การทำงานร่วมกันของสมาชิกในองค์กรต่างๆ ต้องให้ความสำคัญกับการ รักษาดูแลสมาชิกที่มีคุณภาพให้อยู่กับองค์กรยาวนานที่สุด หรือการสร้างความ จงรักภักดีของสมาชิกในองค์กร ด้วยวิธีการจูงใจและการร่วมกันบริหารทีมงาน ซึ่งในการบริหารองค์กรธุรกิจจะต้องมีบุคคลที่มีอิทธิพลเหนือบุคคลอื่นในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ต้องการ หรือเรียกว่า "ผู้บริหารหรือผู้นำ" ขององค์กร ซึ่งผู้บริหารเหล่านั้นจำเป็นจะต้องแสดงศักยภาพความเป็นผู้นำของตนเองและใช้เทคนิคต่างๆ ในการจูงใจการปฏิบัติงานร่วมกันให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายขององค์กรและเป้าหมายส่วนบุคคล
โดยองค์กรต้องมีผู้นำที่มีความพยายามในการปฏิบัติงานนำพาองค์กรให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ต้องเกี่ยวข้องกับการวางแผน การ จัดองค์กร การจูงใจ การประสานงานหรือการสื่อสาร และการประเมินผลงาน ตลอดจนการรักษาบุคลากรในสายงานให้ทำงานร่วมกันและเกิดความพึงพอใจ ในการทำงาน นอกจากนี้ ผู้นำจะต้องมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบโดย ตรงต่อการวางแผนบริหารควบคุมดูแลให้องค์กรประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งต้องเป็นบุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
1.ต้องเป็นผู้นำ นำได้ นำเป็น กล้าที่จะมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เป็นทั้งนักคิดและนักสร้างสรรค์และต้องพึงระลึกเสมอว่าผู้นำไม่ใช่เป็น เพียงผู้สั่งการแต่จะต้องเป็นผู้ปฏิบัติเป็น ปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี มีความ กล้าหาญ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ แล้วกล้าเป็นผู้นำในการปฏิบัติไปสู่จุดหมาย ปลายทางที่วางไว้ นอกจากนี้ ต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจที่เข้มแข็งมีจิตวิญญาณของ นักบริหารเต็มร้อยมีพลังความคิดในการขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมีจุด มุ่งหมายที่ชัดเจน
2.ต้องรู้จักกระตุ้นและจูงใจ สามารถจูงใจให้บุคคลอื่นคล้อยตามและกระตุ้นการทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการ มีพลังในการกระตุ้นตนเอง และคนรอบข้างให้ดำเนินตามแนวทางหรืออุดมการณ์ที่ตั้งไว้ให้สำเร็จภายใต้ สภาพแวดล้อมต่างๆ ซึ่งการกระตุ้นและจูงใจบุคคลอื่นอาจกระทำได้โดยการ ส่งเสริมด้วยวิธีการให้รางวัลหรือการเสริมสร้างกำลังใจ ดังนั้น ผู้นำนักขายจะ ต้องศึกษา เรียนรู้และสร้างสมประสบการณ์ทางด้านการดำเนินงานและการบริหารทีมงานเพื่อเข้าใจถึงพฤติกรรมและสามารถใช้เทคนิคการกระตุ้นและ จูงใจทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
3.ต้องสร้างคน สร้างทีมงาน การสร้างทีมงานเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการบริหารองค์กรสู่ความสำเร็จ และเมื่อมีสมาชิกขององค์กรอยู่ร่วมกันเยอะๆ ก็จะต้องมีการบริหารทีมงานหรือการบริหารคนอย่างมีระบบ ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่การกำหนดคุณสมบัติของบุคคล แล้วเข้าสู่กระบวนการสรรหา คัดเลือก สร้างคน บริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ กำหนดบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน เพิ่มพูนและพัฒนาทักษะแต่ละบุคคลอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง เพื่อนำไป สู่การพัฒนาองค์กรที่เข้มแข็ง และต้องพึงระลึกเสมอว่า "องค์กรจะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องอาศัยทีมงานที่มีประสิทธิภาพ และไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องอาศัยบุคคลอื่น"
4.ต้องเข้าใจและใส่ใจ ผู้นำจะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจถึงความรู้สึกของบุคคลอื่น โดยผู้นำที่ดีจะต้องไม่คิดและตัดสินใจอะไรซึ่งเกี่ยวข้องกับ บุคคลอื่นด้วยอารมณ์และความรู้สึกส่วนตัว จะต้องตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่ ถูกต้องอย่างมีเหตุผล ให้ความสำคัญและใส่ใจในความรู้สึกนึกคิดของบุคคลอื่น โดยผู้นำต้องใส่ใจต่อทีมงานซึ่งไม่ใช่การแสดงออกถึงความสงสารหรือเห็นใจ แต่จะต้องการแสดงออกถึงความจริงใจ ใส่ใจในทุกความรู้สึกของทีมงาน ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน เปรียบเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
5.ต้องสื่อสารได้ สื่อสารเป็น คุณสมบัติที่สำคัญของผู้นำซึ่งขาดไม่ได้ก็คือ ผู้นำที่ดีจะต้องเป็นผู้พูดและผู้ฟังที่ดีด้วย นั่นหมายถึงจะต้องพูดเป็น พูดอย่างกระชับชัดเจน ตรงประเด็น สามารถใช้คำพูดได้อย่างเหมาะสม สื่อสาร กับผู้ฟังให้เข้าใจตรงกัน นอกจากนี้ ก็จะต้องเป็นผู้ฟังที่ดี ฟังอย่างมีสติ สามารถจับประเด็นสำคัญได้ และนำไปขยายความต่อได้อย่างถูกต้องและเข้าใจง่าย
นอกจากนี้ ผู้นำในองค์กรต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สามารถเปลี่ยนแปลงความเชื่อ ทัศนคติ ค่านิยม ตลอดจนความต้องการของสมาชิกได้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงขององค์กร และเกิดความกระตือรือร้นในการปฏิบัติหน้าที่ของ ตนร่วมกับบุคคลอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับลักษณะงานที่เปลี่ยนแปลงไป จนสามารถปฏิบัติงานได้บรรลุตามเป้าหมายขององค์กร
ผู้นำเป็นผู้ควบคุมและขับเคลื่อนการเดินทางไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จและไม่มีผู้นำคนใดที่สามารถประสบความสำเร็จได้โดยไม่ต้องอาศัยทีมงานที่มีศักยภาพ เพราะความสำเร็จของผู้นำก็คือความสำเร็จของสมาชิก ความสำเร็จของสมาชิกก็คือความสำเร็จของผู้นำ