Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
เพื่อนบ้านแข่งสร้างรถไฟ
เพื่อนบ้านแข่งสร้างรถไฟ
วันเสาร์ที่ 09 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Tweet
สะบัดร้อนสะบัดหนาว : by ณรงค์ ปานนอก
ขณะที่รัฐบาลไทยกำลังจุดกระแสให้ประชาชนจากหลายจังหวัดได้รับรู้ข้อมูล โครงการพัฒนาระบบรางขนส่งทั่วประเทศ โดยชู "รถไฟฟ้าความเร็วสูง" ด้วยมูลค่า 2 ล้านล้านบาท เป็นพระเอก จนประชาชนต่างจังหวัดต่างตื่นตัวเข้าชมนิทรรศการ อย่างเนืองแน่น ภายใต้การตรวจสอบอย่างละเอียดยิบของฝ่ายค้าน
มองออกไปที่เพื่อนบ้านมาเลเซีย กลับไม่น้อยหน้า รัฐบาลมาเลย์เตรียมจัด งบประมาณกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท เพื่อปฏิรูประบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง รวมทั้งขยายรถไฟเป็นรางคู่ทั่วประเทศ โดยวางแผนว่าจะสร้างให้เสร็จใช้งานได้ใน 7 ปีข้างหน้า
ถ้าประเมินตัวเลขงบประมาณลงทุนของไทยกับมาเลเซียแล้ว กรอบงานของมาเลเซียที่เป็นประเทศเล็กจะมีระยะทางสั้นกว่าเมืองไทย ขณะที่โครงการ 2 ล้าน ล้านบาทของไทยจะครอบคลุมระบบรถไฟรางคู่ทุกทิศทางสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไปยังเมืองใหญ่ 4 ทิศ อีกทั้งรวมไปถึงพัฒนาท่าเรือบางแห่งด้วย ก็น่าจะมีสัดส่วน ขนาดโครงการที่ใหญ่ใกล้เคียงกัน
หันไปมองทางภาคตะวันตก ปรากฏว่าประเทศเมียนมาร์ซึ่งกำลังฟื้นฟูระบอบ ประชาธิปไตย และเปิดประตูต้อนรับนักลงทุนต่างชาติไปกอบโกยตลาดใหม่ในประเทศ ก็ไม่อาจหยุดนิ่งกับการคมนาคมที่ล้าหลัง จำเป็นต้องขอความร่วมมือจาก ญี่ปุ่นเพื่อปรับปรุงเส้นทางรถไฟครั้งใหญ่ โดยเริ่มจากสายย่างกุ้ง-พะโค เป็นสายแรก และทำให้เส้นทางรถไฟสามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติไปใช้บริการเพิ่มเกือบ 2 เท่า จาก 7 เดือนแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 21,524 คน
เช่นกัน ประเทศลาวซึ่งไม่มีทุนมากนัก แต่เพราะจีนแผ่นดินใหญ่กำลังพุ่งเป้า ที่จะสร้างทางรถไฟความเร็วสูงจากจีนตอนใต้มาเชื่อมกับไทยและชาติในอินโดจีน ทำให้ลาวได้รับอานิสงส์เหมือนถูกหาม ให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องร่วมพัฒนาเชื่อมต่อทางรถไฟไปพร้อมๆ กับไทยโดยอัตโนมัติ...เพียงแต่อาจมีรายละเอียดของ เงื่อนไขก่อสร้างที่อาจไม่เหมือนประเทศไทย
ลาว และพม่า ไม่ใช่ประเทศในสายตาที่จะต้องเปรียบเทียบเชิงการแข่งขัน แต่ มาเลเซียต่างหาก ซึ่งเศรษฐกิจเติบโตตัดหน้าไทยไปแล้ว บังเอิญคิดและเตรียมโครงการลักษณะเดียวกัน จึงเป็นเรื่องที่เราๆ ท่านๆ น่าจะหยิบขึ้นมาเปรียบเทียบและวิเคราะห์ดูว่า 2 ชาตินี้เริ่ม "สตาร์ต" ในเวลาไล่เลี่ยกัน และมีเป้าหมายในเวลา 7 ปีด้วยกัน
