ดูเหมือนว่าปัจจุบันธุรกิจขายตรงหลายแบรนด์มีการปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอสินค้า โดยมีการดึงเรื่องของงานวิจัยอิงข้อมูลวิทยาศาสตร์ ขึ้นมาพูดถึงกันมากขึ้น และสิ่ง ดังกล่าวก็ดูจะได้ผลเป็นอย่าง มากเลยทีเดียว เมื่อเรื่องของ คุณภาพสินค้าถูกการันตีด้วย ผลของการวิจัย ที่แต่ละบริษัท อ้างถึง
เริ่มตั้งแต่ "แอมเวย์" ค่ายใหญ่ประจำวงการ ที่มีการยกนักวิทยาศาสตร์ ขึ้นมา เพื่อสร้างหลักฐานด้านคุณภาพของสินค้าตัวเอง โดยได้หยิบยก ศ.ดร. ยังจุนเซอร์ หัวหน้าสถาบันวิจัยแห่งชาติด้านการก่อมะเร็งระดับโมเลกุลและการป้องกันด้วยเคมีบำบัด คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล สาธารณรัฐเกาหลี และหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ สถาบันสุขภาพนิวทริไลท์ขึ้นมา
โดย ศ.ดร.ยังจุนเซอร์ ได้บรรยายถึง ความสำคัญของไฟโตนิวเทรียนท์ที่เป็นกุญแจสำคัญของการดูแลสุขภาพว่า ภาวะ ออกซิเดทีฟ สเตรส (Oxidative Stress) หรือภาวะเครียดจากอนุมูลอิสระซึ่งทำให้เซลล์ถูกทำลาย และภาวะการอักเสบเป็น 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรคได้ถึงประมาณ ร้อยละ 90 ซึ่งตัวช่วยก็คือ สารต้านอนุมูล อิสระภายในเซลล์ ซึ่งมีหน้าที่ต่อสู้กับอนุมูล อิสระ และการติดเชื้อจากแหล่งที่มาทั้งภายใน และภายนอก ข่าวดีคือ อาหารในชีวิตประจำวันของเราเป็นยาที่ช่วยป้องกันและ รักษาโรคได้ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ถั่ว และ เครื่องเทศที่มีไฟโตนิวเทรียนท์ (Phyto-nutrients) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และสารต้านการอักเสบที่หลากหลาย จึงมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพ และปกป้อง ภาวะเครียดจากอนุมูลอิสระที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก
ดร.ยังจุนเซอร์ กล่าวเสริมว่า แม้ว่า ไฟโตนิวเทรียนท์จะมีอยู่มากมายและหารับประทานได้ง่ายในผักผลไม้หลากสี แต่ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายได้รับ นั้นก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่จะใช้ต่อสู้กับสารอนุมูลอิสระที่คอยบั่นทอนสุขภาพจากภายใน เนื่องจากปริมาณผักและผลไม้ที่เรารับประทานในแต่ละวันอาจ ไม่เพียงพอหรือไม่มีเวลารับประทาน
ดังนั้น การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีไฟโตนิวเทรียนท์จึงเป็นอีก หนึ่งทางเลือกที่ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ที่ ไม่มีเวลาบริโภคสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายให้เพียงพอ ที่ผ่านมาในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีความตื่นตัวในเรื่องการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาบริโภคผักและผลไม้ให้หลากหลายและมากพอ โดยประมาณปี 1990 ได้มีโครงการรณรงค์ ไฟว์อะเดย์ เบตเทอร์ เฮลธ์ (5-A Day Bet-ter Health) เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนรับรู้ คุณประโยชน์ของการบริโภคผักผลไม้ที่มีไฟโตนิวเทรียนท์ให้ได้วันละ 5 ส่วนและ 5 สี เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยปริมาณ 1 ส่วนเปรียบเทียบได้กับน้ำส้มคั้น 1 แก้ว และแอปเปิลครึ่งผล ซึ่งก่อนที่จะมีโครงการ รณรงค์นี้ประชาชนชาวสหรัฐอเมริกามีการบริโภคไฟโตนิวเทรียนท์ครบ 5 ส่วนและ 5 สี เพียงร้อยละ 8 เท่านั้น
