"นีโอ ไลฟ์" รุกหน้าสู่ AEC ล่าสุด บุกยึดประเทศ เวียดนาม ปักธงตอนเหนือของประเทศ ก่อนขยายฐาน ต่อภาคกลางและทางตอนใต้ของประเทศ ชี้สาขาต่าง-ประเทศ ลาว, กัมพูชา มีแนวโน้มที่ดีมีสมาชิกประสบความสำเร็จจ่อคิวขึ้นตำแหน่งระดับสูงเพียบ ฝั่งพม่าสมาชิกเรียกร้องเร่งให้เปิดสำนักงานสาขา ในส่วนของ โรงงานผลิตสินค้า บริษัทพันธมิตรขยายโรงงานสู่จีน ออสเตรเลีย เตรียมสินค้าระดับพรีเมี่ยมนำเข้าขายไทย ด้านตลาดในประเทศรุกจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เผยงานประดับเข็มสมาชิกประสบความสำเร็จ ประจำเดือน มี.ค. ตบเท้าขึ้นตำแหน่งร่วมพัน
ภายหลังจาก บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกาศความยิ่งใหญ่ ภายใต้กิจกรรม "คาราวาน วันเดียว เที่ยว 3 ประเทศ" จากไทยไปลาวมุ่งสู่เวียดนาม เพื่อเปิดโลกทัศน์ให้กับสมาชิกนักธุรกิจของบริษัทได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ในแต่ละประเทศ โดยการเดินทางในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนของ แต่ละประเทศ รวมถึงหน่วยงานราชการที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
ดร.นพรุจ เวชกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผย "สยามธุรกิจ" ว่า ทุกบริษัทขายตรงในประเทศไทยขณะนี้กำลังเตรียมความพร้อมเข้าสู่ความเป็นระดับโลก ด้วยการเดินทางไปเปิดตลาดแถบอาเซียน และ ธุรกิจในไทยรวมถึง "นีโอ ไลฟ์" ก็ได้เดินทางไปขยายตลาดในประเทศเวียดนามแล้ว
โดยภาพของขายตรงในอดีตนั้น ในต่างประเทศจะเป็นลักษณะ ต่างคนต่างทำ แต่ปัจจุบันมีบริษัทใหญ่ๆ จากต่างประเทศที่มีอำนาจ สามารถรีครูตคนจากที่อื่นๆ ได้ ส่วนบริษัทคนไทยเองยังไม่ก้าวไปถึงขั้นนั้น และการที่นีโอ ไลฟ์ได้พาสมาชิกระดับกลางไปท่องเที่ยว ก็เหมือนพาไปเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้เห็นบ้านเมืองภายนอก เพื่อเตรียมตัวขยายสายงานในอนาคต
อย่างไรก็ดี เวียดนาม ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ เราจึงไปปักหลักในแถบภาคเหนือของประเทศก่อนที่จะขยายไปในเวียดนาม ตอนกลางและตอนใต้ต่อไป เพราะทางตอนเหนือเราไปขยายไว้นาน แล้ว โดยไปที่เมืองไซ่ง่อน ซึ่งถือเป็นเมืองที่เจริญที่สุด
ในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนหน้านี้เราได้ไปประชุมกันมา ที่กรุงพนมเปญ และที่เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา เพราะตลาดที่นั่น ดีมาก จึงอยู่ในช่วงกำลังขยายสาขา อย่างเมืองกัมปุงโสม ซึ่งเป็นภาคตะวันออกของกัมพูชา ที่นั่นเราทำตลาดอย่างต่อเนื่อง คาดว่า ปีนี้จะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
นอกจากนี้ ภายในกลางปีนี้ที่กัมพูชา ซึ่ง "นีโอ ไลฟ์" ได้ขยายสาขาออกไปแล้วนั้น จะมีการจัดงานมอบเข็มให้กับสมาชิกที่ ประสบความสำเร็จของ "นีโอ ไลฟ์" และในเวียดนามก็จะเริ่มมีการบรรยายประจำสัปดาห์ คาดว่าจะมีผู้ประสบความสำเร็จที่ได้รับการประดับเข็มทยอยเพิ่มขึ้น
