Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
พรรคท้องถิ่น..ของเล่นชิ้นใหม่ของคนอปท.
พรรคท้องถิ่น..ของเล่นชิ้นใหม่ของคนอปท.
วันพุธที่ 04 ธันวาคม พ.ศ. 2556
Tweet
รายงานพิเศษ
ไม่แปลกที่คนท้องถิ่นหรือบุคลากรในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางส่วน ที่ผิดหวังกับนโยบายของรัฐบาลในด้านการกระจายอำนาจและการสนับสนุนการทำงานของ ท้องถิ่นจะมีแนวคิดต่อต้านรัฐบาล กระทั่งรวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองที่มีนโยบายเกี่ยวกับการกระจายอำนาจและสนับสนุนการทำงานของ ท้องถิ่นขึ้นมาเป็นการเฉพาะ
คนท้องถิ่นกลุ่มนี้มองว่า ไม่มีวันที่พรรคการ เมือง และรัฐบาล จะแบ่งอำนาจ หรือกระจายอำนาจ รวมไปถึงการถ่ายโอนงาน หรือภารกิจ งบประมาณ และบุคลากร มาสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง เนื่องจากพรรคการเมืองและรัฐบาลเต็มไปด้วยผลประโยชน์ และอำนาจ ฉะนั้นพรรคการเมืองและรัฐบาลจึงมักถือครองอำนาจไว้ที่ส่วนกลางจำนวนมาก เพราะ ยิ่งมากเท่าไหร่ ย่อมหมายถึงผลประโยชน์จำนวนมหาศาลที่จะตามมานั่นเอง
โดยเฉพาะในรูปของงบประมาณ และเปอร์เซ็นต์จากโครงการต่างๆ
สมมติฐานของคนท้องถิ่นดังกล่าวมีส่วนถูกไม่น้อย เพราะที่ผ่านมาประจักษ์ชัดว่า ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนก็ไม่สนใจเรื่องการกระจายอำนาจและสนับสนุนแนวทางการทำงานของท้องถิ่นอย่างจริงจัง ซ้ำร้ายยังจ้องที่จะตัดงบประมาณของท้องถิ่น หรือ สอดไส้งบประมาณโครงการต่างๆ ไว้ในหมวดของท้องถิ่น เพื่อให้ดูเหมือนว่าท้องถิ่นมีเงินเยอะ
แต่เนื้อแท้แล้ว เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะงบประมาณปี 2557 ที่เพิ่มจากเดิมเพียง 0.01 เปอร์เซ็นต์ นั่นคือ ปี 2556 รัฐบาลจัดสรรให้ท้องถิ่นร้อยละ 27.27 ต่อรายได้สุทธิของรัฐบาล ส่วนปี 2557 เพิ่มเป็นร้อยละ 27.37 จะเห็นได้ว่าเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และเหตุการณ์ดังกล่าวนำมาสู่การล้อมทำเนียบรัฐบาลของคนท้องถิ่น
เสียงจากคนท้องถิ่นก็เป็นไปตามระเบียบ เริ่มจากพี่ใหญ่อย่าง ชัยมงคล ไชยรบ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในเรื่องงบประมาณที่รัฐบาลสัญญาว่าจะจัดสรรให้ท้องถิ่นเพิ่มเติมเป็น 28% นั้น สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ท้องถิ่นโดนถูกหลอกอีกครั้ง รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง ทั้งที่ท้องถิ่นก็ทำงานร่วมกับประชาชน และดูแลประชาชนมาตลอดการเดินหน้าของท้องถิ่นในรูปแบบ ของสมาคมฯ ในวันนี้มีพลังไม่เพียงพอ จึงต้องยกระดับให้ 3 สมาคมเป็นสมาพันธ์ท้องถิ่นแห่งประเทศไทยและเดินหน้าควบคู่ไปกับพรรคการ เมืองที่ชูนโยบายชุมชนท้องถิ่น และจังหวัดจัดการตนเองขึ้นมา เพื่อเป็นกลไกของการขับเคลื่อน นโยบายการกระจายอำนาจ
