ไม่จบไม่สิ้นสำหรับจุดอ่อน ของกฎหมายขายตรงที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน นับตั้งแต่คอลัมน์ "แก้กฎหมาย ส่งเสริมขายตรงไทย" เปิดขึ้นมาเพื่อรับทราบความคิดเห็น ในเรื่องของกฎหมาย ทั้งจากผู้ประกอบการ และนักธุรกิจอิสระ แล้วฉายออกมาให้ท่านผู้อ่านได้เห็น ส่วนใหญ่ชี้ไปในทำนองเดียวกันว่า ปัจจุบันกฎหมายขายตรงที่ใช้อยู่ คือ พ.ร.บ.ธุรกิจขายตรง และตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 เก่าเกินไปที่จะ นำขึ้นมาเป็นตัวควบคุม หรือยกระดับธุรกิจ
โดย อ.ธนพล พรหมมานพ ประธานกรรมการ บริษัท เนเจอร์ เน็ทเวิร์ค จำกัด เปิดเผยกับ "สยามธุรกิจ" ในประเด็นที่เกี่ยวกับกฎหมายขายตรง ว่า ตอนนี้มีบริษัทขายตรงในประเทศไทย เกิดขึ้นมากมาย และเท่าที่ติดตามข่าวสาร ทุกบริษัทได้เรียกร้องให้ มีการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 มาตั้งนานแล้ว แต่ก็ได้แต่เรียกร้อง ยังไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงเกิด ขึ้น ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาแก้ไขกฎหมายฉบับนี้สักที
"ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมไม่มีการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ เพราะเวลานี้โลกเราได้พัฒนาไปมาก มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย กฎหมายขายตรงก็ล้าสมัยมาตั้ง 11 ปี ไม่ค่อยจะเข้ายุค เข้าสมัยสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่มีการเหลียวแลถึงจะมีหน่วยงาน สคบ. มากำกับดูแลก็จริง แต่การมีพนักงานแค่ 6 คน จะให้สอดส่องดูแล ให้ทั่วถึงทุกบริษัทขายตรง คงเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้มีบริษัทขายตรงประมาณ 800 กว่าบริษัท และที่ สคบ.รับรองให้มี 350 กว่าบริษัท ถือว่าเยอะมาก ผมว่าหน่วยงานรัฐแค่นี้คงไม่พอ"
"และปัญหาที่หลายบริษัทพบเจอคือ แม่ทีมที่ไม่จริงใจ และชอบไปสมัครทิ้งไว้หลายๆ บริษัท พอเห็นบริษัทจะก้าวขึ้นไปใน ตำแหน่งสูงสุดได้ ก็มีการดึงลูกทีมจากบริษัทนั้นๆ ไป ผมว่าทำให้บริษัทเสียหายมาก อีกทั้งภาพลักษณ์ขายตรงก็เลยดูเสื่อมไปด้วย ทำให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากธุรกิจขายตรงถึงกับเกลียดธุรกิจนี้ ไปเลย"
ประธานกรรมการ "เนเจอร์ เน็ทเวิร์ค" ได้กล่าวต่อว่า ปัจจุบันธุรกิจขายตรงมีมูลค่านับแสนล้านบาท และช่วยให้คนที่จบการศึกษาใหม่ได้มีงานทำ เนื่องจากจะให้ทุกคนจบปริญญาตรีแล้ว ได้งานทำทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็จะมาทำธุรกิจขายตรงก็มีจำนวนมาก และบางคนก็ประสบความสำเร็จสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างสุขสบาย การที่จะมีกฎหมายที่ปรับให้ทันสมัยกับ ยุคปัจจุบัน จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นแน่นอน
"มีหลายธุรกิจที่มีกฎหมายบังคับอย่างชัดเจน จนทำให้ดำเนิน ธุรกิจได้อย่างสะดวกและปลอดภัย แต่ธุรกิจขายตรงหากยังไม่มีการ เปลี่ยนแปลงในเร็ววันนี้ คนที่เคยผิดหวังกับธุรกิจขายตรง หรือถูกหลอกมาก่อนก็จะติดแต่ภาพลักษณ์ที่ไม่ดี จนไม่อยากเข้าใกล้ และถึงขั้นบอกต่อไปยังลูกๆ หลานๆ ไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับธุรกิจนี้เด็ดขาด เพราะจะมองว่าเป็นการหลอกลวง ไม่มั่นคง ทำไปก็ไม่มีวันรวย ทั้งที่ จริงๆ ธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่สวยงามมาก" อ.ธนพล กล่าว