ถัดมาที่ กัมปนาท บุญราศรี ประธาน กรรมการ บริษัท ไอยรา แพลนเน็ต จำกัด ที่ใช้งานวิจัยเป็นตัวขับเคลื่อนสินค้าเช่นกัน โดยเปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทเปิดตัวเมื่อช่วงต้นปี 55 และได้ส่งสินค้า เรือธงอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "อิมมูล่า" สารสกัดจากงาดำที่ได้รับการวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญออกจำหน่าย อย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินความคาดหมาย
ซึ่งในส่วนของนักวิจัยผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพให้กับบริษัทนั้น กัมปนาท เผยว่า บริษัทได้รับความร่วมมือจาก รศ.ดร. ปรัชญา คงทวีเลิศ นักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้เป็น หัวหน้าหน่วยวิจัยวิศวกรรมเนื้อเยื่อและเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งคิดค้นงานวิจัยสารสกัด งาดำ และนำผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร โลก มาร่วมเป็นทีมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอย่างเป็นทางการ จึงทำให้ปัจจุบันไอยราได้ถือสิทธิบัตรงานวิจัย 1 ใน 5 ใบ ซึ่งเป็นเซซามีน ผลิตภัณฑ์งาดำชั้น 1 โดย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสกัดจากงาดำตัวนี้ ของบริษัท มีชื่อว่า "อิมมูล่า"
ด้าน "สาคร ใสกมล" ประธาน ผู้ก่อตั้ง บริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญาเป็นผู้จัดจำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์งานวิจัย ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากสถาบันวิจัยประเทศไต้หวัน โดยเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสภาพผิวหน้า ที่มีชื่อว่า Simile Growth Factor
โดยเหตุผลสำคัญที่บริษัทได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ SIMILE COSMETOLOGY มาเจาะตลาดในประเทศไทย เพราะต้องการ ให้ดี เน็ทเวิร์ค มีสินค้าในกลุ่มบำรุงผิวหน้า ครบวงจรทุกขั้นตอน ตั้งแต่การทำความ สะอาด การป้องกัน การบำรุง โดย SIMILE COSMETOLOGY จะอยู่ในขั้นตอนการบำรุงรักษา
นอกจากนี้ ทางบริษัทได้โหมหนัก ในการทำตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลสมอง "ดี เบลม" โดยมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรม ตามโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ทาง ดี เน็ทเวิร์ค มีการจัด "สัมมนาวิชาการโครงการเสริมสร้างสมองดีด้วย ดี เบลม" โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการเสริมสร้างความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ดูแลสมอง ดี เบลม แก่นักวิชาการระดับประเทศและ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองโดยเฉพาะ
"คนที่เข้ามาฟังก็เป็นนักวิชาการระดับประเทศ มีทั้งแพทย์ นักวิจัย นักธุรกิจ เภสัชกร ต่างให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ดูแลสมอง ดี เบลม เราคาดหวังว่าผู้ที่เข้า ร่วมสัมมนาในครั้งนี้ จะนำเอาสินค้าดีๆ อย่าง ดี เบลม ไปแนะนำต่อ หากกลุ่มคน ที่เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักวิชาการ ระดับประเทศนำไปบอกต่อ จะทำให้ผู้คนเกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ดูแลสมองดี เบลมเป็นอย่างมาก แล้วจะทำให้ผลิตภัณฑ์ ดังกล่าวได้รับการยอมรับในระดับประเทศ"
ทั้งนี้ จากประเด็นที่กล่าวมา เหตุที่บริษัทได้หยิบยกงานวิจัยขึ้นมาเป็นตัวชูโรง เนื่องจากสินค้าของธุรกิจขายตรงส่วนใหญ่ เป็นในกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ อีกทั้งวิธีการนำเสนอขายของรูปแบบธุรกิจก็ต้องใช้การอธิบาย สิ่งที่จะทำให้บริษัทใดเหนือ กว่า จึงอยู่ที่คุณภาพที่สามารถการันตีด้วย ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นการปิดข้อสงสัยในเรื่องของคุณภาพสินค้าไปในตัว