ญี่ปุ่นเมินการเมือง?

วันพุธที่ 04 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ญี่ปุ่นเมินการเมือง?


สะบัดร้อนสะบัดหนาว : by ณรงค์ ปานนอก

ปกติที่สถานการณ์การเมืองในเมืองไทยตึงเครียด ถึงขั้นจลาจลไล่ล่าฆ่าล้างผลาญกันเป็นเบือ ต่างชาติที่เกรงกันว่าประชาชนของเขาอาจได้รับอันตราย ก็จะประกาศ แจ้งเตือน หรือถึงขั้นให้อพยพออกจากประเทศไปก่อน จนกว่าเหตุการณ์ร้ายจะสงบ

ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายย่อยยับทุกครั้งที่เกิดเหตุเหล่านี้

ยิ่งเป็นมหาอำนาจใหญ่ที่มักใช้วิธีกดดัน ครอบงำประเทศเล็กๆ บางครั้งหรือหลายครั้งก็ฉวยโอกาสเอาเปรียบทางการเมืองด้วยการเข้าช่วยเหลือฝ่ายใดข้างหนึ่งให้ได้เปรียบทางการเมืองจนสามารถมีอำนาจรัฐเต็มมือ แล้วมหาอำนาจเหล่านั้นก็แอบครอบและตักตวงผลประโยชน์ให้ธุรกิจของชาติตนเข้ามาเอาเปรียบทางธุรกิจในไทย กอบโกยเงินตราออกไปแบบ "พุงปลิ้น"

สังเกตให้ดีเถอะ ธุรกิจอะไร? ที่เข้ามากอบโกยกำไรในบ้านเราปีละนับแสนล้านบาท เขาใช้วิธีฉวยโอกาสขณะการเมืองบ้านเราอ่อนปวกเปียกขัดแย้งยืดเยื้อทุกครั้ง

ธุรกิจที่โกยกำไรมหาศาล น่าลงทุนในชาติอื่นๆ ถ้าเราศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วนแล้ว มัก เป็นธุรกิจที่มีกฎกติกาและระเบียบเข้มงวดมาก เช่น ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ ยังไงๆ ทุนคนไทยมีน้อยรายมากที่จะยืนสู้แข่งขันกันอย่างยุติธรรม ชาติอื่นเขามีกติกาเคร่งครัด ให้ไปก่อสร้างห่างชุมชนและไกลเมืองหลายๆ กิโลเมตร ห้ามห้างใหญ่เอาเปรียบผู้ผลิตรายย่อยที่เอาสินค้าไปขายในห้างแบบ "ขูดเลือด" หรือคิดค่าวางสินค้าอย่างแพงอำมหิต

เขาห้ามแม้กระทั่งไม่ให้ผลิตสินค้าของลูกค้าแบบลอกเลียน "เหมือนยังกับแกะ" แต่บ้านเรากลับปล่อยให้ห้างยักษ์ "ก๊อบปี้" เหมือนจริงทุกอย่าง จนสินค้าไทยที่มี "แบรนด์" ดีๆดังๆ ขาดทุนหรือเสียยี่ห้อล้มหายกันไปหลายราย

เจ้าหน้าที่รัฐควรลงโทษห้างใหญ่ ไม่กล้าแม้แต่จะปริปากโวยวายให้สังคมรู้ว่า ห้างยักษ์ผิดกติกา

เดี๋ยวนี้ห้างค้าปลีกต่างชาติ ครอบงำ กระจายห้างเป็นร้านเล็กๆ เข้าไปตามซอกซอยและชุมชุนบ้านนอกจนร้านโชห่วยไทยขาดทุนล้มหายตายจากริมถนนทั่วประเทศมากมายนับหลายแสนร้าน

เรียกว่า ใครมีเงินน้อยอยากลงทุนเปิดร้านค้าโชห่วยเล็กๆ ขึ้นมาเป็นการชิมลางธุรกิจก้าวแรก ก็จะล้มระเนระนาดอย่างไม่เป็นท่า

