"ทีวี ไดเร็ค" จัดหนัก เดินล่าชื่อพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ร่วมระดมทุนครั้งใหญ่กว่า 500 ล้านบาท หวังใช้รองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ตั้งเป้าระยะยาว อีก 5 ปี ยอดขายแตะ 5.5 พันล้านบาท พร้อมประกาศ ไม่หวั่นคู่แข่งโฮมช็อปปิ้งทะลักตลาด บริษัทอื่นจ้องเก้าอี้แชมป์ มั่นใจศักยภาพตัวเอง ชี้ยิ่งคู่แข่ง เยอะยิ่งดี ด้านตลาดอาเซียน มองกัมพูชา, เวียดนาม และมาเลเซีย เตรียมปักหมุด ตั้งฐาน ยอมรับเรื่องภาษีประเทศเพื่อนบ้าน ปัญหาใหญ่การขยายสาขา
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ได้เปิดเผยกับ "สยามธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันบริษัทมีการขยายตัวหลายเท่า จนเวลานี้ มีฐานลูกค้ากว่า 2 ล้านราย ส่วนแผนการตลาดของบริษัทแบ่งออกเป็น 5 รูปแบบ คือ การตลาดทางทีวี, การตลาดแบบตรง, การตลาดทั่วไป, การบริการ อาทิ การให้บริการรับจ้างผลิตสื่อโฆษณาและจัดหาเวลาโฆษณาให้แก่ลูกค้า และธุรกิจขายตรง
"ผลประกอบธุรกิจเมื่อปี 55 ที่ผ่านมา มีการเติบโตถึง 17% ซึ่งปิดยอดขายที่ 2,249 ล้านบาท และหากย้อนไปในปี 54 โตเพียง 14% เท่านั้น ทำให้ในปี 56 ได้วางเป้าหมายต้องโตเพิ่มขึ้นอีก 20% เป็นอย่างน้อย และได้วางแผนระยะยาวภายใน 5 ปี หรือในปี 2560 บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายจะต้องสูงถึง 5,500 ล้าน บาท ซึ่งตอนนี้ได้มีแผนเตรียมระดมทุนครั้งที่ 2 เพราะการระดม ทุนครั้งแรกได้เข้าตลาดมหาชนไปแล้วที่ 15% แต่ครั้งนี้จะขอระดมทุนมากกว่าเดิม ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% โดยเรามีแผนที่จะ ขยายตลาดด้วยการร่วมมือกับร้านค้าปลีกต่างๆ ทั่วประเทศ เพราะธุรกิจของเราจะเป็นลักษณะเชื่อมต่อออนไลน์ได้หลาย รูปแบบ"
อย่างไรก็ตาม ผู้นำในการดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย (Multichan-nel Marketing) ได้เปิดเผยต่อว่า ปัจจุบัน ธุรกิจโฮมช็อปปิ้งมีทิศทางการขยายตัวที่สูงมาก บริษัทจึงจำเป็นต้องระดมเงินทุนให้เพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจ จึงได้เจรจากับพันธมิตรที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศหลายราย เพื่อเพิ่มช่องทาง การจำหน่ายและเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังได้แลกเปลี่ยนโนว์ฮาวระหว่างกัน ที่จะทำให้บริษัทได้เปรียบในการแข่งขันในอนาคต
ล่าสุด ที่ประชุมมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 376 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 188 ล้านบาท เป็น 493.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 246.75 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 117.5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตรา ไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในจำนวนนี้จะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 94 ล้านหุ้น ในสัดส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 4.50 บาท
"จากหุ้นสามัญที่เสนอขายให้ผู้ถือหุ้น เดิม 94 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 4.50 บาท หากจำหน่ายได้ทั้งหมด บริษัทจะได้รับเงิน 423 ล้านบาท และยังได้รับเงินจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์ในอนาคตอีก โดยหากใช้สิทธิ์ทั้งหมด ก็จะได้เงินอีก 82.25 ล้านบาท เท่ากับว่าบริษัทจะได้เงินจากการ เพิ่มทุนครั้งนี้รวม 505.25 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำไปลงทุนขยายกิจการได้อีกมาก และเมื่อมีการพูดคุยกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ก็ต่างเห็นด้วยที่จะใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพราะมั่นใจว่าจะทำให้บริษัทเติบโต ได้อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง"
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี่ จำกัด เจ้าของธุรกิจโฮมช็อปปิ้ง 1577 ได้ออกมาประกาศ จะล้มแบรนด์ยักษ์ใหญ่ "ทีวี ไดเร็ค" ภายใน 2 ปี เพื่อก้าวสู่ความเป็นเบอร์หนึ่ง ในโลกธุรกิจโฮมช็อปปิ้ง เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ทรงพล" ประธานใหญ่ "ทีวี ไดเร็ค" ได้ให้ความเห็นว่า "ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีคู่แข่งอยากจะล้มยอดขายของเรา ถือเป็นความสวยงามในด้านธุรกิจ เพราะจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติให้เติบโตกว่านี้ และที่สำคัญบริษัทเราจึงต้องมีแผน เตรียมที่จะขยายตลาดให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อจะทำให้คู่แข่งที่จะล้มเราตามหลังไม่ทัน เพราะเราจะไม่หยุดนิ่งที่จะมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ"
"ตอนนี้บริษัทของเราตั้งกระจายอยู่ตามห้างสรรพสินค้าประมาณ 35 สาขา และมีตั้งพื้นที่แบบ "สแตนด์อโลน" เพื่อไว้ ติดต่อจากลูกค้า และส่งสินค้าออนไลน์ ซึ่ง ตอนนี้ได้ขยายออกไปกว่า 47 จังหวัดครอบคลุมทั่วประเทศมีกว่า 70 สาขา ไว้ คอยให้ลูกค้าได้ติดต่อสั่งซื้อสินค้าแบบออนไลน์ รับรองว่าจะรวดเร็วง่ายแน่นอน"
นอกจากนี้ หัวเรือใหญ่ "ทีวี ไดเร็ค" ยังได้กล่าวถึงแผนรับมือเออีซี ในปี 2558 ว่า "เราได้เริ่มวางแผนรับมือไว้แล้ว และ ได้เข้าไปตีตลาดที่กัมพูชา, เวียดนาม และ มาเลเซีย ซึ่ง 3 ประเทศนี้เราได้ส่งสินค้าไปขายให้กับลูกค้าที่นั่นเป็นจำนวนมาก และได้เตรียมที่จะเปิดเป็นเซ็นเตอร์ในเร็วๆ นี้ แต่ยังติดเรื่องภาษีที่หนักเกินไป ไม่เหมือนกับยุโรปที่จะดำเนินธุรกิจง่ายกว่า ก็คงต้องใช้เวลาจัดการเรื่องนี้ให้ลงตัวก่อน จึงจะค่อยๆ ขยายไปให้ทั่วอาเซียน"