+ ถ้าจะพูดถึงเรื่องความมั่นใจเป็นสาวใจกล้าไม่เคยกลัวใครความสามารถ แสนจะล้นเหลือแล้ว..
คงจะเป็นใครคนอื่นไปซะไม่ได้อีก ถ้าไม่ใช่คุณแม่ยังสาวแถมกินเด็กอย่าง "บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นข่าวดีข่าวฉาวนั้นเธอคนนี้ผ่านมาหมดแล้วและมีการตั้งรับที่ดี ล่าสุดสาวนักบิดคนสวยตกเป็นข่าวดังอีกครั้ง หลังตัดสินใจเป็นแม่พันธุ์บริจาคไข่ให้กับคนอื่น เพื่อทำการตั้งท้อง เมื่อเจอเจ้าตัว "โชะเด๊ะ" เลยไม่รอช้าที่เข้าไปคุยซักถามถึงเรื่องการตัดสินใจบริจาคไข่ในครั้งนี้
"ตอนนี้บวมสองกรณีค่ะ คือว่ากรณี ที่หนึ่ง คือ ทางสปาช่าจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์ แล้วก็ให้บวมได้เต็มที่อ้วนได้เต็มที่ เพราะเขาจะถ่ายมาพิสูจน์ว่าเขาสามารถลดน้ำหนักให้เราได้จริง ทำเป็นเรียลิตี้ กันเลย ตอนนี้เลยรู้สึกสนุกและท้าทาย ดีมากเลย (หัวเราะ) บุ๋มจะรู้สึกเหมือนว่าเออก็ดีเหมือนกันนะ แต่ทางสปาช่าเขาก็ท้าว่าเขาสามารถลดให้ผอมเพรียวได้ ถ้าเราทำตาม (ยิ้ม) ค่าตอบแทนก็เป็นหลักล้านค่ะ ทางแฟนไม่ได้ว่าอะไรเขาตามใจอีกอย่างอ้วนแล้วได้เงินไม่เป็นไร (หัวเราะ) ต้องจ่ายค่าเทอมลูกตั้งเยอะ (ยิ้ม) แต่ ติ๊งโน้ตก็มีตกใจทักว่า ใหญ่เกินบ่นนิดหน่อย แล้วบอกว่า ถ้าลดแล้วพุงจะหายไปมั้ย เพราะถ้าพุงหายเขาไม่ชอบ กลัวผอมแล้ว จะมีคนมาจีบเยอะ (ยิ้ม) ถ้าจะลดก็เขาบอก ว่าจะเหลือประมาณห้าสิบกว่าๆ บุ๋มเคยผอมขนาดนั้นมาแล้วนะแต่ว่าไม่ได้สนใจ แต่ครั้งนี้กะว่าจะทุ่มเทใส่ใจให้เต็มที่ฟิต"
"ส่วนกับเรื่องงานอื่นก็ไม่มีผลกระทบ อยู่แล้ว เพราะทุกคนยอมรับในความอวบ ของเรามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว (ยิ้ม) เพียงแต่ว่าตอนนี้ละครยังไม่เริ่มเปิดกล้องก็รอดตัวไปในช่วงนี้ แล้วก็จะมีในส่วนที่บริจาคไข่ก็เลยฉีดฮอร์โมนพอฉีดแล้วน้ำหนักขึ้นตอนนี้หน้าอกเพิ่มขึ้นมาคับอีแล้ว หาเสื้อในแทบจะไม่ได้แล้วมันมีก็แบบป้าๆ เอามาใส่ชุดเกาะออกไม่ได้เลย"
+ ใจบุญตัวแม่ ตอนนี้เธอกำลัง เตรียมตัวเพื่อที่จะบริจาคไข่ให้กับครอบครัวที่เขามีลูกไม่ได้ด้วย..
