ล่าสุด TDNA นำ นิโรธ เจริญประกอบ นายกสมาคมฯ และนายพิศิษฐ์ แทนทิว เลขาธิการสมาคมฯ พร้อม กรรมการบริหาร และสมาชิกสมาคมฯ ได้เข้าพบนายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อหารือถึงแนวทางในการแก้ไขกฎหมายขายตรง พร้อมทั้งเชิญสื่อ มวลชนร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยในการประชุมร่วมกับคณะกรรมการ สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย (TDNA) เพื่อหารือถึงแนวทาง การแก้ไขกฎหมายขายตรง และตั้งหน่วยงานที่จะมีหน้าที่กำกับดูแล วงการธุรกิจขายตรงโดยเฉพาะ ว่า ขณะนี้ทาง สคบ. ได้เร่งทำงาน เรื่องของการจัดระเบียบบริษัทขายตรง โดยที่ผ่านมาได้ติดต่อไปยัง บริษัทขายตรงที่มีอยู่เกือบ 900 บริษัท ซึ่งมีการจดทะเบียนบริษัทมาตั้งแต่ปี 2545 โดยล่าสุดได้สอบถามไป 3 ครั้ง จนได้กลุ่มบริษัท ขายตรงที่ยังดำเนินการอยู่ถึงตอนนี้ที่ 353 บริษัท แต่ก็ยังมีหลายบริษัทที่ยังทยอยเข้ามารายงานตัวอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ผ่านมา มีการร้องเรียนถึงการทำงานของ สคบ. ถึงความ ล่าช้าในการขึ้นทะเบียนเปิดบริษัท ซึ่งในเรื่องนี้ "จิรชัย" แจงว่า "เหตุของความล่าช้าของ สคบ. ในการขึ้นทะเบียนบริษัทขายตรง แบ่งเป็น 3 เรื่อง คือ 1.การขอจดบริษัทใหม่ 2.บริษัทขายตรงมีการ เปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของบริษัท และ 3.การเข้าขอยื่นจดสินค้า ใหม่ของแต่ละบริษัท ซึ่งในทั้ง 3 เรื่องทาง สคบ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่พยายามหาวิธีแก้ไข โดยเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ก็เพราะกำลังคนที่น้อยมาก ทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงาน ส่วนเรื่องการขอรับเงินของ สคบ. เพื่อแลกใบอนุญาต ถือเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น ซึ่ง สคบ. ไม่เคยรับเงินใต้โต๊ะเพื่อแลกการออกใบอนุญาตเลย"
อย่างไรก็ดี ในเรื่องของการทำงานของ สคบ. ในเวลานี้ ทางหน่วยงานได้แบ่งการทำงานเป็น 3 ส่วน คือ 1.การขึ้นทะเบียนบริษัท 2.หน่วยติดตามเฝ้าระวัง และ 3.ฝ่ายปราบปรามการกระทำผิด ของบริษัทขายตรง
ทางด้าน นายนิโรธ เจริญประกอบ นายกสมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย (TDNA) ได้กล่าวว่า ปัจจุบันทางสมาคมฯ มีความมุ่งมั่นให้ธุรกิจขายตรง เป็นที่ยอมรับในวงกว้างของทุกภาคส่วน อีกทั้งยังพยายามที่จะทำให้ธุรกิจขายตรง เป็นเหมือนธุรกิจประกัน ซึ่งกลายเป็นที่ยอมรับ และเป็นธุรกิจในการสร้างงานสร้างอาชีพ
"TDNA มีความต้องการในการผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งในช่วงที่ตนรับตำแหน่ง เลขาธิการ สคบ. เรื่องการแก้ไขกฎหมายขายตรงเป็นเรื่องที่ผม พยายามทำให้เกิดขึ้น โดยแก้ไขใน 5-6 ประเด็นกฎหมาย และได้ยื่นส่งต่อไปที่คณะ รัฐมนตรีแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องดึงร่างกฎหมายตัวแก้ไขออกมาก่อน เนื่องจากยังมีหลายเรื่องที่ยังไม่ได้แก้ไข ทำให้ต้องนำกลับมาร่างใหม่"
โดยหลังจากที่ลาออกจากตำแหน่งก่อนวัยเกษียณ นายนิโรธ กล่าวว่า ตนก็ยังต้องการทำในเรื่องแก้ไขกฎหมายให้เกิดขึ้น โดยทำในหน้าที่ของภาคเอกชน โดยนอกจากเรื่องของการแก้ไขกฎหมายขายตรงแล้ว สมาคมฯ ยังต้องการให้มีการ จัดตั้งหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลวงการขายตรงอย่างเฉพาะ และจะดีมาก หากหน่วยงานดังกล่าว เป็น หน่วยงานอิสระที่ไม่ขึ้นกับฝ่ายใด เพื่อที่จะมีความอิสระในการทำงานอย่างเต็มที่
"การทำงานของสมาคมฯ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะนี้ทาง TDNA ก็กำลังรอในเรื่องของผลงานวิจัยที่สมาคมฯ ได้ว่าจ้าง มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดย ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้า ไทย ให้มาเป็นผู้ทำงานวิจัยวงการขายตรงในรูปแบบทุกมิติของวงการ โดยหลังจากที่ผลงานวิจัยนี้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งคาดว่าจะ เป็นช่วงปลายปีนี้ ทางสมาคมฯ จะนำผลการวิจัยนี้ ไปส่งมอบให้นายกรัฐมนตรี เพื่อ ให้นายกฯ ได้เห็นความสำคัญของธุรกิจขายตรง และสมาคมฯ จะเชิญ "ดร.ธนวรรธน์" มาชี้แจงในความเป็นไปที่เกิดขึ้นในวงการขายตรง เพื่อให้ภาครัฐได้เห็น นำไปสู่การยกระดับวงการธุรกิจต่อไป" นิโรธ เผยถึงแนวทางการทำงาน