"กัมพูชาถึงแม้จะมี ประชากรเพียง 10 กว่าล้าน แต่ที่นั่นมีความกระตือรือร้นและสนใจการทำธุรกิจขายตรง ส่วนเวียดนามมี ประชากรมากถึง 80 ล้านคน ถือเป็นตลาด ใหญ่และมีกำลังซื้อมาก จึงต้องใช้เวลาในการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ"
ดร.นพรุจ กล่าวต่อว่า "ขณะนี้ ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จในอาเซียนเริ่ม มีมากขึ้น เราอาศัยฐานผู้บริหารในประเทศ ไทยที่อยู่ทั่วทุกภาค ให้ออกไปเป็นพี่เลี้ยงในสาขาประเทศใกล้เคียง อย่างกลุ่มในเวียดนาม ลาว เราอาศัยฐานสมาชิกจาก จ.อุดรธานี, หนองคาย, นครพนม และอุบลราชธานี ซึ่งนักธุรกิจกลุ่มนี้จะขยายรุกข้าม ลาวออกไปสู่เวียดนามต่อไป"
ส่วนในระดับตำแหน่งสูงๆ บริษัทมีพี่น้องในประเทศลาว ซึ่งมีอยู่ในตำแหน่งรองประธานฝ่ายการตลาดเกิดขึ้นแล้ว ส่วน กัมพูชาตำแหน่งสูงสุดอยู่ที่ระดับผู้จัดการ โดยเวียดนามก็เพิ่งก้าวสู่ตำแหน่งหัวหน้า ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าปลายปี 56 คงเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น
"ในขณะที่ประเทศอื่นๆ อย่างพม่า นักธุรกิจของเราก็เริ่มมีตำแหน่งผู้อำนวยการ บ้างแล้ว แต่เป็นนักธุรกิจชาวพม่าที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย โดยสมาชิกที่เป็นชาวพม่าเรียกร้องให้เราไปเปิดธุรกิจที่นั่น แต่บริษัท ยังต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ละเอียดก่อน อาจต้องใช้เวลาอีกระยะ ซึ่งพม่าค่อนข้างน่าสนใจ อย่างน้อยก็จะพยายามเปิดให้ได้ 1 สาขา"
สำหรับประเทศอื่นๆ อย่าง อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ก็นับเป็นประเทศที่มีความเจริญ ซึ่งบริษัทเราจะเข้าไปเปิดตลาด อย่างแน่นอน จึงอยากให้สมาชิกนีโอ ไลฟ์ เตรียมตัวให้พร้อมกับการเปิด AEC ซึ่งต้อง มีการปรับทัศนคติให้ดีขึ้น จึงได้พาสมาชิก นีโอ ไลฟ์ ไปท่องเที่ยวเพื่อเปิดโลกทัศน์ใหม่ เตรียมความพร้อมเพื่ออนาคต
นอกจากนี้ ในส่วนของเป้าหมายยอด ขายสาขาต่างประเทศ ดร.นพรุจ กล่าวว่า "ยอดขายของประเทศในแถบอาเซียน ที่ "นีโอ ไลฟ์" ทำตลาดออกไปนั้น คงจะยังไม่ได้มากมายอะไร เพราะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดสาขา ยอดขายคงเทียบเท่า กับจังหวัดใหญ่ๆ ในประเทศไทย 1 จังหวัดเท่านั้น ซึ่งคงต้องรอดูหลังจากปี 58 ที่จะขยายสาขาเพิ่มได้มากขึ้น คาดว่าในกลุ่มอาเซียนจะทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 30% ของยอดขายโดยรวมทั้งหมด"
