"มิสทิน" รื้อระบบจัดส่งสินค้า เผยศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่ลาดหลุมแก้วใกล้ได้ฤกษ์เปิดใช้ มั่นใจเพิ่มคุณภาพส่งสินค้าถึงมือลูกค้าเร็วขึ้น 2 เท่าตัว ส่งอานิสงส์ตลาดเพื่อนบ้าน พม่ากับลาว มีหวังยอดขาย 2 ประเทศนี้แตะพันล้านบาทในปีนี้ ด้านกลยุทธ์ในไทย เดินหน้ากระตุ้นแรงซื้อ ระเบิดแคมเปญใหญ่ ภายใต้ชื่อ A LAND ปลุกกระแส "แคทตาล็อก ฟรายเดย์" จัดสินค้าหลายกลุ่มเข้าขายช่วงครึ่งปีหลัง ล็อกเป้ายอดขาย 1.37 หมื่นล้าน สิ้นปี
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศ ไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคระบบขายตรงชั้นเดียวภายใต้แบรนด์ "มิสทิน" เปิดเผยว่า บริษัทมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 10% มีฐานลูกค้าทุกเพศทุกวัย ส่งผลให้ยอดขายในปี 2555 ขึ้นไปอยู่ที่ 12,800 ล้านบาท และมีสมาชิกมากถึง 980,000 คน สำหรับในปี 2556 นี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 13,700 ล้านบาท ด้วยทำเลที่ตั้งของไทย ที่เป็นศูนย์กลางในอาเซียน บริษัทจึงเร่งขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาว, พม่า, กัมพูชา, อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ทั้งนี้ เฉพาะตลาดพม่าและลาวคาดว่าปี 2556 จะ มียอดขายรวม 1,000 ล้านบาท
"ภาพรวมปี 2555 ที่ผ่านมา ทั้งมิสทินและฟรายเดย์ทำยอดขายได้ที่ 12,800 ล้านบาท ส่วนในปี 2556 ถึงตอนนี้เติบโต 7% มียอดขายที่ 3,700 ล้านบาท มั่นใจว่าปีนี้จะต้อง มียอดขายที่ 13,700 ล้านบาท และผลประกอบการ 3 เดือนแรกของปีนี้มีกำลังสั่งซื้อตกลง โดยมีการสั่งซื้อมาจากภาคใต้ประมาณ 13% อีสาน 2% ทำให้ตอนนี้ต้องมีการมองหา ตลาดใหม่ สาเหตุที่กำลังสั่งซื้อตกลงมาจากความไม่มั่นใจของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของเศรษฐกิจ และการเมือง"
"มั่นใจว่าไตรมาส 3 ของปีนี้จะดีขึ้น ตั้งแต่เดือนที่ 6 เป็นต้นไป จะมีการสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก คือเรามีการปรับแผนตั้งแต่ต้นปี 2556 ด้วยการให้ความสำคัญ กับสมาชิกมากขึ้น คือจะพยายามทำให้มีการสั่งซื้อมากขึ้น และสมาชิกอยู่กับเราจะต้อง มีความสุข โดยตอนนี้มีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 980,000 คน ที่กำลังแอ็กทีฟ ทั้งขาย-จำหน่าย ซึ่งมีอยู่ในกทม.ประมาณ 10%"
"ส่วนใหญ่ในช่วงกลางปีจะมียอดขายตกลง เพราะติดกับเทศกาลช่วงสงกรานต์ แต่มากลางปีนี้ถือว่าแปลกมากที่มีการสั่งซื้อมากขึ้น โดยมีการสั่งซื้อถึง 10% ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ โดยตอนนี้เรามีการปรับแผนด้วยการกระตุ้นยอดขาย ซึ่งหลักๆ จะ ให้สมาชิกเน้นขายอย่างต่อเนื่อง และเตรียมจะมีการเปิดตัวโปรเจกต์ยักษ์ในช่วงกลางปี นี้คือ โปรเจกต์ เบทเตอร์แลนด์"