แต่สำหรับเหตุการณ์การเมืองไทยที่มีความขัดแย้ง หรือแย่งกันชิงอำนาจตั้งแต่ระบอบเผด็จการ ระบอบอำมาตย์มาจนถึงระบอบประชาธิปไตยแบบช้ำเลือดช้ำหนองหา มาตรฐานไม่ได้ กลายเป็นอาหารอันโอชะของธุรกิจต่างชาติที่ "เข้าใจและเข้าถึง" สันดานการเมืองไทยว่า มีกฎแต่ก็ไร้กติกา และเป็นการเมืองแบบ "ศรีธนญชัย" ใครมีเหตุผลหักล้างให้จำนนได้ ถือว่าเก่ง โดยไม่คำนึงจิตสำนึกประชาธิปไตยที่แท้จริง

ฝ่ายหนึ่งใส่ร้ายทำลายความเชื่อถือถึงขั้นไล่ทั้งโคตรวงศ์ตระกูลให้ออกนอกแผ่นดิน กับอีกฝ่ายหนึ่งก็เห็นว่าเคยมีอำนาจแล้วไล่ล่าฆ่าประชาชนตายนับร้อยยังสามารถลอยนวลเป็นฮีโร่ในสังคมได้ ก็เลยไม่รู้ว่าฝ่ายไหนผิดถูกมากกว่ากัน แต่ทั้งสองฝ่ายก็ ช่วยกันเร่งสถานการณ์ให้วิกฤติพอๆ กัน

การเมืองวันนี้ทำลายนิยาม "ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร" ให้กลายเป็น "ศัตรูไม่ดูหน้า ไม่เจรจากับเพื่อน ไม่เผาผีต่อกัน"

ที่เหลือเชื่อว่า มีชาติหนึ่งคือ ญี่ปุ่น ที่มาทำธุรกิจขนาดใหญ่ในเมืองไทยยาวนาน ประกาศยอดขายรถยนต์เล็กของยี่ห้อตัวเอง จองไป 5,000 คัน เกินเป้าที่คาดว่าจะขายได้สัปดาห์ละ 4,000 คัน และคาดว่าสิ้นปีนี้จะขายได้ถึง 10,000 คัน (คิดเล่นๆ เฉลี่ยคันละ 6 แสนบาท ก็ขายได้ 6,000 ล้านบาท)

อีกยี่ห้อหนึ่งอ้างเป็นสัญชาติไทยเสียด้วยว่า จองสูงถึง 5,000 คัน ถ้าขายได้หมด คันละ 1.2 ล้านบาท ก็จะได้เงินถึง 6,000 ล้านบาทเหมือนกัน...แค่ 2 ยี่ห้อขาย ได้ 12,000 ล้านบาท ถ้ารวมหลายยี่ห้อดังขายได้อีกซัก 8,000 ล้านบาท ปลายปีนี้ เงินบาทไทยก็หายเข้ากระเป๋าญี่ปุ่นไปเหนาะๆ 20,000 ล้านบาท

ญี่ปุ่นเขาเมินการเมืองบ้านเรา หรือกำลังแอบน้ำลายไหลเพราะเห็นการเมืองบ้านเรา แบบภาวนาขอให้เป็นอย่างนี้ตลอดไปกันแน่

นี่เรากำลังช่วยสร้างวิกฤติของประเทศให้เป็นโอกาสของชาติอื่นไปโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า

การเมืองบ้านเราช่วยกันกระพือความเลวร้ายของบ้านเมืองให้ชาติอื่นเขาแอบ "ตีกิน" กันอย่างอิ่มเอมเกษมสันต์มโหฬารขนาดนี้เลยหรือ

ใช่..ต่างชาติเขาไม่ควรมายุ่มย่ามการเมืองในบ้านเรา แต่เราก็ควรระมัดระวังความเป็นเอกภาพของชาติเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบ้านเมืองกันบ้างไม่ใช่หรือ

หรือว่าเราจะช่วย "สาวไส้ให้กากิน" กันไปตลอดชาติ โดยไม่คิดหน้าระวังหลังกันเลย

เราจะปล่อยให้การเมืองแบบเก่าๆ กินตัวของมันเองไปเรื่อยๆ อย่างนี้ใช่มั้ยครับ ? ? ?


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