Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
เสียงสะท้อนนิรโทษกรรมจากโลกมุสลิม!!..
เสียงสะท้อนนิรโทษกรรมจากโลกมุสลิม!!..
วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Tweet
ตั้งแต่กระแสนิรโทษกรรมเป็นกระแส ฮือฮามานี้ ทุกหัวระแหงของประเทศไทยไม่มีมุมไหนที่ไม่กล่าวถึง แทบจะเรียกได้ว่า เป็นวาระแห่งชาติก็ว่าได้ และกระแสนี้ยัง ลามไปถึงปลายด้ามขวานอันเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยสงบอยู่แล้วด้วย
หลายคนมองว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ นอกจากการพยายามล้างผิดคดีทุจริต และ เหมารวมความผิดไม่แยกประเภทย้อนหลัง ไปยาวนานถึงปี 2547 แล้ว ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ "ความหมาย" ที่แท้จริงของการนิรโทษกรรมซึ่งถูกบิดเบือนไป
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียน จริยธรรมศึกษามูลนิธิ อ.จะนะ จ.สงขลา นักคิดสายอิสลามคนสำคัญคนหนึ่งใน ดินแดนปลายด้ามขวาน เขียนบทความเรื่อง "นิรโทษกรรมและการขออภัยโทษสำหรับมุสลิม" เพื่ออธิบายความหมาย ที่แท้จริงของการ "นิรโทษ" โดยอ้างอิงหลักการทางศาสนาเอาไว้อย่างน่าสนใจ...
ช่วงนี้มีการพูดถึงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ-กรรมฯ ฉบับสุดซอยกันมาก จนทำให้รัฐบาล ต้องประกาศถอยอย่างไม่เป็นท่า เพราะส่วนใหญ่คนเป็นกลางทั่วทุกสารทิศไม่เห็น ด้วย โดยคำว่า "นิรโทษกรรม" มีความหมายโดยทั่วๆ ไปว่า การทำให้ไม่มีโทษ หรือการอันไม่มีโทษ อาจหมายถึง
+ นิรโทษกรรม ในแง่ของ justifa-ble act คือ การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น แต่กฎหมายบัญญัติว่าไม่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เช่น การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำ ตามคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมาย
+ นิรโทษกรรม ในแง่ของ amnesty คือ การลบล้างการกระทำความผิดอาญาที่บุคคลได้กระทำมาแล้ว โดยมีกฎหมายที่ ออกภายหลังการกระทำผิดกำหนดให้การ กระทำนั้นไม่เป็นความผิด และให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด
อย่างไรก็ดี ตามหลักนิติศาสตร์อิสลามแล้วไม่สามารถอภัยให้กับผู้กระทำ ความผิดได้ นอกจากบุคคลที่โดนกระทำจะ อภัยให้ แต่บางเรื่องก็ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน เช่น ฆ่าบุคคลอื่นโดยเจตนา
หากจะกล่าวถึงการนิรโทษกรรมตามหลักอิสลามแล้ว มีประเด็นที่อยากหยิบยกขึ้นมาพูด คือ สำหรับเดือนนี้ตามปฏิทินอิสลามเรียกว่า "เดือนมุฮัรรอม" จึงมีข้อเรียกร้องเชิญชวนพี่น้องมุสลิมโดยเฉพาะตามเฟซบุ๊ก (สื่อสังคมออนไลน์ประเภทหนึ่ง) ให้พี่น้องร่วมถือศีลอดในวันที่ 9-10 เดือนมุฮัรรอม หรือตรงกับวันที่ 13-14 หรือ 14-15 พ.ย. เพื่อนิรโทษกรรม ตัวเองใน 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งความเป็นจริงไม่ควรใช้คำนี้ แต่ควรใช้คำว่าพระเจ้าจะอภัยโทษในเรื่องเกี่ยวกับพระองค์ที่ไม่เกี่ยวกับการไปละเมิดสิทธิผู้อื่นตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา เพราะท่านศาสนทูตมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวไว้ความว่า "การถือ ศีลอดที่ประเสริฐยิ่งหลังจากเดือนรอมฎอน คือการถือศีลอดเดือนของอัลลอฮ์ที่ต้องห้าม (เดือนมุฮัรรอม)" (บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม อบู-ดาวู้ด และ ติรมิซีย์)
