Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
ปฏิวัติประชาธิปไตย
ปฏิวัติประชาธิปไตย
วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Tweet
บดขยี้ทิ่มแทง : by เจนละ กุลาอุดม
ช่างน่ากลัวและตื่นเต้นทับทวียิ่ง เมื่อได้ยินเสียงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศยกระดับม็อบ "สู้ต่อจนตายจากสภา"
"สุเทพ" จะสู้ จะก่อม็อบด้วยเหตุผลใดอีก เมื่อรัฐบาล-พรรคเพื่อไทยแพ้ราบคาบ กฎหมายนิรโทษกรรม ถูกคว่ำในที่ประชุมวุฒิสภาเรียบร้อยแล้วแบบเอกฉันท์ ไร้เสียงต่อต้าน
นั่นเป็นชัยชนะของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แม้เป็นเพียง "ชนะเล็กๆ" ยังดีกว่าเดินหน้าแบบไร้เป้าหมายและสุ่มเสี่ยง "แพ้ใหญ่" ในอนาคต
เพราะเงื่อนไขการก่อม็อบนกหวีดตามที่ประกาศ ไว้ หมดไปแล้วสิ้นเชิง หากเดินหน้าต่อไป เท่ากับเดินไปหาทางตัน ไร้ความชอบธรรม แล้วจะยกระดับม็อบอีกสักกี่ครั้งจึงจะได้ชัยชนะใหญ่ตามต้องการ
เอาเป็นว่า การยกระดับม็อบไปสู่การประกาศอารยะขัดขืน ฟังดูน่าสนใจ ตื่นเต้น แต่นั่นสะท้อนว่า ม็อบหมดมุกมาสร้างพลังกดดัน
ชัยชนะใหญ่ของม็อบนกหวีดภายใต้การบัญชาการ ของพรรคประชาธิปัตย์คืออะไรกันแน่ มีการประเมินกันว่า เป้าหมายคือ ล้มรัฐบาล
แล้วม็อบก่อหวอด ยกระดับไปสู่การร้องขอ "รัฐบาลพระราชทาน" โดยพรรคประชาธิปัตย์ยอมสูญเสียประชาธิปไตยสัก 5 ปี เพื่อชนะทักษิณกับพรรคเพื่อไทย
รัฐบาลพระราชทานจะเกิดขึ้นได้ด้วยหนทางยึดอำนาจ หรือประชาชนลุกขึ้นไล่รัฐบาลเกิดความปั่นป่วน แล้วตั้งรัฐบาลคนกลาง เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
แต่นั่นคือ การสะท้อนจุดยืนทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ได้ชัดเจนว่า ไม่ต้องการเล่นตามกติกา ประชาธิปไตย ไร้หนทางเอา "ชนะใจ" คนชั้นล่างต่างจังหวัด จึงอาศัยพลังคนชั้นกลางใน กทม.มาล้มรัฐบาล
นี่คือ จุดยืนประชาธิปไตยของพรรคประชาธิปัตย์ ที่แตกต่างจากพรรคเพื่อไทยอย่างเด่นชัด
เพราะประชาธิปัตย์ต้องการสร้างประชาธิปไตยด้วยพลังอำนาจ "นอกกติกาการเมือง" เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคได้เข้าครอบครองอำนาจ
พรรคเพื่อไทยกลับขยับเข้าใกล้แนวทาง "ปฏิวัติประชาธิปไตย" โดยอาศัยฐานเสียงจากประชาชนเป็นพลังยกระดับไปสู่การสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มีหลักการพื้นฐานอยู่ที่ ความเท่าเทียมทางการเมืองต้องได้รับการยอมรับเสมอเหมือนกันทุกชนชั้น
ไม่มีการแบ่งแยกว่า เป็นเสียงของคนบ้านนอก ของพวกโง่ จึงไม่มีศักดิ์ศรีทางการเมือง
แต่พรรคเพื่อไทยภายใต้การหนุนหลังของกลุ่ม นปช. ได้เป็นพลังที่จะนำพาให้ประชาชนมุ่งไปสู่การเปลี่ยนผ่านอย่างสันติตามหนทางหย่อนบัตรเลือกตั้ง ตัดสินอนาคตการเมืองที่พวกเขาเลือกได้
พวกเขาต้องการเลือกรัฐบาลด้วยเสียงที่เท่าเทียม กัน และไม่เอารัฐบาลที่มาจากการ "มอบให้" ของอำนาจนอกกติกาการเมือง
ในสถานการณ์ของม็อบนกหวีดของพรรคประชาธิปัตย์ และการเกิดขึ้นของพลังคนเสื้อแดงที่เริ่ม "อุ่นเครื่อง" ให้เป็นพลังมา "ค้านยัน" นั้น
บ่งบอกถึงการต่อสู้ในรหัสจุดยืนทางการเมืองได้แหลมคม ไม่ใช่เป็นแค่การล้มรัฐบาล หรือออกมาปกป้องรัฐบาลเท่านั้น แต่คือ การปักฐานความเท่าเทียมทางการเมืองให้มั่นคง
ไม่ให้พวก "คนดี" แอบอ้างการใช้สิทธิ์ที่ล้นเกินมาทำลายได้ง่ายๆ อีกแล้ว
สิ่งนี้คือ ยุทธศาสตร์ปฏิวัติประชาธิปไตยที่สันติของคนชั้นล่างกำลังก่อหวอดและเริ่มอุ่นพลังต่อสู้อย่างหนาแน่นขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