แบรนด์ขายตรงข้ามชาติหลายแบรนด์ ดูจะเป็นต่อในเรื่องของความเป็นสากลในสายตาของคนไทย แต่ไม่ว่าอย่างไร ธรรมชาติของคนไทย ย่อมเข้าใจดีสำหรับบริษัทขายตรงไทย ทำให้แบรนด์ต่างชาติต้องงัดกลยุทธ์ที่หวังจะเป็นทีเด็ดพิชิตยอดขาย และเพิ่มสมาชิก โดยต่างพากันผุดกิจกรรมตลาด และโปรโมชั่นต่างๆ ออกมาสู้ทำเอาสนามขายตรงเพิ่มอุณหภูมิความเดือดตามการแข่งขัน
+ "โมรินดา" อบรมถี่ ดันสมาชิกรับ 3 หมื่น/เดือน
วิภารัตน์ รัตนพรหมมา ผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท โมรินดา เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนกลยุทธ์ในอีกประมาณ 3-4 ปีข้างหน้า เพื่อที่จะผลักดัน บริษัทให้เติบโตได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยต้องการขยายฐานธุรกิจให้กว้างขวางและยั่งยืนต่อไปในอนาคต ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ได้แก่ การ พัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม, การสร้างวัฒนธรรมให้ IPCs มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทุกเดือน ภายใต้โปรแกรม Auto ship และรางวัลการจ่ายผลตอบแทน หรือ ฟาสสตาร์ท โบนัส รวมไปถึง Incentive Trip โดยเป้าหมายคือการทำให้ IPCs มีรายได้ขั้นต่ำ 30,000 บาทต่อเดือน
"แนวทางการทำงานของโมรินดาเพื่อ ให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในแต่ละประเทศก็จะสอดคล้องกับนโยบายหลักจากสำนักงาน ใหญ่ คือ การตอกย้ำแนวคิด ควบคู่ไปกับแผนการทำงานของประเทศนั้นๆ ในส่วนของประเทศไทยนั้นจะให้ความสำคัญกับการสนับสนุนให้ที่ปรึกษาผลิตภัณฑ์อิสระประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำโปรโมชั่น, การอบรมสัมมนา Leadership Training ไตรมาสละ 1 ครั้ง, กิจกรรมผสาน ความสามัคคี One Day Trip 6 ครั้งต่อปี และการจัดประชุมรายสัปดาห์ รวมไปถึงการออกบูธแสดงสินค้าเพื่อให้เข้าถึงกลุ่ม ผู้บริโภคโดยตรง นอกจากนี้ ยังคงทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ควบคู่ไปกับกิจกรรมดังกล่าวตลอดทั้งปี"
+ "บีฮิบ" ปั้นแม่ทีม รับบทพรีเซ็นเตอร์สินค้า
ด้านนายชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัธน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีฮิบ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2556 บริษัทบีฮิบจะมีการเปิดตัวแบรนด์แอมบาส เดอร์ด้วยการใช้สมาชิกบริษัทที่ประสบความสำเร็จและอยู่ในสาขาอาชีพต่างๆ ออกมาโปรโมตสินค้าบริษัท โดยจะไม่เน้นไปที่การดึงดารานักแสดงเข้ามาโปรโมต เนื่องจากบริษัทจะเน้นสมาชิกที่ทุ่มเทกับธุรกิจบีฮิบเป็นศูนย์รวมไม่ได้เน้นดารา
นอกจากนี้ บีฮิบได้มีการปรับเปลี่ยนการจัดงานมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่สมาชิกที่ประสบความสำเร็จ "CHAM-PION THE DAY" ที่จัด 4 เดือน/ต่อครั้ง ปรับมาเป็นจัด 2 ครั้งในปี 2556 นี้ และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "GLOBAL CONVENTION" ซึ่งจะจัดงานที่เมืองทองธานีทั้ง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เดือน ก.ค. และครั้งที่ 2 เดือน พ.ย. และการจัดงานครั้งนี้จะมีการ เปิดตัวสินค้าอาหารเสริมเป็นหลัก เนื่อง จากได้มีการคิดค้นปรับปรุงสูตรให้เหมาะสม กับคนเอเชีย อีกทั้งเตรียมเชิญแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนมาร่วมงานคับคั่งแน่นอน