ท่านถูกถามถึงการถือ ศีลอดในวันอาชูรออฺ (หมายถึงวันที่ 10 เดือนมุฮัรรอม) ท่านตอบว่า "ลบล้างความผิดตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา" (บันทึกโดยมุสลิม)
แต่บรรดานักปราชญ์อิสลามศึกษามีทรรศนะที่ดีกว่านั้น มุสลิมควรถือศีลอดวันที่ 9-10 เพราะศาสนทูตได้เคยกล่าวไว้ ความว่า "หากฉันมีชีวิตถึงปีหน้า แน่นอนฉันจะถือศีลอดวันที่เก้าและวันที่สิบ" (บันทึกโดยอิหม่ามอะหมัด)
และนักปราชญ์อิสลามศึกษาบางท่านมีความเห็นชอบให้ถือศีลอดวันที่ 10-11 ก็ได้ เพราะมีวัจนศาสดาบทหนึ่ง บ่งชี้ถึงการถือศีลอดวันก่อนอาชูรออฺ และ วันหลังอาชูรออฺ
หากไม่ใช่วันพิเศษหรือกรณีพิเศษ มีอีกวิธีที่จะให้พระเจ้าอภัยโทษ ซึ่งตามหลักนิติศาสตร์อิสลามเรียกว่าการ "เตาบัต" หมายถึง "การที่ผู้กระทำผิดสำนึกตน สารภาพผิด กลับเนื้อกลับตัว และหันเข้าสู่พระเจ้า ด้วยการขออภัยโทษ"
พระเจ้าได้โองการในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า "และพวกเจ้าทั้งหลาย จงขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์เถิด โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย เพื่อพวกเจ้าจะได้รับชัยชนะ" (อันนูร 31)
ท่านศาสนทูตมูฮัมหมัด กล่าวได้ความว่า "ทั้งหมดของลูกหลานนบีอาดัม นั้นทำผิด แต่ผู้ที่ดีที่สุดในบรรดาผู้ที่ทำ ความผิดคือผู้กลับเนื้อกลับตัวอย่างต่อเนื่อง" (บันทึกโดย ติรมีซีย์)
แต่การ "เตาบัต" นั้นก็มีเงื่อนไข สำหรับเงื่อนไขของการ "เตาบัต" มีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเสียใจต่อสิ่งที่ทำ ลงไป การตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่หวนกลับไปทำอีก และจะต้องคืนสิทธิ์ของบุคคล อื่นแก่เจ้าของที่แท้จริงหรือทำให้เจ้าของอภัยให้ ซึ่งถ้าเป็นของส่วนรวมก็ต้องคืนสิทธิ์แก่ทุกคนหรือทุกคนอภัย และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญอาจจะทำให้การเตาบัตของเรานั้นสมบูรณ์และเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจ ก็คือ "น้ำตา" โดยใช้น้ำตาแสดงความเสียใจ ระบายความรู้สึกในหลายๆ โอกาสในการกลับตัวต่อพระเจ้า
จากทั้งหมดที่กล่าวมา การออกกฎหมายนิรโทษกรรมที่กระทบต่อสิทธิของ ผู้อื่นทั้งส่วนตัวและส่วนรวมจนมีคนจำนวน มากต่อต้าน ย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมายอิสลามอย่างแน่นอน!
แน่นอนว่าหลักการของศาสนาไม่ว่า จะเป็นของศาสนาใดก็ตามล้วนแล้วแต่เป็น หลักการที่ดีทั้งสิ้น การนำเสนอบทความนี้ จึงมีมาเพื่อการประกอบการพิจารณาว่าควรหรือมิควรสำหรับการตัดสินใจสนับสนุน ของคนในประเทศ เพราะเราคงไม่อยากเห็นความแตกร้าวในประเทศนี้อีกแล้ว...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