คอลัมน์ผืนนี้ ยังคงฉายความคิดเห็นมุมมองของผู้บริหาร นักธุรกิจ และผู้ที่อยู่ในวงการขายตรงผ่านตัวอักษร ชี้ให้เห็นข้อดี ข้อเสียของกฎหมายขายตรงที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้ท่าน ผู้อ่านได้เห็นว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ต้องทำอะไรสักอย่างในกฎกติกาของธุรกิจขายตรง เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เราได้ความคิดเห็นที่น่าสนใจจากผู้บริหารหญิงคนเก่งค่าย "โมรินดา"
โดยนางวิภารัตน์ รัตนพรหมมา ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท โมรินดา เวิร์ลไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยในประเด็นกฎหมายว่า เรื่องของกฎหมายขายตรงที่ใช้อยู่นี้ ตนอยาก เห็นถึงความชัดเจนมากกว่านี้ เพราะต้องยอมรับว่า ธุรกิจขายตรง ในปัจจุบันมีขนาดธุรกิจที่ใหญ่มาก มีผู้คนที่เกี่ยวข้องมากมาย มูลค่า การตลาดสูงกว่าอดีตมาก
"ตนเห็นด้วยที่จะมีการปรับในเรื่องของกฎหมายขายตรงที่ใช้ อยู่ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจรุดหน้าไปไกล กฎหมายต้องมีความชัดเจน สามารถปกป้องธุรกิจทั้ง 3 ส่วน อาทิ ผู้ค้าของแต่ละบริษัท นักธุรกิจ และผู้บริโภค ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้ ควรที่จะได้รับการปกป้องจากรัฐ เพื่อ ยกระดับธุรกิจขายตรงไทย" วิภารัตน์ กล่าว
กฎหมายขายตรงที่ใช้อยู่ยังไม่สามารถปกป้อง 3 ส่วนที่กล่าว มาได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างที่เห็นชัดคือ จากกว่า 800 บริษัทที่เปิดตัวขึ้นมา และมีการจดทะเบียนเป็นบริษัทขายตรงกับ สคบ. แต่เมื่อ สคบ. เปิดให้เข้ามารายงานตัว กลับมีประมาณ 200 บริษัท เท่านั้นที่เข้ามา แล้วอีกกว่า 700 บริษัทไปไหน นี่คือความไม่รัดกุม ที่เห็นได้ชัด
รัฐควรที่จะมีการแก้ไขกฎหมายขายตรง อีกทั้งยังควรที่จะให้ มีการสร้างความรู้เรื่องของธุรกิจขายตรงให้กับประชาชนผู้บริโภคในทุกพื้นที่ เพราะขายตรงปัจจุบันกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยการให้ ความรู้ก็เป็นอีกสิ่งที่รัฐควรทำ เพราะนิสัยคนไทยแล้ว อะไรที่ง่าย ได้เงินเร็ว คือ สิ่งที่เย้ายวนทำให้ถูกหลอกง่าย รัฐต้องทำให้เห็นว่า ธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องคืออะไร และต้องทำอย่างไร
วิภารัตน์ ยังกล่าวต่อว่า "เรื่องของบัตรประจำตัวนักธุรกิจ ก็เป็นอีกเรื่องที่ตนเห็นด้วยว่าจะต้องมี เนื่องจากเป็นการแสดงตัว ตนของนักธุรกิจ สร้างความอุ่นใจให้กับผู้บริโภค อย่างธุรกิจประกัน ที่มีการออกบัตรประจำตัวให้ตัวแทนขายประกัน โดยที่ทุกคนต้อง สอบเพื่อขอรับบัตร โดยส่วนตัวแล้ว ธุรกิจประกันก็ไม่ได้ต่างจาก ขายตรงมากมายอย่างไร อะไรที่ธุรกิจประกันทำแล้วดี เราก็สามารถ ปรับมาใช้กับขายตรงได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด"
ในส่วนของเรื่องการตั้งหน่วยงานอะไรสักอย่าง เพื่อเข้ามา เป็นหน่วยงานดูแลกำกับธุรกิจขายตรงโดยเฉพาะ ก็เป็นเรื่องที่เห็นด้วย เพราะธุรกิจก้าวไปไกลในปัจจุบัน
โดยสรุปแล้ว เรื่องของกฎหมายขายตรง รัฐควรที่จะสร้าง ความรัดกุมให้มากขึ้น ชัดเจนขึ้น ซึ่งโลกปัจจุบันก็ล้ำหน้าไปไกล เรื่องของกฎหมายควรรองรับเรื่องเทคโนโลยีให้มากขึ้น รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่รัฐต้องมอง และออกกฎหมายเพื่อรองรับสิ่งเหล่านี้ เพราะที่ผ่านมากฎหมาย ที่มี ก็เหมือนไม่ได้ใช้