ด้าน พรชัย โควสุรัตน์ นายก อบจ.อุบลราชธานี และกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า รัฐบาลเห็นท้องถิ่นเป็นเพียงตุ๊กตาตัวหนึ่งเท่านั้น ที่จะชี้ให้ ไปทางไหนก็ได้และเขาก็มองว่าท้องถิ่นนั้นไม่มีทางที่จะรวมตัวกันได้อย่างแน่นอน และตอนนี้ อบจ. พร้อมแล้วที่จะร่วมกับเทศบาลและ อบต. เดินหน้า ในการเมืองระดับชาติ เพื่อร่วมกันผลักดันให้มีตัวแทนที่เป็นของท้องถิ่นเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงในสภาให้กับประชาชนท้องถิ่น
"ผมมองว่าวันนี้ถ้าเรายังอยู่กันแบบนี้ มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา แต่ถ้าวันนี้เรารวมตัวกันประ-ชาชนจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ท้องถิ่นก็จะสามารถ สร้างทางออกให้กับประเทศได้ หากทุกท้องถิ่นกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง" นายก อบจ.อุบลฯกล่าว
ส่วน นพดล แก้วสุพัฒน์ นายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย กล่าวเช่นกันว่า เป็นอีกครั้งที่องค์กรท้องถิ่นถูกรัฐบาลหลอก หมดความอดทนกับความไม่จริงใจในเรื่องการกระจายอำนาจ และหมดศรัทธาต่อการเมืองปัจจุบันที่มีอยู่ ที่มองผู้นำท้องถิ่นเป็นเพียงหัวคะแนน จะร่วมกันขับเคลื่อนการ เมืองระดับชาติเพื่อยกระดับให้ท้องถิ่นเป็นกลไกหลักในการพัฒนาประเทศ เหมือนกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
นี่คือเสียงสะท้อนของคนท้องถิ่นต่อการจัด สรรงบประมาณปี 2557 แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตามที่ร้อง ขอคือ ร้อยละ 35 หรือร้อยละ 28 ที่มีการรอมชอม กันภายหลัง แต่ได้เพียงร้อยละ 27.37 เท่านั้นเอง
นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์ต่างๆ ของคนท้อง-ถิ่น โดยเฉพาะข้าราชการส่วนท้องถิ่น หรือพนักงาน ส่วนท้องถิ่น ก็ยังได้ไม่เท่ากับข้าราชการพลเรือน หรือข้าราชการประเภทอื่น แม้ว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องจะกำหนดไว้ว่า ต้องได้เทียบเท่าหรือไม่น้อยไป กว่าข้าราชการประเภทอื่น แต่ในทางปฏิบัติคนท้องถิ่น และรัฐบาลเองต่างรู้ว่าไม่มีอะไรได้เท่ากัน
ยังไม่นับรวมข้อสัญญาหรือลมปากอื่นๆ ที่คน ของรัฐบาลได้สัญญาไว้กับคนท้องถิ่น แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ กลายเป็นคนท้องถิ่นถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า นานๆ เข้าก็กลายเป็นกลุ่มคนที่ไม่มีราคาหรือไม่มีศักยภาพในสายตาของรัฐบาล ไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้ แต่เป็นทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศ มักมองท้องถิ่นด้วยสายตาที่ไม่สู้ดีนัก
เมื่อเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เหตุโดนรัฐ-บาลหลอกแบบถาวร คนท้องถิ่นโดยเฉพาะแกนนำหลายคนจึงเสนอทางเลือกให้มีการตั้งพรรคการ เมืองขึ้นมา เพื่อส่งคนไปนั่งในสภาในนาม ส.ส. และ หวังว่าคนเหล่านั้นจะไปผลักดันเรื่องท้องถิ่นและการกระจายอำนาจให้มากขึ้น
