วงการขายตรงทำไมดูเงียบๆ
นี่เป็นคำถามหนึ่งที่ผู้เขียน ได้ยินอย่างหนาหูในช่วงนี้ สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนอยากจะบอกกลับไปก็คงไม่ต่างจากสิ่งที่ถูกถาม เพราะผู้เขียนก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากผู้ที่ถามนัก
ซึ่งหากจะว่าไป เหตุผลของความเงียบ ผู้เขียนก็ไม่ทราบ แน่ชัด ด้วยความที่ความเงียบไม่คึกคักที่ว่า เกิดขึ้นกินพื้นที่ไป ทั้งวงการขายตรง ซึ่งไม่ใช่เพียงตัวบริษัทใดบริษัทหนึ่ง
ปัจจัยความซบเซาที่เกิดขึ้น จากการคิดวิเคราะห์ ด้วยประสบการณ์ คงเป็นเรื่องเดิมๆ ที่เกิดขึ้น จนกลายเป็นเรื่องชินชา นำไปสู่การหันหลังให้กับวงการขายตรง
แต่ก่อนจะเข้าไปถึงเหตุผลของความซบเซานี้ อยากจะให้ เห็นถึงความไม่คึกคักที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ที่ยืนยันว่าไม่ได้คิดไปเอง
หลายปีก่อนติดต่อกัน จนราวๆ กลางปีที่ผ่านมา ผู้เขียนในฐานะคนข่าวในวงการขายตรงคนหนึ่ง ผู้ทำงานด้านการสื่อสาร ตีคู่กับการทำธุรกิจของผู้ประกอบการโดยตลอด
แต่ละปี แต่ละเดือน หรือกระทั่งแต่ละสัปดาห์ จะมีงานแถลงข่าวมากมาย หลากหลายบริษัท สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียน ฉายตัวเพื่อหวังเป็นข่าวแทบไม่ขาดช่วง
แต่มาช่วงระยะเวลา 1 ปี เห็นจะได้ ที่งานแถลงข่าวเริ่ม ลดลง ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของบริษัทขายตรง หรือคนในวงการขายตรง จะเป็นไปในแบบนานๆ มาที ไม่ถี่อย่างแต่ก่อน
ยิ่งเมื่อดูจากยอดขายของหลายบริษัทในปีที่ผ่านมา จะอ้างว่าเพราะพิษน้ำท่วมที่ต้องใช้เวลาในการฟูมฟักก็ไม่ผิด แต่ สำหรับผู้เขียน สิ่งที่เกิดก็เกินที่จะเรียกว่าธรรมดา
วงการขายตรงเหมือนกำลังจะตัน หรือ?
ไม่ นี่คือคำตอบ เพราะถึงแม้วงการขายตรงช่วงนี้จะดูเรียบๆ ซึมๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าธุรกิจขายตรงจะตัน หรืออิ่มตัวแต่อย่างใด
สำหรับผู้เขียน สิ่งที่จะทำให้วงการขายตรงตัน หรืออิ่มตัว ได้ เห็นจะเป็นเรื่องเดียวคือ คนไทยทั้งประเทศต้องเข้ามามีส่วน กับวงการขายตรงแล้ว และนั่นจะทำให้วงการขายตรงขายใครไม่ได้อีกต่อไป
แต่สิ่งที่ทำให้ขายตรงดูเหงาๆ ในช่วงนี้ เป็นเพราะมุกที่บริษัทขายตรงเคยใช้เรียกลูกค้าสร้างเครือข่ายสมาชิก เห็นทีจะหมดเขี้ยวเล็บ มุกเดิมๆ เริ่มแป้ก
ผู้คนเริ่มเอียนกับวิมานที่นักขายของแต่ละบริษัทวาดให้เห็นในยามต้องการดึงคนมาร่วมเครือข่าย ที่สุดท้ายกลายเป็น ความคาดหวังที่ไม่มาเสียที ไม่เหมือนตอนที่ถูกโม้ให้ฟัง ว่าจะ ร่ำจะรวย ด้วยเวลาอันสั้น
สิ่งนี้กลายเป็นการดื้อยาของผู้คน เลิกเชื่อถือน้ำคำที่ไม่เห็นจะจริง
ประชาชนที่เคยเลือกขายตรงเป็นทางออกในการสร้างรายได้ มองธุรกิจนี้เปลี่ยนไป
กลายเป็นว่า ผู้ประสบความสำเร็จ หรือแม่ทีม มีแต่หน้า เก่าๆ หมุนเวียน อยู่บริษัทนี้ปี อยู่บริษัทนู้นปี เวียน ว่าย ตาย เกิดอยู่แค่นั้น แม่ทีมหน้าใหม่ๆ นักขายมือทองรุ่นใหม่เกิดยากขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นฉุดเอาทั้งองคาพยพให้หยุดชะงัก ไม่โตอย่าง ที่หวัง หรืออยากให้เป็นไปตามเป้า ก็ต้องลดฝันให้ต่ำลง
สิ่งที่เกิดไม่ได้แปลว่าขายตรงกำลังตัน หรืออิ่มตัว แต่คน เริ่มเบื่อ และชินชากับวิธีการเดิมๆ ของวงการขายตรง
เรื่องที่เกิดแก้ไม่ยาก เพียงหาวิธีการใหม่ๆ มุกใหม่ๆ ขึ้น มาฉาย ดึงความแปลกใหม่ขึ้นมาเรียกลูกค้า เชื่อเถอะขายตรง ยังโตได้อีกมาก
แต่ทว่า วิธีการใหม่ๆ นี่สิ เป็นเรื่องที่ยากจะคิด หรือทำมันออกมา...