ACT ถ่วงน้ำนิรโทษกรรมหวั่นคืนชีพพ.ร.บ.โคตรโกง

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ACT ถ่วงน้ำนิรโทษกรรมหวั่นคืนชีพพ.ร.บ.โคตรโกง


จากรอยร้าวที่เกิดจากความไม่ไว้วางใจในเรื่องของพ.ร.บ. นิรโทษกรรม ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นกฎหมายฉบับลักหลับประเทศหมกเม็ดล้างผิดคดีโกง แม้รัฐบาลจะแสดงท่าทีเหมือนยอมถอย แต่หลายฝ่ายก็ยังมองว่าสิ่งที่รัฐบาลทำหาได้มีความจริงใจไม่

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น เป็นอีกองค์กรภาค เอกชนที่เสนอจุดยืนคัดค้าน ต่อต้าน-เปิดโปง การหมกเม็ดล้างผิดคดีโกง ใน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม โดย จะไม่ยอมให้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฟื้นคืนชีพ และจะไม่ให้มีการสอดแทรกการล้างผิดคดีโกงขึ้นอีกใน รูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้รัฐบาลคืนความชอบธรรม สู่ประเทศชาติ

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้าน คอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า "จากการที่สมาชิกผู้แทนราษฎรได้มีการรับมติยอมรับ พ.ร.บ. นิรโทษกรรม วาระ 2 และ 3 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติม ความมาตรา 3 ความบางส่วนว่า "..รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด โดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 รวมถึงองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว สืบเนื่องต่อ มาที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2547 ถึงวันที่ 8 ส.ค.2556 ไม่ว่าผู้กระทำจะได้กระทำในฐานะตัวกลาง ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดกฎหมาย ก็ให้ผู้กระทำนั้นพ้นจากความผิดโดยสิ้นเชิง.." ทำให้องค์กรฯ มีการแถลงการณ์คัดค้าน เข้า ยื่นแถลงการณ์ต่อสถานทูตนานาชาติ มีการ สำรวจความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ change.org ทำให้ประชาชนเห็นถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการล้มล้างคดีโกง จนก่อให้เกิดการ ชุมนุมมากมายอย่างต่อเนื่องทุกวัน ในที่สุดรัฐบาลได้แถลงการณ์ถอนร่างพ.ร.บ. 6 ฉบับ แต่ยังคงค้าง อยู่ในระบบของรัฐสภาอีก 1 ฉบับ แต่องค์กรฯ ยัง มีความตระหนักถึงการขับเคลื่อนที่ต่อเนื่องอย่างไม่ เป็นระบบ จึงขอแสดงเจตจำนงต่อเรื่องการต่อต้าน คอร์รัปชั่น ดังนี้

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ขอขอบคุณพลังเสียงของคนไทยทุกคนที่ออกมาร่วมยืนหยัดต่อสู้การคัดค้านล้างผิดคดีโกงในพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศที่พลังมวลชนได้ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านความไม่ชอบธรรม และคัดค้านการล้างผิดคดีโกงโดยไม่ได้มีการปลุกระดม หากเกิดขึ้นด้วยจิตสำนึกรู้ผิดรู้ชั่วและความห่วงใยในอนาคตของประเทศจนสามารถกดดันให้รัฐบาลออกแถลงการณ์ ถอดถอนยกเลิกร่างกฎหมายพระราชบัญญัตินิรโทษ กรรม 6 ฉบับในที่สุด

การที่องค์กรฯ ได้ดำเนินการส่งจดหมายคัดค้านไปยังสถานทูตนานาชาติ และได้มีการยื่นแถลงการณ์คัดค้านกฎหมายที่ให้โอกาสล้างความผิดจากการทุจริตคดโกงต่อสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา สวีเดน สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำ ประเทศไทย และองค์การสหประชาชาตินั้น เพื่อต้องการให้นานาชาติเห็นว่าองค์กรฯ มีความตระหนัก ถึงปัญหาคอร์รัปชั่นซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจและการลงทุน อีกทั้งยังต้องจับตาท่าทีของรัฐบาลไทยในการดำเนินการ เรื่องการปฏิบัติตามอนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติเพื่อการต่อต้านการทุจริต ค.ศ.2003 (UNCAC 2003) ซึ่งในการยื่นคัดค้านต่อบรรดาสถานทูตต่างๆ นั้นได้รับการสนับสนุนจากนานาประเทศเป็นอย่างดี ในการรับเรื่องพิจารณาและหารือแนวทางการจับตาการทำงานของภาครัฐ

สำหรับความคืบหน้าการลงชื่อคัดค้านล้างผิดคดีโกงผ่านเว็บไซต์ Change.org นับเป็นปรากฏ- การณ์แรกของประเทศไทยที่ได้รับการตอบรับอย่าง ล้นหลาม มีผู้ลงชื่อคัดค้านมากกว่า 596,586 คน เป็นการแสดงการมี ส่วนรวมของเสียงประชาชนที่สูงสุดเท่าที่เคยมีการ รณรงค์กันมา ซึ่งเมื่อครบ 1 ล้านเสียง ทางองค์กรฯ จะนำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ และวุฒิสมาชิก เพื่อตอกย้ำว่าประชาชนผู้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่มีผู้ใด ยอมรับการล้างผิดคดีโกง