คนท้องถิ่นกลุ่มนี้มองว่า รัฐสภาจะเป็นจุดเริ่ม ต้นให้เกิดการกระจายอำนาจอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ การออกกฎหมายเพื่อให้เส้นทางการกระจายอำนาจ และแนวทางการสนับสนุนการทำงานของท้องถิ่นเกิดผลอย่างจริงจังและมีความราบรื่น
วีระวัฒน์ ภักตรนิกร นายกเทศมนตรีเมืองยโสธร และประธานสันนิบาตเทศบาลภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่มีพรรคการเมืองหรือ ส.ส.คนใด สนับสนุนการกระจายอำนาจ ฉะนั้นท้องถิ่นจึงตั้งพรรคการเมืองเพื่อส่งคนของตัวเองไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎร โดยจะเน้นส่งในระบบสัดส่วนหรือระบบบัญชี เสร็จแล้วก็จะเร่งผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นเพื่อให้เกิดการปฏิรูปท้องถิ่นและเกิดการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง
หากเหตุผลของคนท้องถิ่นมีเพียงเท่านี้ เป้าหมายที่จะให้มีการกระจายอำนาจเพิ่มขึ้น และรัฐบาลให้การสนับสนุนแนวทางการทำงานของท้องถิ่นนั้นคงยากที่จะเป็นจริง เนื่องจากปัจจุบันก็มีกฎหมายสนับสนุนการกระจายอำนาจอยู่แล้วทั้งรัฐธรรมนูญปี 2550 และ พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ แต่รัฐบาลก็ไม่ได้สนใจ หรือรัฐสภาไม่ให้ความสำคัญเอง
หรือหากจะอ้างว่าเพื่อผลักดันให้เกิดการคลอดร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เช่น กฎหมายรายได้ท้องถิ่น กฎหมายจัดตั้งท้องถิ่น กฎหมายการกระจายอำนาจ และกฎหมายการบริหารงานบุคคลก็ตามที ถามจริงๆ ลำพังตัวแทนของพรรคท้องถิ่นที่จะไปนั่งในสภา หรือจะมีหรือไม่ ก็ยังจะต้องดูความเป็นไปได้อีกที จะมีศักยภาพในการผลักดันมากน้อยเพียงไร
เพราะต้องอาศัยเสียงในสภาจำนวนมาก และรัฐบาลกุมเสียงข้างมาก หากรัฐบาลไม่เล่นด้วย ยากนักที่จะประสบความสำเร็จ
ที่สำคัญจะได้เป็นรัฐบาลหรือเปล่าไม่รู้ ถึงได้เป็นรัฐบาล พรรคเล็กอย่างท้องถิ่นจะมีความสำคัญกับรัฐบาลมากมายขนาดนั้นเลยหรือ
สำคัญที่สุดปัจจุบันมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่เคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นมาก่อนจำนวนมากในรัฐสภา แต่บุคคลเหล่า นี้ก็ไม่ได้ผลักดันในเรื่องท้องถิ่น และยิ่งกว่านั้นยังโดนกลืนกับวัฒนธรรมองค์กรในเรื่องอำนาจและผล ประโยชน์ กลายเป็นผู้ไม่มีปากเสียงอะไรเลยในสภา
เป็นได้เพียงตัวเล็กตัวน้อย หรือปลาซิวปลาสร้อยทางการเมืองเท่านั้นเอง
ฉะนั้น การที่คนท้องถิ่นหวังจะได้ที่นั่งในสภาในสัดส่วนคนท้องถิ่นแล้วให้คนเหล่านั้นไปผลักดันเรื่องการกระจายอำนาจและท้องถิ่นนั้น จึงเป็น การฝันที่ค่อนข้างเลื่อนลอย และเป็นจริงได้ยาก
สานันท์ สุพรรณชนะบุรี อดีตนายก อบจ. พัทลุง และอดีตนายกสมาคม อบจ.แห่งประ-เทศไทย มีความเห็นต่อการตั้งพรรคการเมืองของคนท้องถิ่นว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เนื่องจากพรรคการ เมืองควรจะมีนโยบายในทุกเรื่องที่เป็นผลประ-โยชน์ของส่วนรวม การที่พรรคการเมืองมีนโยบาย ด้านท้องถิ่นหรือการกระจายอำนาจเพียงอย่างเดียว จึงไม่น่าจะถูกต้อง ควรจะมีนโยบายแก้ไขปัญหาปากท้อง หรือนโยบายที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ด้วย
