Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
ประชาร่วมใจ..ดันนิรโทษกรรมตกราง
ประชาร่วมใจ..ดันนิรโทษกรรมตกราง
วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Tweet
หลังจากที่ประเด็นการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นที่ตื่นตัวไปทั่วทุกวงการ รวมถึงในวงวิชาการที่ไม่ได้ถูกจำกัดแค่คณาจารย์ แต่เหล่าบรรดานักศึกษาจากหลากสถาบันได้มีส่วนร่วมออกมาแสดงพลังในครั้งนี้
ทางด้านสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ หรือนิด้าเอง ได้เปิดห้องประชุม จีระ บุญมาก เพื่อจัดงานเสวนาเชิงวิเคราะห์ เรื่อง "จากพ.ร.บ.นิรโทษกรรม สู่จุดเปลี่ยน การเมืองไทย"
ทำไมต้องเป็น "ห้องจีระ บุญมาก" ..จีระ บุญมาก เป็นใคร??..
"จีระ บุญมาก" คือนักศึกษาปริญญาโท สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้ากรมประชาสัมพันธ์ ในเหตุการณ์ 14 ตุลา เมื่อ วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เวลาประมาณ 12.00 น. เป็นศพแรก!!..หรืออาจกล่าวได้ว่าคือพลังนักศึกษาที่เสียสละชีวิตเป็นคนแรก จนได้รับการยกย่อง การใช้ "ห้องจีระ บุญมาก" จึงเหมือนการสื่อสารในเชิงสัญลักษณ์อีกแบบหนึ่ง
ในการเสวนาครั้งนี้ "รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์" อธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดประเด็นว่า นิด้าแถลงการณ์พร้อมแสดงจุดยืน คัดค้าน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมโดยสิ้นเชิง และเป็น ส่วนหนึ่งของพลังมวลชนที่สะท้อนออกมา หากสมาชิกวุฒิสภาผู้แทนราษฎร (สว.) ผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวออกไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย จาก การที่มีประชาชนจำนวนมากออกมาคัดค้าน ในครั้งนี้ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับพลังของมวลชนในเดือน ต.ค.2516
นอกจากนี้ จากกระแสการคัดค้านร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มองว่าเป็นโอกาสบนวิกฤติของประเทศไทย ที่เข้าสู่กระบวนการ "เซ็ตซีโร" ปฏิรูปโครงสร้างทางสังคม และการเมืองครั้งใหญ่ ที่ทำให้นักการเมืองเห็นถึงพลังของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ ที่แสดง ถึงสิทธิเสรีภาพทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริงอีกด้วย ไม่ใช่อำนาจการบริหารของ ภาครัฐเท่านั้น
"ศ.ดร. บรรเจิด สิงคะเนติ" คณบดีคณะนิติศาสตร์ นิด้า ให้ข้อคิดในเชิงกฎหมาย ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นไปไม่ได้ด้วยเพราะขัดกับหลักการ 5 ประการ คือ 1.กระบวนการตรากฎหมายขัดกับข้อบังคับสภาผู้แทนราษฎร และรัฐธรรมนูญ โดยมีการแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงไปจากหลักการ
2.ขัดหลักนิรโทษกรรม โดยการนิรโทษกรรมของประเทศไทย 20 กว่าครั้งที่ผ่านมา ทุกครั้งเป็นเรื่องการเมือง ไม่ เคยมีการนิรโทษกรณีการทุจริต ซึ่งทั่วโลก ยึดหลักการนี้เพราะการทุจริตชั่วร้ายในตัวเอง ซึ่งหากมีการนิรโทษกรณีการทุจริต ก็จะส่งผลกระทบต่อหลักการพื้นฐานของบ้านเมือง
3.ขัดกับหลักความแน่นอนชัดเจนของกฎหมาย โดยเฉพาะเนื้อหาในมาตรา 3 ของร่างกฎหมายฉบับนี้
4.ขัดหลักการห้ามไม่ให้เลือกปฏิบัติ ตามรัฐธรรมนูญ
5.ขัดกับอนุสัญญาว่าด้วยการทุจริต ที่ไทยเป็นภาคีสมาชิกอยู่ ที่สำคัญคือการดำเนินการครั้งนี้ใช้อำนาจสูงสุดของรัฐมา ทำลายหลักการเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.บรรเจิด เห็นว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นเพียงอาการของ โรคมะเร็งเท่านั้น การล้มร่างกฎหมายอย่าง เดียวไม่พอ ต้องผ่าตัดมะเร็งร้ายออกจาก สังคมจึงจะแก้ได้ ซึ่งก็คือ ระบบเผด็จการ พรรคเมืองของนายทุน ไม่เช่นนั้นอาการเหล่านี้ก็จะกลับมาอีก
