"กิฟฟารีน" พลาดเป้า! ปิดยอดขายปี 55 ที่ 5,878 ล้านบาท เติบโต 7.01% กางตำราเปิดแผนงานปีมะเส็งนำหน้าด้วย 4 กลยุทธ์หลัก ไต่ฝัน 6.5 พันล้านบาท เน้นหนักสื่อดาวเทียมเปิดรูปแบบเรียลไทม์บนอินเตอร์เน็ต และการพัฒนาสินค้า พุ่งเป้าเจาะกลุ่มตลาดใหม่
พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เผยถึงผลประกอบการในปี 2555 ว่า ยอดขายในปี 2555 ที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจด้วยตัวเลข 5,878 ล้านบาท โดยมีอัตราเติบโตที่ 7.01 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้จะไม่ถึง เป้าที่เราตั้งไว้ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากผลพวงจากสถานการณ์ อุทกภัยในช่วงปลายปี 2554 ที่ทำให้สายการผลิตที่โรงงาน ได้รับผลกระทบ จึงมีผลต่อยอดขายในไตรมาสแรก แต่ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดและแคมเปญต่างๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ สามารถตีตื้นยอดขายขึ้นมาได้ ซึ่งมีอัตราการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ ที่พอใจ
"จากยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้า ก็เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554 ที่ผ่านมาบริษัทใช้งบประมาณกว่า 100 ล้าน บาท เพื่อฟื้นฟูโรงงานผลิต ปัจจุบันเตรียมแผนรับมือด้วยการย้ายเครื่องจักรไปทำการผลิตบนชั้น 2 ของตัวอาคารโรงงานทั้งหมดแล้ว" พ.ญ.นลินี กล่าว
"สำหรับทิศทางการตลาดโดยรวมในปี 2556 นี้ กิฟฟารีน ตั้งเป้าไว้ที่ 6,500 ล้านบาท โดยนโยบายหลักจะเน้นในเรื่องการ สร้างภาพลักษณ์ทางธุรกิจ ผ่านเครื่องมือทางการตลาดอย่าง "กิฟฟารีน แชนแนล" ที่พร้อมออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ทางอินเตอร์เน็ต เพื่อแสวงหากลุ่มเป้าหมายใหม่และการขยายเครือ ข่ายไปสู่คนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งกระตุ้นผู้สมัครใหม่ให้ใช้สินค้าอย่าง ต่อเนื่องด้วยโปรโมชั่นและแคมเปญต่างๆ ตลอดจนการตอบแทน ผลกำไรคืนสู่สมาชิกในรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นเต้น อาทิ การท่องเที่ยว ประเทศญี่ปุ่น (Fantastic Japan Awards) การมอบรางวัลทางธุรกิจ (Unilevel Awards) เป็นต้น"
อย่างไรก็ดี บริษัทยังได้เตรียมการขยายตลาดด้วยการเปิดสำนักงานสาขากิฟฟารีนในประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ด้วยการลงทุน 2 รูปแบบ คือการลงทุนเองและขายไลเซ่นส์ให้กับผู้ที่สนใจภายใต้รูปแบบธุรกิจของกิฟฟารีน หลังจากประสบความสำเร็จจากการทำตลาดในต่างประเทศกว่า 18 สาขา อาทิ ลาว กัมพูชา พม่า และมาเลเซีย เป็นต้น
เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศดังกล่าวมีประชากรจำนวนมาก ทำให้มีโอกาสทำตลาดและสร้างยอดขายสูง อีกทั้งพฤติกรรม ของผู้บริโภคยังให้ความสนใจสินค้าขายตรง จากประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังเตรียมงบประมาณลงทุน 30 ล้านบาท ปรับปรุงและซื้อเครื่องมือในห้องแล็บ เพื่อวิจัยและพัฒนา สินค้าใหม่ๆ เพื่อทำตลาดในปีหน้า จากปัจจุบันมีสินค้าทั้งสิ้น 2,200 เอสเคยู เทียบ กับปีแรกที่เริ่มทำตลาดที่มีเพียง 111 เอส- เคยูเท่านั้น
ด้านนายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวเสริมถึงแผนการตลาดในปี 2556 ว่า การตลาดในปีนี้จะเน้นหนักใน 4 กลยุทธ์ เป็นสำคัญ ซึ่งได้แก่ การฝึกอบรบ (Training) ซึ่งแบ่งเป็นการอบรมด้านผลิตภัณฑ์และการอบรมด้านธุรกิจ ที่มีการพัฒนาบุคลากรและหลักสูตรให้เข้าใจง่าย มีความ ทันสมัย เพื่อให้นักธุรกิจนำไปขยายงานได้ ง่ายขึ้น การประชาสัมพันธ์และการใช้เครื่องมือทางการตลาดต่างๆ
"ปัจจุบันเราได้เพิ่มเครื่องมือที่ช่วยในการขยายช่องทางทางการตลาดมากขึ้น การพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยบริษัทได้วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนมีนาคม และกันยายนที่จะถึงนี้ และสุดท้ายในส่วนของกิฟฟารีนแชนแนล ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว และได้รับ เสียงตอบรับที่ดีจากสมาชิกกิฟฟารีนกว่าแสนหลังคาเรือน โดยในปีนี้จะเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นผู้ชมทั่วไป โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งเนื้อหาสาระและความบันเทิง แบบครบครัน" พงศ์พสุ เผย
บริษัทพยายามที่จะรุกหนักในเรื่องของการประชาสัมพันธ์เป็นสำคัญ โดยก่อนหน้านี้ "กิฟฟารีนแชนแนล" ได้ถูกเนรมิตขึ้น ด้วย งบประมาณลงทุนกว่า 50 ล้านบาท มุ่งเน้นการขยายฐานความรู้ ความเข้าใจต่อยอด สังคมแห่งการเรียนรู้ ด้วยการนำเสนอสาระในรูปแบบของรายการ คุณภาพ เพื่อเป็นระบบสนับสนุนทางการตลาดศักยภาพสูงให้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีน ในการเสริมสร้างความรู้ สร้างอาชีพ และ สร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ได้มาตรฐาน ด้วย การนำเสนอที่มีจรรยาบรรณและความ น่าเชื่อถือ ถ่ายทอดผ่านบุคลากรคุณภาพ ขององค์กร ทั้งในเรื่องของการนำเสนอชีวิตของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ การแนะนำกลยุทธ์การทำงาน การให้ความ รู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์คุณภาพ กิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ และสนุกสนานกับการมีส่วนร่วมกับกิจกรรม เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มผู้ชมที่เป็นนักธุรกิจ กิฟฟารีนและผู้ชมที่สนใจธุรกิจเครือข่ายในวงกว้าง
ทั้งนี้ กิฟฟารีนพร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 17 อย่างมั่นคง ด้วยความสำเร็จของนักธุรกิจ กิฟฟารีนทุกคน และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ คุณภาพสู่ผู้บริโภคนับล้าน คือ บทพิสูจน์แห่งความภาคภูมิใจของกิฟฟารีนที่ได้เป็น ส่วนหนึ่งในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทยด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพหลาก-หลายชนิดกว่า 2,000 รายการ ที่สามารถ เข้าไปเติมเต็มชีวิตประจำวันของสมาชิกผู้บริโภคกว่า 6 ล้านรหัส ปัจจุบันกิฟฟารีน มียอดจำหน่ายตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจรวมกว่า 50,000 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2555) โดยมีศูนย์ธุรกิจตั้งอยู่ในประเทศไทย รวม 113 สาขา และต่างประเทศ 18 สาขา พร้อมทั้งมีบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