"การผลักดันในสภา เป็นเรื่องที่จะต้องอาศัยเสียงข้างมาก หากมีเสียงข้างน้อยจะผลักดันอะไรก็ลำบาก ยิ่งเรื่องการกระจายอำนาจ มาสู่ท้องถิ่นยิ่งลำบาก เพราะคนมีอำนาจธรรม-ชาติก็ไม่อยากจะคายอำนาจ วิธีการน่าจะเสนอต่อพรรคการเมืองในปัจจุบันว่าหากพรรคไหนสนับสนุนแนวทางการกระจายอำนาจ จึงจะเป็นพรรคที่คนท้องถิ่นสนับสนุน ทางออก อย่างนี้จะง่ายกว่าการตั้งพรรคการเมืองใหม่" สานันท์ กล่าว
และยิ่งยากเข้าไปอีกเมื่อคนท้องถิ่นประกาศมาตรการกร้าวด้วยการเสนอให้ปัดฝุ่นข้อเสนอของ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ หรือ คปร.มาใช้ โดย เฉพาะการยุบราชการส่วนภูมิภาค นั่นทำให้คนท้องถิ่นทำงานลำบากยากยิ่งขึ้น
บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ประธานสมาพันธ์ อบจ.ภาคเหนือ มองว่า จะต้องลดบทบาทของภูมิภาคลง เช่น ญี่ปุ่น อเมริกา ฝรั่งเศส หรือหลาย ประเทศในแถบยุโรป รัฐบาลจะมีหน้าที่ไม่กี่อย่าง เช่น การต่างประเทศ การควบคุมเงินตรา หรือดูแล เรื่องเศรษฐกิจของประเทศ ความมั่นคง หรือการต่างประเทศ ส่วนการพัฒนาจะเป็นหน้าที่ของท้องถิ่นทั้งหมด ฉะนั้นการลดบทบาทภูมิภาคลงจึงจำเป็น ในสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน
ในชั่วโมงนี้คนท้องถิ่นจึงเปิดแนวรุก 2 ด้าน นั่นคือ 1.ตั้งพรรคการเมืองเพื่อให้มี ส.ส.ในสภา และ 2.เสนอให้มีการยุบราชการส่วนภูมิภาค หรือลดบทบาทส่วนกลางลง
ตั้งพรรคการเมืองนั้นเป็นไปได้ และเป็นไปแล้ว โดยมีพรรคแน่นอนแล้ว แต่จะได้ที่นั่งในสภาหรือไม่เป็น เรื่องที่จะต้องพิสูจน์กัน และหากมีส.ส. แล้วการผลักดันเพื่อให้บรรลุผลดังกล่าวนั่นคือการสนับสนุนแนว ทางการทำงานของท้องถิ่นและการกระจายอำนาจ ยังจะต้องพิสูจน์อีกว่าจะทำได้มากน้อยเพียงไร
ยังไม่นับรวมว่าจะโดนวัฒนธรรมการเมืองกลืนหรือไม่ และยังมีข้อที่จะต้องพิสูจน์อีกมากว่า ส.ส.จากพรรคท้องถิ่นมีกึ๋นหรือมีความเข้าใจในปรัชญาการกระจายอำนาจมากน้อยเพียงไร
ส่วนการผลักดันให้ยุบราชการส่วนภูมิภาค และลดอำนาจส่วนกลางนั้นคิดว่าในรอบ 10-20 ปี นี้ อาจจะยังไม่สำเร็จ เพราะจะโดนแรงต้านเยอะ ที่สำคัญรัฐบาลและส่วนราชการไม่เล่นด้วยที่จะลดอำนาจตัวเองลง
ปัญหาคือว่า การที่คนท้องถิ่นตั้งพรรคการเมือง และการเสนอให้มีการยุบราชการส่วนภูมิภาค เพื่อให้ เกิดการกระจายอำนาจและสนับสนุนแนวทางการทำงานของท้องถิ่นนั้น เป็นคำตอบที่ถูกแล้วหรือไม่ หรือเป็นเพียงการตั้งสมมติฐาน และคำตอบที่ได้ข้างต้น ไม่มีเหตุผลอะไรมารองรับเลยแม้แต่น้อย
อย่าลืมว่าพรรคเล็กก็คือพรรคเล็ก และการที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร โดยเฉพาะโครงสร้างอำนาจแล้ว เป็นเรื่องที่ยากยิ่งในสังคมไทย หาก ท้องถิ่นทำได้ ก็ให้บริหารประเทศไปเลย หากทำ ไม่ได้พรรคท้องถิ่นก็เป็นแค่เพียงความหวังลมๆ แล้งๆ ของคนท้องถิ่นเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