"ร่างนี้ทางการเมืองถือว่าตายไปแล้ว เหลือแต่พิธีกรรมทางกฎหมาย แต่อย่าประมาทมันฟื้นคืนชีพได้ เหมือนสมัยแก้กฎหมายโทรคมนาคมเพื่อขายหุ้น สถานการณ์นี้ต้องนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทย เพื่อทำลายการรวมศูนย์อำนาจผูกขาดของทุน" ศ.ดร.บรรเจิด กล่าว
ด้าน รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร อดีตคณบดี คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า กล่าวในงานเสวนา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สู่ จุดเปลี่ยนประเทศไทย ว่าการออกร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทำให้มวลชนทุกภาคส่วนกลับมาใกล้ชิดมากขึ้น ด้วยผู้ที่ออกมาคัดค้านต่างเห็นร่วมกันว่า เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ โดยเฉพาะในทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเพราะมีคนโกงแผ่นดิน
"เป็นการร่างกฎหมาย ที่ขาดวิจารณญาณ สมรรถนะของฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยได้ ส่วนคำแถลงการณ์ของนายกฯที่ออกมา ยังสะท้อนให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ เหมือนกับบอกว่าส.ส.ช่วยกันเหยียบ เบรกตอนนี้หน่อยเพราะขับมาเร็วในซอย ด้วยเพราะคิดว่าขับมาสุดซอยแล้ว แต่มา เจอถนนใหญ่แล้วเลี้ยวไปไม่ถูก" รศ.ดร. ปกรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ หากมีการผ่านร่างกฎหมาย ฉบับดังกล่าวออกมาแล้ว คาดยังจะทำให้คดีที่อยู่ใน ปปช.กว่า 2.5 หมื่นคดี ที่เกี่ยว ข้องในช่วงระหว่างวันที่ 19 ก.ย.2549-10 พ.ค..2554 รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีการสลายการชุมนุมตากใบ-กรือเซะ ต้อง ได้รับการนิรโทษกรรมไปด้วย ไม่ใช่แค่เฉพาะ คดีผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือแกนนำทางการเมืองเท่านั้น
ศ.ดร.ณัฏฐพงศ์ ทองภักดี คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ และผู้อำนวยการศูนย์ ศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง นิด้า กล่าวว่า คัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้เพราะกระบวนการร่างกฎหมายผิด มีการสอดไส้ ซึ่งจะส่งผลกระทบตามมาคือ ทำให้นิติรัฐเสียหาย และต่อไปจะไม่มีใครรับผิดชอบต่อการกระทำที่ก่อไว้ อย่างเช่น นายจีระ บุญมาก อดีตนักศึกษานิด้า ซึ่งเป็นคนแรกที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ 14 ตุลา ซึ่งมีการนิรโทษกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วจึงหาตัวผู้รับผิดชอบไม่ได้ และอีกหลายๆ กรณี ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวเห็นว่าร่างกฎหมายฉบับ นี้ไม่ควรเรียกว่าสุดซอยแต่ควรเรียกว่าผิดซอยมากกว่า
"ถ้าหากจะมีการแก้ไขก็เห็นว่าควรให้มีการนิรโทษกรรมเฉพาะประชาชน แต่ จากกรณีนี้ทำให้เราทบทวนหลักการประชาธิปไตย หากจำเป็นต้องสร้างกติกาใหม่ ก็ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ส่วนการ เมืองที่เข้มแข็งนั้นต้องสร้างจากฐานคือภาคประชาชนที่ดี" ศ.ดร.ณัฏฐพงศ์ กล่าว