นอกจากนี้ "นิโรธ" ยังกล่าวถึงข่าวที่ว่า "กิจธวัช ฤทธีราวี" นายกสมาคมการขายตรงไทย (TDSA) ได้ให้ข่าวกับสื่อ หลายสำนักว่า "การแก้ไขกฎหมายขายตรงยังไม่มีความจำเป็นต้องเร่งรัดให้เกิดขึ้น และหากจะมีการแก้ไขกฎหมายจริง สุดท้ายก็ต้องผ่าน สมาคมการขายตรงไทย อยู่ดี เรื่องนี้ทาง TDNA ไม่เคยพูดว่า ต้องการผลักดันการแก้ไขกฎหมายเพียงลำพัง แต่สมาคมฯ ต้องการให้ทุกสมาคม ทุกบริษัท ได้เข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งหลังจากที่ได้มีการสรุปความคิดเห็นเรียบร้อย ก็จะยื่นต่อไปที่ สคบ.ในทันที"
ด้านนายพิศิษฐ์ แทนทิว เลขาธิการสมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย กล่าวว่า เรื่องของการแก้ไขกฎหมายขายตรง ไม่ใช่ว่า TDNA เป็นต้นคิด และ เรื่องนี้ก็มีหลายฝ่ายผลักดันโดยตลอด แต่ ถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
"การแก้ไขกฎหมายขายตรงที่ TDNA พยายามทำอยู่นี้ เป็นการกระทำที่แตกต่างจากที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง โดย TDNA ได้มีการว่าจ้าง ม.หอการค้าไทย ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของวงการขายตรงในทุกมิติ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำอย่างจริงจัง โดยหลังจากที่งานวิจัยดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ งานวิจัยนี้จะกระจายไปในหลายภาคส่วน เพื่อทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน ซึ่งต้องยอมรับที่ผ่านมา รัฐยังไม่มีความเข้าใจในธุรกิจขายตรงมากนัก เนื่องจากไม่ได้เข้ามาคลุกคลีในวงการธุรกิจ โดยเป้าหมายของสมาคมฯ ก็เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม ยกระดับวงการธุรกิจขายตรงในอนาคต" พิศิษฐ์ กล่าว
โดย "จิรชัย" เลขาธิการ สคบ. ได้ชี้แจงในประเด็นการหารือที่เกิดขึ้นว่า ในส่วนของบริษัทขายตรง สคบ.ได้แยกเป็น 2 บัญชี คือ บัญชี ก. บริษัทที่จดทะเบียนและได้รายงานตัวกับสคบ.เรียบร้อย บัญชี ข. คือ กลุ่มบริษัทที่จดทะเบียน แต่ยังไม่ได้เข้ามารายงานตัว ซึ่งถือว่ามีความผิด และไม่สามารถเอาผิดได้
ที่ผ่านมาการทำงานของ สคบ. ถือว่า มีข้อจำกัดมาก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนคนที่มีไม่เพียงพอ งบของการทำงานก็น้อยเป็นอย่างมาก โดยงบในปี 56 สคบ.มีงบการทำงานเพียง 266 ล้านบาท โดยในปี 57 งบการทำงานก็มีเพียง 211 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยมากกับการต้องทำงานดูแลผู้บริโภคทั้งประเทศ
"การตั้ง "กรมขายตรง" หรือหน่วยงานที่ดูแลวงการธุรกิจโดยเฉพาะ ตนเห็น ด้วยกับสิ่งนี้ เพราะ สคบ.มีข้อจำกัดในการ ทำงานทั้งคนและงบประมาณที่น้อย โดย สคบ.ไม่มีความรู้สึกหวงแต่อย่างใด เพราะ ตนก็อยากเห็นความก้าวหน้าของวงการขายตรงอยู่แล้ว" จิรชัย แจง
อย่างไรก็ตาม "จิรชัย" ยังเผยถึงการทำงานของ สคบ.ในเวลานี้ว่า "ปัจจุบัน สคบ.ได้ให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หาวิธีการแก้ไขกฎหมายขายตรง โดยหาข้อมูลเป็นในลักษณะคู่ขนานไปกับสมาคม เครือข่ายขายตรงไทย แต่มีจุดเป้าหมายเดียวกัน โดย 1.การหาวิธีแก้ไขกฎหมาย ระยะสั้น แก้กฎกระทรวง 2.ถ้าจะตั้งหน่วย งานที่ดูแลเฉพาะจะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด และ 3.ผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนนักธุรกิจขายตรง โดยอาจจะมีการ ให้สอบเหมือนนักธุรกิจประกัน โดยใช้เวลา ในการทำงานหาข้อสรุปในเรื่องประมาณ 7-8 เดือนต่อจากนี้"
ทั้งนี้ การเข้าพบ สคบ. โดยสมาคม ธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย เพื่อประชุมหารือการแก้ไขกฎหมาย ตั้งหน่วยงานเฉพาะขึ้นมากำกับดูแลธุรกิจขายตรงในครั้งนี้ ทาง TDNA ได้เชิญสื่อมวลชนหลาย สำนักเข้าร่วมรับฟัง พร้อมตั้งคำถามไขข้อ สงสัยในแต่ละประเด็นด้วย โดยที่สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย ต้องการให้การประชุมในครั้งนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใส มากที่สุด


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