"อย่างที่ทราบกันดีบริษัท บีฮิบฯ เน้น ไปที่ระบบโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นหลัก เน้นการทำงานออนไลน์ที่ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา และการจัดส่งสินค้ารวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ บนโลกออนไลน์ ส่วนการที่จะขยายเปิดสาขาออกไปนั้น ทางบริษัทยังไม่ได้เน้น เพราะเวลานี้บริษัทมีที่ให้สมาชิกเข้ามาใช้บริการอยู่หลักๆ เพียง 3 แห่ง แต่สมาชิกของบริษัทส่วนใหญ่จะไปเปิดสาขากันเองถึง 30 กว่าแห่ง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้บริษัทครอบคลุมไปได้ทุกพื้นที่ แต่ยังไงก็ ตาม คอนเซปต์ธุรกิจเราคือ ไม่เน้นความใหญ่โตโอ่อ่า หรือความหรู แต่จะเน้นที่การเปลี่ยนแปลงชีวิตได้จริง เปลี่ยนแนวคิดของ คนให้ดีขึ้น"
+ "เจอเนสส์" รุกหนักเอเชีย
มร.สก็อต เอ. ลิวอิส ประธานเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจอเนสส์ โกล บอล เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผู้บริโภคทั่วโลกให้การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งยอดขายในปีนี้โตกว่าปีก่อนๆ ถึง 2 เท่า ปัจจุบันเจอเนสส์ได้ขยายเครือข่ายธุรกิจเข้ามาสู่ภูมิภาคเอเชีย และเหลือเพียงแค่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ที่ยังไม่ได้เปิดสำนักงาน แต่ได้อยู่ในขั้นตอนศึกษาข้อมูลเตรียมการเจาะตลาดเข้าไปด้วยเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซ ก่อน
"ตลาดในภูมิภาคเอเชียนั้น ถือเป็นตลาดที่เจริญเติบโตได้เร็วมาก อย่างในเอเชียในแปซิฟิกนั้นมีสำนักงานทั้งหมด 12 สำนักงาน และได้ตั้งอยู่ทั่วโลกกว่า 84 ประเทศ และล่าสุดที่อินโดนีเซีย ถือเป็นตลาดใหม่ที่กำลังมาแรงมาก เพราะที่นั่นมีพร้อมทุกด้าน และเจอเนสส์ยังได้รับเอกสิทธิ์ ดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างช่วง ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีผู้สมัครใหม่ที่อินโดนีเซียสูงถึง 1,000 รหัส และในปลายเดือนเพิ่มเป็น 2,000 รหัส เชื่อว่าอินโดนีเซียจะเป็นตลาดที่ยิ่งใหญ่ของเจอเนสส์แน่นอน ผู้คนที่นั่นค่อนข้างจะตอบรับ การทำธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดี อีกทั้งยัง มีผู้นำเก่งๆ หลายคน เชื่อว่าจะไปเติบโตขึ้น กว่านี้อีก"
"ตอนนี้เจอเนสส์ได้พยายามรีเฟรชแบรนด์ให้ดีขึ้น คือเมื่อคนพูดถึงชื่อ เจอเนสส์ ต้องนึกถึงสเต็มเซลล์, การตลาด และ ผลิตภัณฑ์ FINITY ที่ยังไม่มีใครทำได้ อย่าง การทำตลาดในประเทศไทยจะมุ่งเน้นการหาสมาชิก การทำสื่อให้ความรู้ สร้างภาพลักษณ์สินค้า และการทำเวิร์กช็อป แต่ปัญหาที่เจอเนสส์กำลังแก้ไขอยู่ คือสินค้ายังไม่ได้รับการรับรองจาก อย. เพราะอยู่ใน ช่วงการตรวจสอบ แต่ไม่น่ามีปัญหาอะไร และได้กำลังเล็งที่จะเปิดศูนย์บริการอีก 2 แห่ง ซึ่งเล็งไว้จะเป็นที่ จ.เชียงใหม่ กับ นคร-ราชสีมา เพราะถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ที่สำคัญมาก"