สำหรับแผนงานขั้นต่อไปขององค์กรฯ ทางที่ ประชุมลงมติว่า

1.เรายืนยันเห็นชอบกับแนวคิดของป.ป.ช. ว่า ร่างพ.ร.บ. นี้ไม่ใช่เรื่องการนิรโทษกรรมแต่เพียงอย่างเดียว แต่แฝงด้วยเรื่องการล้างผิดให้กับคดีโกง เพราะหากพ.ร.บ.นี้ผ่านคดีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด โดยคณะบุคคลหรือองค์กร ที่จัดตั้งขึ้นภายหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 น่าจะหมายถึง 1.คตส. ทั้งคณะ 2.คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดปัจจุบัน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่มาถึงปัจจุบัน 3.คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ คตง. 4.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 5.คณะกรรมการเลือกตั้ง จะพ้นผิดทั้งหมด

2.เราจะจับตาการทำงานของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพราะการยกเลิก พ.ร.บ. ไม่ได้หมายถึงการ ล้มเลิกความพยายาม ดังนั้นองค์กรฯ จะไม่ยอมให้มีการสอดแทรกการล้างผิดคดีโกงขึ้นอีกในรูปแบบ ใดๆ ทั้งสิ้น และพร้อมจะต่อสู้เคียงข้างประชาชนทันทีในการต่อต้านการกระทำมิชอบที่มีผลต่อการส่ง เสริมให้เกิดโอกาสการทุจริตคดโกง

3.องค์กรฯ เชื่อมั่นว่าการคัดค้านครั้งนี้ เป็น การกระทำที่ถูกต้องตามหลักกฎหมายสากล และเป็นไปอย่างสันติวิธี โดยไม่ได้ใช้ความรุนแรงหรือก่อเหตุการณ์ความไม่สงบกับประเทศแต่อย่างใด ดังนั้นหากประชาชน นิสิต นักศึกษาผู้ซึ่งที่ทำหน้า ที่พลเมืองของประเทศที่ออกมาเรียกร้องความถูกต้อง ในการต่อต้านคอร์รัปชั่น ได้รับความเดือดร้อน จากการกระทำที่ไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม องค์กรฯ พร้อมที่จะออกมาปกป้องประชาชน และจะเรียกร้องให้นานาชาติเห็นถึงการกระทำที่ไม่ยุติธรรม และจะประณามการกระทำดังกล่าวไปทั่วโลก ซึ่งองค์กรฯ หวังว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าจุดยืนขององค์กรฯ คือการต่อต้านคอร์รัปชั่น ไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง

4.เรายังจะคงดำเนินการต่อต้านคอร์รัปชั่นต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะถึงแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศยกเลิกร่างกฎหมายพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าการโกงกินจะหมดไป ยังมีโครงการของรัฐบาลอีกมากมายที่สังคมยังเคลือบแคลง อาทิเช่น โครงการรับจำนำข้าวที่ รัฐบาลขาดทุนปีละ 2 แสนล้านบาท เงินงบประมาณป้องกันน้ำท่วม 3.5 แสนล้าน โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศงบประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท และโครงการอื่นๆ

5.องค์กรฯ ขอยืนยันอีกครั้งว่าจุดยืนขององค์กรฯ ไม่ใช่การต่อต้านรัฐบาล หรือต่อต้านการปรองดอง แต่คือการต่อต้านคอร์รัปชั่น แม้ว่ารัฐบาลจะแถลงการณ์ยกเลิกพ.ร.บ. แต่กลับไม่ทำให้ การชุมนุมคลี่คลาย เสียงของประชาชนแสดงให้เห็น ถึงความไม่เชื่อมั่น ในความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล องค์กรฯ จึงต้องการให้รัฐบาลทบทวนบทบาทของตนเอง และพิจารณาเร่งออกมาตรการ และปรับ ปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่น อีกทั้งต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลคืนอำนาจให้กับกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนคนไทยและสังคมโลก ให้เห็นถึงความชอบธรรมในการบริหารประเทศ

ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในแผนการดำเนินงานขององค์กรฯ ต่อจากนี้ไป จึงขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาล ซึ่งองค์กรฯ ประชาชนคนไทยและสังคมโลก ทุกคนรอบทพิสูจน์จากการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม และความจริงใจของรัฐบาลในการขจัดการคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากประเทศไทย และกู้ชื่อเสียงศักดิ์ศรีของประเทศชาติกลับคืนมา

ขอบคุณพลังสังคมจากทุกภาคส่วน ... ถึงเวลาเปลี่ยนประเทศไทย ...เราจะสู้กันต่อไป


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