Toggle navigation
วันเสาร์ ที่ 21 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
สุเทพผนึกแนวร่วมจำลองก่อม็อบต้านนิรโทษกรรม
สุเทพผนึกแนวร่วมจำลองก่อม็อบต้านนิรโทษกรรม
วันเสาร์ที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Tweet
วิเคราะห์การเมือง : by นพคุณ ศิลาเณร
สถานการณ์การเมืองนับแต่ปลายเดือนตุลาคมต่อเนื่องไปเดือนพฤศจิกายน แล้วลากยาวไปถึงสิ้น ปี 2556 มีแนวโน้มอยู่ในสภาพ "ยุ่งเหยิง" จนไม่รู้ว่าฝ่ายไหนเป็นใคร และมีเป้าหมายเช่นไร
สภาพแบบนี้บ่งบอกถึงภาวะ "ความสับสนอลหม่าน" หรือในทางทฤษฎีการ เมืองเรียกว่า "สภาวะเคออส" คือเกิดความอลวนไปทั่วหย่อมหญ้า แล้วนำพาไปสู่สังคม "กลียุค" ได้ง่ายๆ
ความยุ่งเหยิงนั้น เริ่มก่อตัวขึ้นของกลุ่มหลากหลายไม่พอใจรัฐบาลภายใต้การ นำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยกลุ่มเหล่านั้นเริ่มผนึก "กำลังมวลชนจองกฐิน" เล่นงานรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยให้จมธรณีการเมือง
นั่นเป็นแก่นการประเมินสถานการณ์ การเมืองของกลุ่มใหม่ที่ร่วมประชุมที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เมื่อ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา
การประชุมครั้งนั้น ล้วนเป็นกลุ่มคน หน้าเดิมๆ ทั้งสิ้น มีแกนนำหลักจากกลุ่มสยามประชาวิวัฒน์ภายใต้การนำของ ดร. บรรเจิด สิงคะเนติ มีนายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มกรีนและสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย นายสุริยัน ทองหนูเอียด จาก แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีกลุ่มนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย รวมถึงองค์กรพัฒนาเอกชนหรือเอ็นจีโอในเมือง เข้าร่วมหารือถึงสถานการณ์การเมืองในอนาคตอันใกล้นี้
ผลสรุปการหารือในที่ประชุมอยู่ที่มีความเห็นร่วมราวกับเป็น "มติ" ให้ตั้งองค์กรใหม่ออกมาเคลื่อนไหว โดยการนำอยู่ภายใต้ "คณะกรรมการแกนนำร่วม" ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวฉากแรกวันที่ 27 ตุลาคมนี้
สิ่งน่าสนใจอย่างหนึ่งคือ หนึ่งในแกน นำร่วม มีชื่อ "พล.ต.จำลอง ศรีเมือง" นักเคลื่อนไหวประชาชนที่ชูป้าย "สันติอหิงสา" ร่วมองค์กรอยู่ด้วย
เมื่อ "จำลอง" ออกมาเคลื่อนไหว สภาพ ความยุ่งเหยิงในอนาคตจึงน่าสนใจอย่างยิ่ง
+ ต้านกฎหมายนิรโทษกรรม
การประเมินสถานการณ์ในที่ประชุม นิด้าให้ความสำคัญกับเป้าหมายการต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมมากกว่าใส่ใจความปั่นป่วนที่จะเกิดจากกรณีศาลโลกนัด "ตีความ" คดีเขาพระวิหารที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้
น้ำหนักและเหตุผลที่หยิบการต้านกฎหมายนิรโทษกรรมมาเคลื่อนไหวนั้น เกิดจากการประเมินว่า กฎหมายนี้จะนำไป สู่ความแตกแยกครั้งใหญ่ในสังคม และจะทำให้กลุ่มคนชั้นกลางในเมืองตื่นตัวจนออก มาร่วมขบวนด้วย
นี่คือ สภาพความสับสนอลหม่านด้านหนึ่ง...