"เรื่องบริจาคไข่คือ เรารู้จักกับครอบครัวครอบครัวหนึ่งสนิทกันก็เลยอยาก ที่จะทำให้เขา มันเป็นความตั้งใจและความ สมัครใจของเรา เขาทำมาแปดครั้งแล้วแต่ไม่ได้ผลน่าสงสารก็เลยอยากที่จะทำให้ ช่วงนี้อยู่ในช่วงที่เตรียมตัวต้องฉีดฮอร์โมน ทุกเช้าฉีดเอง แต่ว่าหมอเขาจัดการให้หมด นะ และเรามาฉีดเองและก็พ่นยาทุกสี่ชั่วโมงมันจะมีอาการข้างเคียงบ้าง แต่เราก็สู้และอยากที่จะเห็นรอยยิ้มของครอบครัวนี้ มันเหมือนการทำบุญโดยที่ไม่เกี่ยวกับความดัง มันเกี่ยวกับความแข็งแรงของร่างกาย เรามานั่งคิดว่าเราเองเป็นนางงามและหน้าเราก็ไม่ได้ผ่านการศัลยกรรมมาเลยนะ เรียนก็โอเค แข็งแรงก็แข็งแรงนะ แล้วเราจะจบอยู่แค่นี้เหรอก็เลยอยากที่จะเผยแพร่เผ่าพันธุ์ให้คนอื่นไป (หัวเราะ)"
"ขั้นตอนเราเตรียมไข่ของเราให้เรียบร้อย พอฉีดยาบำรุงเข้าไปไข่จะใหญ่กว่าปกติตอนนี้มีไข่อยู่เจ็ดฟองในท้องเรา และจากนั้นก็เอาออกมาไปบริจาคเพื่อผสมกับสเปิร์มฝ่ายพ่อและเอาไปฝังในมดลูกฝ่ายแม่ในตอนนี้ก็ต้องดูแลรักษาไข่และร่างกายให้ดีผาดโผนไม่ได้เลย"
+ หลายคนสงสัยว่าสาเหตุที่พิธีกรสาวมั่นลงทุนที่จะเจ็บตัวและยอมที่จะปล่อยให้ตัวเองอ้วนหลังจากที่ฉีดฮอร์โมนบำรุงไข่ไปแล้วนั้นเป็นเพราะคงได้รับค่าตอบแทนที่สูงมหาศาล..
"เรื่องเงินบอกได้เลยว่าไม่มีค่ะ ไม่เอาเลยสักบาท บุ๋มทำด้วยหัวใจเลย เพราะเราเห็นแล้วรู้สึกสงสารเขา แต่พอหลังจากที่ข่าวออกไปก็มีคนโทร.มาคุยกับเราหลายคนเลยแต่เราก็ต้องบอกเขาไปว่าดูช่วงจังหวะงานด้วยเราจะทำให้เขาได้ดีหรือเปล่า แต่ตามกฎหมายในประเทศ ไทยการที่เราจะบริจาคทำอะไรแบบนี้ต้อง เป็นกรณีญาติกันนะ"
+ สำหรับเรื่องของการฟ้องร้องตามกฎหมายแล้วดาราสาวก็ได้ทำการตกลงและเป็นหนังสือสัญญากันไว้อย่างดี..
"ในเรื่องของอนาคตก็ไม่กลัวค่ะ เขาห้ามมาเรียกร้อง เขียนเซ็นสัญญากันเลยตามกฎหมายจริงๆ อย่างที่เมืองนอกเขาทำกัน เขาจะตัด เลย สายสัมพันธ์ไม่ต้องรู้ว่าใครบริจาค ให้ใคร แต่อย่างของบุ๋มนี่ต้องให้รู้ว่าบุ๋มเป็นแม่ ซึ่งเราได้ทำสัญญาตกลงกับบ้านนั้นไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าการเป็นแม่ คือ แม่ทูนหัวนะ ในเรื่องการ ฟ้องร้องบุ๋มไม่กลัวนะ เรารู้จักครอบครัว นี้และอย่างที่บอกว่าเรามีการเซ็นสัญญาเรื่องมรดกไว้เรียบร้อยหมดแล้ว อนาคตเด็กคนนี้ก็ไม่สามารถที่จะมาฟ้องร้องอ้างสิทธิกับเรา หรือเรา เองก็ไม่มีสิทธิที่จะไปยุ่งกับเขา เรียกร้องลูกกลับมา ส่วนข่าวออกไปแล้ว กลัวมั้ยว่าจะมีคนแห่มาขอไข่เหรอ ไม่กลัวนะเราสามสิบกว่าแล้ว ไม่รู้ร่างกายเราจะให้ได้มากน้อยแค่ไหน"
อย่างนี้เค้าเรียกว่า "บุ๋ม-ปนัดดา" ..ใจบุญตัวแม่..โชะเด๊ะ!!!