สยามธุรกิจ : บริษัทขายตรงรายใหญ่ของไทย ตื่นตัวขยายตลาดต่างประเทศ ล่าสุด "คังเซน-เคนโก" ปรับกลยุทธ์การตลาด พร้อมรื้อระบบจัดการองค์กรใหม่หมดก่อนบุกอินเดีย และขยาย สาขาในกลุ่มประเทศอาเซียน ยันธุรกิจความงาม "เบอร์รี่ เฮาส์" ฉลุย! เตรียมทุ่มทุนซื้อที่ดินตั้งคลินิกใหญ่หลังเฮดออฟฟิศ ด้าน "นีโอไลฟ์" รุกขยายสาขาต่อเนื่อง เล็งจีนเปิดรับธุรกิจขายตรง "กิฟฟารีน" ตั้งเป้ายอดขายสาขา ตปท.เพิ่ม 5 เท่าตัว
นายอิทธิศักดิ์ อำพันยุทธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยกับ "สยามธุรกิจ" ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการปรับเปลี่ยนภายในองค์กรมากพอสมควร โดยช่วงต้นปีมีการแก้ไขจุดอ่อน และปรับจุดแข็งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมยอดขาย จำนวนสมาชิกซึ่งทุกอย่างกำลังดีขึ้น โดยถือว่ากำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายสมาชิกใหม่ๆ เข้ามาสู่องค์กร และบริษัทก็พยายามมุ่งเน้น ให้องค์กรช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกันให้ดี
"โดยในส่วนของกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น เรายังเดินตามแผนเดิม เพราะได้ปิดจุดอ่อน และเร่งพัฒนา สมาชิกให้มีความเข้าใจสิ่งต่างๆ มากขึ้น เพราะจะขายอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ต้อง มีการขยายองค์กรให้เป็น เริ่มจากการชักชวนอย่างไรให้ได้ผล โดยต้องการให้สมาชิกสามารถกำหนดทิศทางได้เองว่าจะเติบโตได้ขนาดไหน ที่สำคัญต้องมีความซื่อสัตย์ต่อองค์กรด้วย"
อย่างไรก็ตาม ทิศทางธุรกิจของปี 2556 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายผลักดันการเติบโตให้ได้ประมาณ 5-10% เนื่องจากต้อง ค่อยๆ เป็นคอยๆ ไปทีละสเต็ปที่วางแผนไว้ โดยเชื่อว่า ยังมีคนจำนวนมากที่ต้องการมีรายได้เพิ่ม โดยสมาชิกของ คังเซน-เคนโก ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 5 แสนคน เป็นสมาชิก ที่แอ็กทีฟประมาณ 30%
ในส่วนของการเตรียมแผนรับมือการ เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558 นั้น "อิทธิศักดิ์" ได้กล่าวว่า หากนับสาขาในประเทศไทยที่มีกว่า 80 สาขาครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค โดยบริษัทก็ได้ทำการขยายเครือข่ายไปประเทศในแถบ เพื่อนบ้านหลายแห่ง ได้แก่ พม่า, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ลาว และกัมพูชา ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี เชื่อว่าตลาดจะเติบโตได้ดี
"เราได้เข้าไปเปิดตลาดกับประเทศเพื่อนบ้านหลายสิบปีแล้ว เพราะเชื่อว่า จะ ส่งผลดีต่อบริษัทในอนาคต โดยได้เปิดศูนย์เซ็นเตอร์สินค้าที่พม่ามา 8 ปี, ลาว 10 ปี, เวียดนาม 2 ปี และอินโดนีเซีย 16 ปี โดย ผมได้ออกไปแสดงวิสัยทัศน์หลายประเทศมาก อย่างตอนนี้กำลังเตรียมจะเข้าไปขยายตลาดที่ประเทศอินเดีย แต่ยังอยู่ในช่วงศึกษารายละเอียดกฎหมายที่นั่นอยู่ รวมถึงเรื่องของวัฒนธรรมประเพณี มั่นใจว่าจะเตรียมเปิดเซ็นเตอร์ให้ได้ในเร็วๆ นี้"
ขณะที่ก่อนหน้านี้ คังเซน-เคนโก ได้ทุ่มงบประมาณลุยธุรกิจด้านความงาม คลินิก "เบอร์รี่ เฮาส์" พร้อมเปิดสาขาต้นแบบแห่งแรกที่ห้างสรรพสินค้า ซีคอน สแควร์ ซึ่งจะจับกลุ่มลูกค้าในระดับพรีเมี่ยม ทั่วไป และกลุ่มสมาชิกคังเซนฯ เป็นหลัก พร้อมทั้งจะขยายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ
"ตอนนี้เบอร์รี่ เฮาส์ ดำเนินธุรกิจความงามมาได้ปีเศษๆ โดยคังเซนฯ ตั้งใจอยากจะบริการลูกค้าที่เกษียณแล้ว โดยที่นี่ มีคอร์สเกี่ยวกับความงามทุกรูปแบบอย่าง ที่ทราบกันดีว่า ตลาดความงามมีการแข่งขัน กันสูงมาก ทำให้บริษัทเตรียมที่จะซื้อที่ดินด้านหลังอาคารคังเซนเพลส ประมาณ 150 ตร.ว. เพื่อเปิดคลินิกรองรับสมาชิกคังเซนฯโดยเฉพาะ เพราะการมาเสริมความงามที่นี่ยังจะได้ PV ของ "คังเซน-เคนโก" เพิ่มด้วย อีกทั้งคลินิกที่ว่ายังมีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลเป็นอย่างดี"
"คังเซนฯ มีความมั่นใจในเรื่องของความงามจากประสบการณ์ที่มีมายาวนาน มั่นใจว่า ลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการจะเกิดความเชื่อมั่นแน่นอน โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นผู้หญิง 70% ที่เข้ามาร่วมธุรกิจกับเรา ยิ่งตอนนี้เรื่องความงามกำลังมาแรงมาก ส่วน กลุ่มสมาชิกที่เป็นวัยรุ่นยังเข้ามากันน้อย แต่ ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ คาดว่า การปรับ แผนต่างๆ จะช่วยดึงดูดคนรุ่นใหม่และลูกค้า ได้ทุกกลุ่มมากกว่านี้"
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้การขยายสาขา ไปยังต่างประเทศ บริษัท นีโอไลฟ์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด ยักษ์ใหญ่ขายตรงของคนไทยได้จัดกิจกรรมเสริมความรู้ พร้อมพา สมาชิกหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนรุกขยาย สาขาในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นกัน หลังจากเปิดสาขาในกัมพูชา และเวียดนาม ไปแล้ว ซึ่งล่าสุดมีแผนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศจีน หากจีนเปิดให้ธุรกิจขายตรงเข้า ไปดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบเมื่อไหร่ "นีโอไลฟ์" ก็จะมีความได้เปรียบทันที
โดย ดร.นพรุจ เวชกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นีโอไลฟ์ฯ กล่าวอย่างมั่นใจว่า ในปี 2556-2557 นี้ นีโอไลฟ์ จะขยายธุรกิจให้ครอบคลุมครบทั้ง 10 ประเทศอาเซียน เพื่อรองรับ AEC ที่จะมา ถึง เพื่อสร้างรากฐานก่อนเปิดเสรีการค้าในกลุ่มประเทศอาเซียนในปี 2558
ขณะที่บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด บริษัทขายตรงระดับแถวหน้าของคนไทยได้มีการเตรียมความพร้อม และมีแผนขยายสาขาในภูมิภาคอาเซียนเช่นกัน โดย ปัจจุบันได้เข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศ อาเซียน แล้ว 4 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา พม่า มาเลเซีย และอินโดนีเซีย และปี 2556 นี้ จะขยายเข้าไปในเวียดนาม
โดย พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 บริษัทจึงเตรียมความพร้อมที่จะขยาย สาขาในกลุ่มประเทศเหล่านี้มากขึ้น แต่จะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เฉลี่ยปีละ 1 ประเทศ โดยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า คาดว่าบริษัทจะมีรายได้รวมจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น 5 เท่าตัว หรือจาก 100 ล้านบาท เป็น 500 ล้านบาท
"สินค้าเราที่จำหน่ายในต่างประเทศ จะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ หากกำแพงภาษีมีการปรับลดลง ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าเท่ากับราคาที่ขายในประเทศไทย" พ.ญ.นลินี กล่าว