แต่ความยุ่งเหยิงอีกส่วนหนึ่งอยู่ที่ความเห็นที่ว่า มวลชนเสื้อแดงจะเกิดความ แตกแยกกับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เพราะกฎหมายนี้ทำให้เกิดการนิรโทษแบบ "ยกเข่ง" หมายความว่า ทั้งแกนนำเสื้อแดง พันธมิตรฯ รวมไปถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ประโยชน์จากกฎหมายนี้ด้วยแบบนี้มวลชนเสื้อแดงรับไม่ได้
แต่ตรงกันข้ามกลับดีใจ ตีอกชกลมออกนอกหน้าเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ประโยชน์ด้วย
ดังนั้น ลักษณะ "นิรโทษยกเข่ง" ในมุมมองของคนเสื้อแดงแล้ว คงเป็นเข่งเฉพาะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ประโยชน์ และต้องไม่ใช่เข่งที่ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" รอดจากคดีอาชญากรรมในเหตุการณ์ล้อมปราบประชาชนเมื่อเมษายน-พฤษภาคม 2553
นิรโทษแบบนี้คนเสื้อแดงรับไม่ได้ จะสนับสนุนการยกเข่งก็ทำใจลำบากและที่สำคัญคือ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ก็ไม่เอารูปแบบยกเข่งด้วย
รวมทั้ง "จำลอง และสนธิ ลิ้มทองกุล" ตลอดจนแกนนำพันธมิตรฯ ก็ไม่เอานิรโทษยกเข่ง
แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อย่าง "จตุพร พรหมพันธุ์" "ณัฐวุฒิ สัยเกื้อ" ก็ไม่เอายกเข่งหากเป็นเข่งที่ปลดปล่อยให้ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" รอดจากคดีอาญา
นี่เป็นความยุ่งเหยิง ที่เกิดขึ้นท่าม กลางอาการเปล่งแปลกของการนิรโทษยก เข่งที่ไม่มีใครต้องการ
แต่พรรคเพื่อไทยที่ไม่มีส่วนได้เสียกับการนิรโทษกรรมกลับต้องการให้เกิดขึ้นแบบ "ยกเข่ง" นั่นคืออาการแปลกๆ ผสมกับสภาพอลวนได้อย่างน่าทึ่ง
อาการแปลกๆ และความยุ่งเหยิงเช่นนั้น จึงทำให้องค์กรใหม่ให้ความสำคัญ จนจับมาเป็น "แก่นกลาง" การเคลื่อนไหวเพื่อเป็นเงื่อนไขนำไปสู่เป้าหมายกดดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจ "ยุบสภา"
+ ลดทอนรหัสโค่นระบอบทักษิณ
การต่อต้านรัฐบาลครั้งใหม่ด้วยองค์กรใหม่ จึงเกิดรหัสหรือคำขวัญใหม่ที่ชูขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางรวมพลังต้องเปลี่ยน ให้สอดรับเงื่อนไขและเป้าหมายการต่อสู้
รหัสการต่อสู้ใหม่นี้ขมวดรวมอยู่ในเงื่อนไข "ล้มกฎหมายนิรโทษกรรม" ดังนั้นรหัสที่เรียกกันติดปากว่า "โค่นระบอบทักษิณ" จึงถูกยกเลิกไป
สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะไม่ต้องการให้มวลชนเสื้อแดงเกิดความรู้สึกว่า องค์กรใหม่เกิดมาเพื่อต่อต้าน "ทักษิณ" ในลักษณะ "ปัจเจก"
อีกสาเหตุเป็นเพราะต้องการให้เงื่อนไขใหม่นั้น เป็นแก่นกลางของปัญหาบ้านเมือง ต่อสู้เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความแตก แยก ดังนั้นสิ่งที่จะได้พลังตามมาจึงมีลักษณะเปิดกว้าง และเปิดทางให้ชนชั้นกลางออกมาเคลื่อนขบวนครั้งใหญ่ นำไปสู่เป้าหมาย มีลักษณะทางสังคมมากขึ้น
นั่นแปลความในทางยุทธวิธีได้ว่า องค์กรเก่าในชื่อ คณะเสนาธิการร่วมของนายทหารแก่ๆ ปักหลักชุมนุมที่สวนลุมพีนี จะไม่มีความหมายในการต่อสู้
และกลุ่มนักศึกษาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศ ที่ตรึงกำลังชุมนุมบริเวณแยกอุรุพงษ์ จึงกลายเป็นกองกำลังแบบแนวร่วมส่วนหนึ่งขององค์กรใหม่ทันที
แล้วการนำต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งใหม่ย่อมอยู่ภายใต้การนำขององค์กรแกนนำที่มียุทธวิธีในการต่อสู้แบบมืออาชีพผู้ช่ำชอง เพื่อให้พลังมวลชนเข้ามาร่วมหลากหลายขึ้น
องค์กรใหม่ แบ่งมวลชนออกเป็น 2 ลักษณะ คือ มวลชนทางการเมืองกับมวล ชนที่เต็มไปด้วยปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะมวลชนทางการเมืองนั้นให้ความสำคัญกับการสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์ที่จะนำมาสมทบ