จึงควรเพ่งมองว่า ไทยกับมาเลเซีย ชาติไหนจะก้าวไปถึงฝั่งฝันได้เร็ว และ ผ่านอุปสรรคของแต่ละประเทศได้ดีกว่ากัน
ความจริงเราก็พอมองเห็นความได้เปรียบของมาเลเซียชัดเจนกว่าไทยอยู่แล้ว ตรงที่มาเลเซียมีเสถียรภาพทางการเมืองมั่นคงกว่าไทย มีธรรมาภิบาลและความเป็น เอกภาพในเชิงการบริหารรวดเร็วมีประสิทธิภาพมากกว่าไทย...ในขณะที่การเมืองไทย ณ วันนี้ยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศความขัดแย้งที่ยังมองไม่เห็นว่า "ฝุ่นการเมือง" จะจางลงได้ในห้วงเวลาไหน
ทั้งๆ "เสียงข้างมาก" ของรัฐบาลมีแนวโน้มของ "โอกาส" ที่น่าจะราบรื่น และสามารถ "เดินหน้าเมกะโปรเจกต์" ได้ แต่อาจเพราะฝ่ายค้านเกรงจะไม่ได้รับ ความนิยมในระยะยาว ถ้าโครงการนี้ได้ลงมือปฏิบัติการไปโดยไม่คัดค้านหรือต่อต้าน ใดๆ เลย จึงได้เห็นอาการ "ค้านอย่างเอาเป็นเอาตาย" โดยพุ่งเป้าไปที่ประเด็นการทุจริตและไม่โปร่งใสของโครงการ ทั้งๆ ที่ยังไม่ลงมือทำงาน หรือใช้เงินอย่างจริงจัง
ฝ่ายรัฐบาลเองก็ไม่ได้แสดงความจริงใจให้เห็นอย่างชัดเจนเท่าใดนัก กับภาพลักษณ์ของความซื่อสัตย์สุจริต เมื่อหยิบกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่ผิดไปจากที่เคยยืนยันว่าจะยกความผิดให้เฉพาะผู้ชุมนุมเสื้อแดงเท่านั้นโดยไม่ "เหมาเข่ง" ไปถึงผู้บงการและแกนนำของทั้งสองฝ่าย ซึ่งภาพเช่นนี้เองมีผลกระทบไปถึงความไม่เชื่อถือของ "ปัญญาชน" ที่ไม่ฝักใฝ่ ฝ่ายใด เคยโน้มเอียงให้กับ "ความใจถึงของม็อบเสื้อแดง" ต้องถอนใจและถอนตัว ไม่อยาก "แอบเชียร์" ฝ่ายรัฐบาลไปโดยปริยาย
ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะประเมินสถานการณ์ที่ได้เปรียบ และคิดว่า "เอาอยู่" ก็ตาม ก็มีผลให้กระทบเป็นลูกโซ่จากฝ่ายค้านและฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไปอีกค่อนข้างยาวนาน ซึ่งกลายเป็นผลสะเทือนไปถึงโครงการยักษ์ของระบบราง 2 ล้านล้านบาท ให้ล่าช้าออกไปเรื่อยๆ
และหากสถานการณ์ไม่เป็นไปดังที่ฝ่ายรัฐบาลคาด หรือประเมินผิดพลาดกลายเป็นฝ่ายค้านสามารถพลิกเกมให้โครงการสะดุดลงไม่ว่ากรณีใดๆ นอกจากโครงการอาจล้มเหลวด้วยเทคนิคและกลเกมทางการเมืองแล้ว
ก็อย่าได้หวังเลยว่าบรรยากาศทางเศรษฐกิจและการลงทุนจะคึกคักให้รู้สึกว่า ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่เป็นขวากหนามเหล่านี้ไปอย่างโล่งอกได้
ถึงวันนั้น เราคงได้ก้มหน้าก้มตา แข่งสร้างทางรถไฟไปพร้อมกับเมียนมาร์ ลาว หรือกัมพูชาด้วยความอัปยศอดสู เพราะความคลอนแคลนทางการเมืองหรือ เปล่าก็ไม่รู้?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