นายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์วิกฤตการระบาดโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จนยึดยาวมาจนขณะนี้ ที่ส่งกระทบกับหลากหลายธุรกิจจำนวนมาก โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน ในช่วงที่มีการล็อคดาวน์ และปิดประเทศในช่วงที่ผ่านมา โดยในส่วนของห้างเอ็ม บี เค เองเราก็เป็นศูนย์การค้าใจกลางเมืองที่มีลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มชาวต่างชาติ มากว่าคนไทย และแน่นอนเราก็ได้ผลกระทบพอสมควรเช่นกัน จนเมื่อปีที่ผ่านมาเราก็ได้ทำการปรับแผนธุรกิจด้วยการประกาศรีโนเวทปรับโฉมและปรับพื้นที่ เพิ่มร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ภายใต้งบประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งมาจนปีนี้ก็ได้ปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเราเตรียมพร้อมเปิดให้บริการในปลายปีนี้ และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 ซึ่งการปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่นี้เราต้องมุ่งขยายฐานจับลูกค้าชาวไทยมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เข้ามายังมีจำนวนน้อยและเป็นนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่นิยมเดินทางเป็นกลุ่มด้วยตัวเองที่จะนิยมเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติมากกว่า ที่จะมาท่องเที่ยวแบบช้อปปิ้งเหมือนแต่ก่อน ซึ่งยังไม่ใช่กลุ่มลูกค้าหลักเดิมของศูนย์การค้าที่จะเป็นกลุ่มในรูปแบบทัวร์นักท่องเที่ยวจีน หรือแถบตะวันออกกลางที่เดินจะนิยมเดินทางมาเที่ยวเพื่อช้อปปิ้งซื้อสินค้าเป็นหลัก
สำหรับโฉมใหม่ของศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ พร้อมเปิดให้บริการและจัดแคมเปญอีเวนต์ต่าง ๆ เฉลิมฉลองภายใต้คอนเซ็ปต์ MBK MB COOL ชู แนวคิดเปิดบริการ 24 ชม. ศูนย์กลางการใช้ชีวิตแบบคูล ๆ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้สัมผัสบรรยากาศการตกแต่งใหม่ ให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ ร้านอาหาร ร้านค้าแบรนด์ชั้นนำมากมายที่ยกขบวนมาให้ได้ช้อปและใช้เวลาพบปะสังสรรค์ได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางวันจนถึงกลางคืน โดยวางโพสชั่นใหม่เป็น ‘All Day Dining’ ทั้งกับร้านอาหาร, ร้านคาเฟ่, ร้าน Bar & Restaurant ในบรรยากาศ Night Life เพื่อครอบคลุม 4 ช่วงเวลาของลูกค้า ตั้งแต่มื้อเช้า – มื้อกลางวัน – มื้อเย็น ไปจนถึงมื้อค่ำ หรือมื้อดึก ทั้งสำหรับนักเรียน – นักศึกษา เนื่องจาก MBK Center โฉมใหม่ ได้รวบรวมติวเตอร์กวดวิชามาไว้ในที่เดียวมากถึง 25 สถาบัน, คนทำงาน และนักท่องเที่ยว มารวมไว้ที่เดียว พร้อมจัดแคมเปญใหญ่ 26 - 31 ธ.ค. จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองยาวตลอด 6 วัน รับกำลังซื้อส่งท้ายปี
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ เอมบีเคยังต้องการเสริมพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มให้มีความแข็งแกร่งและหลากหลาย โดยการเติมเต็มโครงการศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ที่เจาะกลุ่มครอบครัว ด้วยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม นั้นก็เป็นทิศทางที่ดี โดย MBK กำลังจะใช้โมเดล “ร่วมทุน” เป็นพันธมิตรเข้าไปถือหุ้นใน “ร้านอาหารดังในต่างจังหวัด” ที่มีชื่อเสียงอยู่เเล้ว โดยเบื้องต้นมีการศึกษาและเริ่มเจรจากับ 4-5 ร้านเเล้ว เช่น ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่เเละชานเมืองกรุงเทพ มีทั้งเมนูประเภทสเต็ก อาหารจีน ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ คาดว่าในปีหน้า อาจจะเจรจาสำเร็จและเปิดตัวได้อย่างน้อยไตรมาสละ 1 ร้าน หรือทั้งปีอาจะจะดีลได้สำเร็จทั้ง 4 ร้าน เน้นเป็นร้านอาหารขนาดเล็กทั่วไป มาสร้างให้เติบโตไปด้วยกัน ทางห้างฯ ได้ Know-How จากผู้ประกอบการ ขณะที่ผู้ประกอบการก็ได้เงินทุน ได้ขยายสาขา
ทั้งนี้ จากการปรับปรุงใหม่ครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถดึงทราฟฟิกปริมาณคนเข้าศูนย์การค้า ในปีหน้าได้ประมาณ 90,000 คนต่อวัน เเบ่งเป็นคนไทย 60% เเละต่างชาติเหลือแค่ 40% จากเดิมปีนี้ที่มีประมาณ 80,000 คนต่อวัน ทั้งนี้ ช่วงก่อนโรคระบาดทราฟฟิกลูกค้าที่มาเดินมา MBK อยู่ที่ 80,000 คนต่อวัน (เคยไปถึง 120,000 คนต่อวัน) เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 60% เเละคนไทย 40%