"ในการเปิดตัวสินค้าแคตตาล็อก ฟรายเดย์ ก็เพื่อเป็นการรองรับภูมิภาคนี้ถึง 7 ปี และมีอีก 60 กว่าแบรนด์ที่จะทยอยเปิดตัวประมาณช่วง ต.ค. และกว่า 400 รายการสินค้าที่จะตามเข้ามา ซึ่งภาพรวม จากนี้อีก 3-4 ปี ฟรายเดย์ จะมีการเติบโตขึ้น 10% มิสทินโต 10% โดยฟรายเดย์จะได้เปรียบ เพราะเจาะได้ทุกกลุ่ม ส่วนมิสทิน เจาะเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอางเท่านั้น"
"โดยมั่นใจว่าในปี 2556 ฟรายเดย์น่าจะปิดยอดขายที่ 5,500 ล้านบาท และในส่วนของตลาดเออีซีนั้น จะมีการเชื้อเชิญ บริษัทต่างๆ มาร่วมธุรกิจกัน นโยบายเออีซี จะช่วยให้ขยายลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งการตลาด การผลิต อย่างที่พม่ายอดขาย 500 ล้านบาท ส่วนลาวกับกัมพูชาก็กำลังมาแรงมาก เช่นกัน"
"บริษัทได้ใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท เรียกว่ามากที่สุดในรอบหลายปีของการดำเนินงาน โดยขณะนี้เริ่มถูกใช้ไปกับการยกระดับความสามารถด้านลอจิสติกส์ ไอที ซอฟต์แวร์ และอี-คอมเมิร์ซ เพราะเชื่อว่า ลอจิสติกส์จะเป็นหัวใจสำคัญ ต่อการเติบโตของมิสทินในอนาคต"
ลอจิสติกส์ในที่นี้เป็นเรื่องของการบริหารเส้นทางสินค้าตั้งแต่ "ต้นน้ำ" ถึง "ปลายน้ำ" ซึ่งประโยชน์ที่มิสทินได้รับเต็มๆ ก็คือ ต้นทุนการขนส่งที่มีประสิทธิภาพจาก เดิม 3-5 หมื่นออเดอร์ต่อวัน หากมีระบบการจัดการใหม่เข้าไปเสริมทัพ เท่ากับมิสทิน จะจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วขึ้นเป็น 2 เท่าตัว
อย่างไรก็ดี บริษัทยังจะมาพร้อมกับแผนลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ที่ลาดหลุมแก้วพื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้ งานได้ภายในปีนี้
หากเป็นไปตามแผนที่วางไว้ มิสทิน จะมีสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์ขยับจาก 7% เป็น 20% ของยอดขายรวมในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ ไว้ที่ 13,700 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 8% จากปี 2555
"ตอนนี้มียอดขายในพม่ามาเป็นอันดับต้นๆ ราว 500 ล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งหากการลงทุนด้านลอจิสติกส์แล้วเสร็จจะเป็นตัวกระตุ้นหลักให้การทำตลาดในภูมิภาคนี้รุดหน้าไปตามแผนที่วางไว้ และเมื่อถึงวันนั้นจะได้เห็นการโมเดลธุรกิจ ที่เปลี่ยนไปของมิสทินสู่ในโมเดลใหม่ที่ แตกต่างอย่างสิ้นเชิง" ดนัย กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ มิสทินยังได้เปิดตัวแคมเปญใหญ่ ภายใต้ชื่อ "A LAND" สินค้าแบรนด์หลากหลายครบครัน จัดจำหน่ายเพียงที่เดียวผ่าน แคตตาล็อก ฟรายเดย์ แคตตาล็อกขายตรง ถึงบ้านคุณพร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ A LAND ผ่านแฟชั่นโชว์ นำโดย เอ-ศุภชัย, เวียร์-ศุกลวัฒน์, เคน-ภูภูมิ, ออย-ธนา, เมย์-เฟื่องอารมย์, กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ และเนย-โชติกา
แคมเปญดังกล่าว จะประกอบด้วยสินค้าต่างๆ มากมาย อาทิ Vier Jeans สินค้าแฟชั่นแนวยีนส์, Oil Home สินค้าเครื่องใช้ในบ้านรวมถึงของตกแต่งบ้าน, KN Accessory แนะนำเครื่องประดับเก๋ๆ, May Flower Collection สินค้าประเภทเสื้อผ้า และ Ken IT ขายสินค้าอุปกรณ์ไอที