อย่างไรก็ตาม ด้านการผลิตเราได้จับมือกับเมก้า ไลฟ์ โรงงานผลิตสินค้าให้กับ บริษัท ซึ่งขณะนี้บริษัทได้มีแผนที่จะเปิดโรงงานในเวียดนามเพื่อผลิตสินค้าป้อนสู่สาขาในประเทศต่างๆ ในอาเซียน ส่วนโรงงานที่ผลิตสินค้าในเครือ บริษัทอีกที่หนึ่ง จะมาจากทางประเทศจีน เพราะเราได้ขยาย ไปสู่เซี่ยงไฮ้และได้ไปเชื่อมกับโรงงานต่างๆ ที่นั่นไว้ รองรับตลาดในอนาคตบ้างแล้ว
สำหรับสินค้าที่เป็นแบรนด์ระดับสูงนั้น ทางเมก้า ไลฟ์ได้ไปตั้งโรงงานอยู่ในออสเตรเลีย โดยในอนาคตบริษัทจะมีสินค้า ที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารระดับพรีเมี่ยมที่ผลิตมาจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่า ปลายปี 56 สินค้าตัวแรกจะส่งกลับมาขายในเมืองไทยได้
"บริษัทวางแผนต่างๆ รองรับ AEC ไว้ แล้ว แต่เราต้องทำตามขั้นตอนที่วางไว้ โดยที่ "นีโอ ไลฟ์" มีบริษัทต่างๆ เข้ามาร่วมงานมากขึ้น อย่างกลุ่มสินค้า Sunmax สินค้าดังจากอเมริกา ก็เข้ามาทำตลาดกับเรา "นีโอ ไลฟ์" เติบโตขึ้นมาก มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับจนเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ทำให้สินค้าต้องมีความหลากหลายมากขึ้น โดย ที่บริษัทมีความมั่นใจว่าหลังจากปี 58 การสื่อสาร ทีวี สื่อสิ่งพิมพ์ และทรัพยากรต่างๆ ของเราจะสมบูรณ์แบบมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว" ดร.นพรุจ กล่าวทิ้งท้าย
ขณะเดียวกันนี้ นีโอ ไลฟ์ ยังมีนโยบาย ช่วยเหลือเศรษฐกิจระดับจังหวัด ด้วยการเป็นตัวแทน จ.นครพนม เตรียมไปเปิดเส้นทางการท่องเที่ยว อย่างสะพานข้ามแม่น้ำ โขงที่เชียงของ แห่งที่ 4 หรือสะพานมิตร-ภาพแห่งที่ 4 ทางภาคเหนือ ในอนาคต อันใกล้นี้ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของบริษัทจะสามารถขนส่งไปมาได้สะดวกมากขึ้น ทั้งยัง จะเป็นการช่วยเหลือสังคมในทุกๆ ด้าน โดยที่เส้นทางนี้สามารถขนส่งสินค้าข้ามไปยังประเทศเวียดนาม, ลาว และจีนได้
สำหรับกิจกรรมภายในประเทศของบริษัท นีโอ ไลฟ์ฯ ในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่าน มา ได้ร่วมกับหนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ จัดโครงการ "สยามธุรกิจสัญจร" ขึ้นมา พร้อมด้วยสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และ สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย (TDNA) ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมให้ความรู้ทั้งด้าน วิชาการและความบันเทิง รวมถึงมีการ ระดมความเห็นในการแก้ไขกฎหมาย ขายตรง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกจัดขึ้นที่ จ.พิษณุโลก
นอกจากนี้ ยังมีงานประดับเข็มนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จประจำเดือน มี.ค. ที่บริษัทจัดขึ้นในทุกๆ เดือน โดยในครั้งนี้มีผู้ที่ขึ้นรับเข็มเกียรติยศรวมทุกตำแหน่งร่วม 1,000 คน ซึ่งในทุกครั้งที่มีการจัดงาน สมาชิกทั้งใหม่และเก่าของบริษัทก็จะให้ความสนใจตบเท้าเข้าร่วมงานนับหมื่นคน ในทุกครั้ง