ในอีกด้านหนึ่ง ดร.มานะ นิมิตรมงคล ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เปิดเผยความคืบหน้าการเดินหน้ายื่นแถลงการณ์คัดค้านเรื่องการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อยกโทษในคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ว่า หลังจากที่องค์กรฯได้เดินหน้ายื่นแถลงการณ์ต่อสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา และสถานเอกอัครราชทูตสวีเดนประจําประเทศไทยแล้ว ล่าสุดในวันนี้ ได้นำคณะเข้ายื่นแถลงการณ์ผ่านทางสถานทูตสาธารณรัฐ ประชาชนจีน เพื่อยืนยันในเจตนารมณ์เดิม ของการคัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่แม้ว่าล่าสุดทางคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล จะมีมติถอนร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการ ปรองดอง จำนวน 4 ฉบับ ที่เสนอโดย ส.ส. พรรคเพื่อไทย และพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อีกหนึ่งฉบับที่เสนอโดย นายนิยม วรปัญญา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อ ไทย ออกจากวาระการประชุมของสภา ใน วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน ด้วยวิธีขอมติจากที่ประชุมแล้วก็ตาม ทางองค์กรฯ ยังยืนยันที่จะเดินหน้าคัดค้าน หากยังคงมีความพยายามที่จะนิรโทษกรรมเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะเป็นเรื่องที่ผิดหลัก การกระบวนยุติธรรม และยังไม่มีประเทศ ใดในโลกที่ออกกฎหมายยกโทษให้กับคนที่ถูกตัดสินคดีทุจริต
นอกจากนี้ ในประเด็นสำคัญ การที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติเพื่อ การต่อต้านการทุจริต (United Nations Convention against Corruption : UNCAC 2003) หากมีการยอมให้เกิดการ ผลักดันการออกกฎหมายนิรโทษกรรมในลักษณะนี้ จะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
นอกจากนี้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ก็เป็นแบบอย่างที่ดีในการผลักดันเรื่องการ ต่อต้านคอร์รัปชั่นอย่างจริงจังและมีการจัดการอย่างเข้มงวด ดังนั้น หากทั้งสองประเทศสามารถร่วมกันกำหนดแนวทางความร่วมมือ ที่ทำให้การลงทุนต่างๆ มีความโปร่งใส ประโยชน์ย่อมจะเกิดกับทั้งสองชาติ และการให้ความสำคัญกับการป้องกันหรือไม่สนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชั่น จะช่วยให้ต้นทุนการทำธุรกิจมีความชัดเจน และจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อ ประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์ และเศรษฐกิจการค้า ซึ่งล่าสุด จีนยังพร้อมที่จะสนับสนุนการลงทุนในโครงการสำคัญๆ ในประเทศไทยอีกด้วย
"สำหรับการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ ทางองค์กรฯ ยังคงเดินหน้าที่จะรณรงค์ผ่านประชาคมโลก รวมทั้งประสานงานกับ ผู้นำภาคธุรกิจ และเอกชน การเงิน และตลาดทุน ที่เป็นสมาชิกขององค์กร เพื่อเป็นตัวแทนขององค์กร เข้ายื่นแถลงการณ์ กับสถานทูตทุกแห่ง ประจำประเทศไทย ซึ่ง เป็นกลุ่มประเทศที่ร่วมลงนามในอนุสัญญา ขององค์การสหประชาชาติเพื่อการต่อต้าน การทุจริต ค.ศ.2003 (UNCAC 2003) นอกจากนี้ จะเฝ้าจับตาการเคลื่อนไหวของ ทางฝ่ายการเมือง ในการผลักดันร่างกฎหมาย ที่จะทำให้ผิดหลักการสากล แม้จะมีการเคลื่อนไหวถอนร่างกฎหมายดังกล่าว แล้วก็ตาม" ดร.มานะ กล่าวทิ้งท้าย
ต้องยอมรับว่าการแสดงพลังของประชาชนในทุกภาคส่วนที่ออกมาคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในครั้งนี้ ได้ผลเกินคาดเนื่องจากท่าทีที่อ่อนข้อลงอย่างเห็นได้ชัดของ รัฐบาล และเชื่อว่าพลังมวลชนที่แข็งแกร่ง ขนาดนี้น่าจะเป็นบทเรียนให้รัฐบาลไม่คิดจะทำอะไรที่ห้าวหาญขนาดนี้อีก..
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