มีการประเมินกันว่า พรรคประชาธิปัตย์ในกลุ่มของนายสุเทพจะมีพลังเป็น "กองหนุน" ได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ
แน่นอน เมื่อพลังกองหนุนจากปีกนายสุเทพมาผสมส่วนกับมวลชนเคลื่อนไหวต้านเศรษฐกิจ ทั้งการเรียกร้องราคายางพารา การต่อต้านจำนำข้าวจากฝ่ายนักวิชาการและชนชั้นกลาง รวมถึงกลุ่มต่อต้านเขื่อนแม่วงก์ จะร่วมก่อหวอดเคลื่อนขบวนอย่างไร้ทิศทาง และเกิดพลังกดดันรัฐบาลได้เต็มประสิทธิภาพ
นั่นเป็นสภาพยุ่งเหยิง อลวนแบบสภาวะเคออสจะเกิดขึ้นในสังคม จนจับต้นชนปลายทิศทางไม่ถูก และรัฐบาลแก้ปัญหาได้อย่างยากยิ่ง
กลุ่มองค์กรใหม่ประเมินว่า ทางออกของรัฐบาลมีอย่างเดียวคือ ยุบสภา แต่ที่สำคัญคือ ยังไม่จบง่ายๆ
ไม่จบเพราะจะเกิดสถานการณ์ใหม่ขึ้นอีก เป็นการก่อหวอดต่อต้านการเลือกตั้งใหม่ตามมาเป็นขบวนอีก
รวมความแล้ว ช่างเป็นความยุ่งเหยิง แบบบังเอิญที่ผ่านการเตรียมการในทางยุทธศาสตร์ที่ออกแบบให้เป็นการต่อสู้ครั้งใหม่อย่างยิ่ง
พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ คงได้กลิ่นการก่อต้านครั้งใหม่นี้ เขาจึงส่งสัญญาณถึงรัฐบาลให้เตรียมการรับมือกับการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในการหยิบปัญหาการต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมมาเป็นอันดับต้นๆ
แน่ละกลิ่นม็อบที่เต็มไปด้วย "ความสับสนอลหม่าน" นั้น หากรัฐบาลนิ่งเฉยย่อมไม่เกิดความโชคดีมาเป็นรางวัลปลอบ ใจได้ง่ายๆ
เพราะด้านหนึ่งการเคลื่อนกำลังแบบลับๆ จากฝ่าย "กองทัพปลดแอก" ที่เคยอยู่ภายใต้การนำของ "ปรีชา" เจ้าของธุรกิจลูกชิ้นใหญ่ภาคอีสาน
แต่บัดนี้มาอยู่ภายใต้การนำของ นายทหารยศ "พลตรี" ระดับชนชั้นสูงเข้ามาสวมทัพบัญชาการแทน เป็นการบัญชา การที่มีเป้าหมายนำกำลังกองทัพปลดแอก จำนวน 3 กองพัน ประมาณ 1,000 คน ทยอยเข้ากรุงเทพฯ แบบลับๆ คราวละ 300 กว่าคน
กำลังส่วนนี้มีเป้าหมายเคลื่อนขบวน มาให้กำลังใจ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ในการวินิจฉัยคดีทางการเมือง โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างกฎหมาย 2 ล้านล้านบาท และรวมไปถึงการพิจารณากรณีโครงการจำนำข่าว
การเคลื่อนไหวเช่นนี้ ล้วนซ้อนนัยยะทางการเมืองในระดับดุลอำนาจชนชั้นสูงไว้อย่างน่าสนใจยิ่ง
นี่คือความยุ่งเหยิง ผสมความสับสนอลหม่านที่ก่อเค้าขึ้นในอนาคตอันใกล้
+ ยุ่งเหยิงแน่ๆ
ในอนาคตเสถียรภาพรัฐบาลจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่ที่แน่ๆ คือ มีความยุ่งเหยิง ในสภาวะเคออสให้จัดการแก้ไขปัญหาทางสิ้น
เป็นความยุ่งเหยิงในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ และแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการผนึกกำลังแนวร่วมระหว่าง "จำลอง" นำขบวนต่อต้านในชื่อองค์กรใหม่ แล้วมี "สุเทพ" นำมวลชนมาทำแนวร่วมใน ลักษณะ "กองหนุน" สร้างพลังกดดันรัฐบาล
รับรู้แบบผ่านๆ อาจหัวเราะราวกับคนบ้า แต่ยุทธศาสตร์องค์กรใหม่ได้ออกแบบไว้อย่างนั้น เป็นการสร้างพลังใหม่ที่ไม่มีเป้าหมายให้ "กลุ่มทหาร" ทั้งในนิยามสถาบันหรือนอกสถาบันมาร่วมสนับสนุนด้วยเลย
พลังกดดันครั้งใหม่เป็นพลังจากประชาชนทั้งด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ และม็อบด้านสิ่งแวดล้อม จะไหล่มาร่วมกันอย่างอลวนไปหมด นั่นคืออาการไร้ทิศทางจับต้นชนปลายไม่ถูก จึงยากต่อการแก้ปัญหาและลดทอนแรงกดดันที่พุ่งมาสู่รัฐบาลได้
การออกแบบกดดันแบบยุ่งเหยิงในรูปแบบสภาวะเคออสเช่นนี้ มีเป้าหมายชัดเจนให้เกิดการ "ยุบสภา" และเมินเฉยต่อรหัสโค่นระบอบทักษิณ ซึ่งเงื่อนไขใหม่นั้นมองว่า เป็นเรื่องของเด็กๆ ให้พวกทหารแก่เล่นกันไปสนุกๆ แก้เซ็งไปวันๆ เท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