+ "พีเอ็ม" ทำโรดโชว์สร้างแบรนด์
นายศิริพงษ์ พิพัฒสัตยานุวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล เอจี (ประเทศไทย) จำกัด แบรนด์ขายตรงจากเยอรมนี เปิดเผยว่า "บริษัทของเราจะว่าไปก็มีสินค้าที่มีคุณภาพไม่แพ้บริษัทอื่น และก็มีความมั่นคง ในเรื่องของการเงิน เพราะได้รับการจัดลำดับจากสถาบันจัดลำดับเครดิตทางการเงินระดับโลกจากสถาบันดันแอนด์เบรดสตรีท ว่ามีความแข็งแกร่งของสถานภาพทางการเงินที่สูงกว่าธนาคารชาติของเยอรมนี หากใครมาร่วมธุรกิจกับเราไม่ต้อง ห่วงว่าจะจ่ายเงินไม่ตรงเวลา เราจะจ่ายครบ ทุกบาทแน่นอน และสินค้าบริษัทก็ได้รับการ รับรองจาก อย. อยู่แล้ว ที่นี่มีอนาคตให้ไม่ผิดกฎหมาย รายได้เข้าตรงเวลา รวมถึงค่า โบนัสต่างๆ และเรามีแผนการตลาดแบบไฮบริด แยกเป็น front N กับ back N คือ จ่ายทั้งหน้าและหลังชัดเจน และแผนการจ่ายนี้บริษัททั่วโลกก็ทำกัน ไม่ว่าจะเป็นกี่สาย งานกี่คน คุณได้โบนัสแน่นอน จ่ายทุกระดับ ชั้นในองค์กร หน้าแผนและหลังแผน จ่ายเท่ากันหมด เพราะเรามีสินค้าชั้นนำอย่าง กลุ่ม Healthcare ไม่ว่าจะเป็นดูแลสุขภาพ หัวใจ สมอง การคุมน้ำหนัก และออกกำลังกาย"
นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการทำ "โรดโชว์" ออกไปต่างจังหวัดต่างๆ ทั้งภาคอีสาน เหนือ ใต้ เพื่อให้ผู้บริโภคหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้โดยสะดวกมากขึ้น และเน้นการประชาสัมพันธ์ การสร้างกลุ่มสังคมออนไลน์ สร้าง แบรนด์ สร้างการรับรู้ต่อกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้นด้วยการใช้สื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและประชาสัมพันธ์ไปยังสื่อ สื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ รวมถึงสื่อออนไลน์ต่างๆ
"ตอนนี้ได้มีการวางแผนโรดโชว์ไปตามต่างจังหวัด ทั้งอีสาน เหนือ อย่างภาค ใต้เราเตรียมจะไปภูเก็ต และหาดใหญ่ เพราะ ที่นั่นเราก็มีแม่ทีมอยู่หลายคน ซึ่งเราให้การ สนับสนุนแม่ทีมเต็มที่แน่นอน อีกทั้งเป้าหมายปี 56 เราจะเน้นที่การวางรากฐานการ หาสมาชิกให้แน่นในปีนี้ก่อน เพราะการที่จะได้คนที่เข้าใจธุรกิจของเราเป็นสิ่งสำคัญ และเรายังได้มีแผนเตรียมเปิดแถลงข่าวบริษัทอยู่ในช่วงปลายปีนี้ แต่อยู่ในขั้นตอนการเตรียมการอยู่ ส่วนเรื่องภาพลักษณ์จะมีการทำประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักบริษัทเรามากขึ้น ด้วยการทุ่มงบซื้อสื่อวิทยุชุมชน ตามต่างจังหวัด และสิ่งพิมพ์ต่างๆ แต่เรื่อง งบนั้นคงยังสรุปไม่ได้ว่าเท่าไร เพราะอีกไม่นาน AEC ก็ใกล้จะเปิดแล้ว บริษัทก็ได้วาง แผนรับมือเรื่องนี้เช่นกัน แต่คิดว่าจะทำให้เราได้รับผลประโยชน์จากตรงนี้ และขยาย สาขาไปในแถบอาเซียนได้มากขึ้น"