Toggle navigation
วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
ขายตรง
"สคบ." จ่อรื้อระเบียบ MLM อื้อ! หนุนทำบัตรนักขายเร่งตรา สคบ.รับ AEC
"สคบ." จ่อรื้อระเบียบ MLM อื้อ! หนุนทำบัตรนักขายเร่งตรา สคบ.รับ AEC
วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556
Tweet
"สคบ." เดินหน้ายกระดับวงการขายตรง หลังมูลค่าการตลาดของธุรกิจเพิ่มทวีคูณ เตรียมลอกระเบียบขึ้นทะเบียนนักขาย ออกบัตรประจำตัว นักธุรกิจอิสระเหมือนธุรกิจประกัน พร้อมจับมือ "ดีเอสไอ" ควบคุมกำกับดูแลธุรกิจ หนุนนโยบาย "ตราสัญลักษณ์ สคบ." ช่วยวงการ MLM ไทย สู้ศึก AEC
นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า ในรอบหลายปีที่ผ่านมาภาพรวมของธุรกิจขายตรง และตลาดแบบตรงเติบโตอย่างต่อเนื่องดัชนีชี้วัด เห็นได้จากสถิติการจดทะเบียนธุรกิจขายตรงและ ตลาดแบบตรง ซึ่งผู้ประกอบ ธุรกิจขอยื่นขอจดทะเบียน ณ สคบ. ตั้งแต่ พ.ศ.2545 ถึงปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกอบ ธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงที่ได้รับการจดทะเบียนขายตรง จำนวน 613 ราย และการจดทะเบียน การประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง จำนวน 216 ราย จะเห็นได้ว่า ภาคธุรกิจดังกล่าวได้สร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล
ซึ่งนอกจากยอดขายที่เติบโตขึ้น ต่อเนื่อง จำนวนสมาชิกของธุรกิจขายตรง และตลาดแบบตรง ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่าง มากเช่นเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่วนเวียนอยู่ก็ย่อมเป็นที่ดึงดูดใจให้หลายต่อหลายคนสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจดังกล่าว
จากเหตุผลดังกล่าว สคบ. จึงต้อง เตรียมจัดระเบียบธุรกิจขายตรงใหม่ทั้งระบบ หลังพบว่าธุรกิจดังกล่าวได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตัวแทนจำหน่าย อิสระที่ปัจจุบันมีมากถึง 15 ล้านคน ทั่วประเทศ และเกือบทั้งหมดไม่มีหลักฐาน การประกอบอาชีพ โดยจะให้เจ้าหน้าที่เร่ง ศึกษาแนวทางการควบคุมโดยให้ผู้ที่จะเข้า มาเป็นตัวแทนจำหน่ายอิสระต้องผ่านการ ทดสอบความรู้จากสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการขายตรงซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับตัวแทน ธุรกิจประกัน จากนั้นจึงออกบัตรประจำตัว เพื่อรับรองว่าตัวแทนดังกล่าวมีความรู้ความเชี่ยวชาญ และพร้อมจำหน่ายสินค้า ให้กับผู้บริโภคได้
โดยจะดูรูปแบบของสำนักงานคณะ กรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่มีการสอบคัดเลือก ตัวแทนขายประกันซึ่งจากการพิจารณาเบื้องต้นเชื่อว่าต้องทำได้เหมือนกันแน่นอน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อไทยที่จะยกระดับมาตรฐาน ธุรกิจขายตรงขึ้นมาให้มีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
นอกจากนี้ สคบ. จะร่วมมือกับ ดีเอสไอ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับ ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงในบทบาทของ สคบ. และ ดีเอสไอ เพื่อทำความเข้าใจให้ ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจขายตรงให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศตลอดจนสร้างความ เชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ที่ซื้อสินค้าว่าจะได้รับของดีมีคุณภาพคุ้มค่า คุ้มราคา และจะได้รับการเยียวยา หากเกิด ความเสียหายกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ
มาตรการดังกล่าวก็เป็นไปตามนโยบายของ สคบ. ที่จะมีการมอบตรา สัญลักษณ์ให้กับผู้ประกอบธุรกิจเพื่อเตรียม ความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ซึ่งในเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ถือเป็น หนึ่งในการเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ตลาดเออีซี ที่ สคบ. จะต้องเข้าไปดูแลเกี่ยวพันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเยียวยาผู้บริโภคข้ามประเทศ การเรียกคืน สินค้า และการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วย งานรัฐระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน
ในส่วนของการสนับสนุนธุรกิจขายตรงในต่างประเทศ สคบ. ร่วมกับชาติในอาเซียนได้ประสานความร่วมมือในเบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายขายตรงเนื่องจากในแต่ละประเทศมีกฎหมายที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นที่จะต้องทำอย่างไรให้ธุรกิจนี้ในแต่ละประเทศมีความสอดคล้องกัน โดยที่ไม่มีกำแพงทางการค้ากีดกั้น และนำธุรกิจขายตรงมาเปิดตลาดในเวทีอาเซียน ให้ได้
ทั้งนี้ หนึ่งในภารกิจหน้าที่ของสำนัก งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคก็คือการกำกับดูแลธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ซึ่งธุรกิจดังกล่าวมีอัตราการเจริญเติบโตสูงและรวดเร็วที่สุด ประเภทหนึ่ง มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย การเติบโตของธุรกิจดังกล่าวยังมีศักยภาพที่สามารถขยายตัวได้อีกซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับประชาชนได้มาก โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558
เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้มอบนโยบายเกี่ยวกับการปฏิบัติ งานและการดำเนินงานด้านขายตรงและตลาดแบบตรง โดยได้วางนโยบายในเรื่อง ต่างๆ ดังนี้ 1.เรื่องการจัดทำฐานข้อมูลใน การดำเนินงานของส่วนขายตรงและตลาด แบบตรง
2.เรื่องการส่งเสริมการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง
3.เรื่องการปรับปรุงการรับจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง เพื่อให้การรับจดทะเบียนการประกอบธุรกิจเป็นไปโดยโปร่งใสและไม่มีปัญหาในการร้องเรียน
4.เรื่องการปรับปรุงโครงสร้างภายใน ส่วนขายตรงและตลาดแบบตรง เพื่อให้ การปฏิบัติงานและดำเนินงานด้านขายตรง และตลาดแบบตรงมีทิศทางการทำงานที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ และเพื่อรองรับ การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
5.เรื่องการเพิ่มกรอบอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ เนื่องจากธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง เป็นธุรกิจที่สร้างงาน สร้าง รายได้แก่ประชาชนให้มีฐานะทางเศรษฐกิจ ที่ดีขึ้น ดังนั้น จึงเล็งเห็นว่าในการปฏิบัติงานและการดำเนินการพิจารณาต้องมีความพร้อม เพื่อรองรับกับปริมาณงานที่จะเพิ่มมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
“Zhulian Gala Night 2025” ปรากฏการณ์ค่ำค...
...
“ซูเลียน” ส่งชานม “ที พลัส 3 in 1” เขย่า...
...
Happy MPM Business Trip @ จันทบุรี...
...
กิฟฟารีน แนะนำไอเท็มเด็ด “Giffarine Roya...
...
กิฟฟารีน แนะนำไอเท็มเด็ด “Giffarine Adva...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