Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
ถามหาความชอบธรรมมวลชน?
ถามหาความชอบธรรมมวลชน?
วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ในสถานการณ์การม็อบที่เดือดดาล..ข้อบริภาษที่สังคมยังคงกังขาคือ..อะไรคือความพอดี คือวิถีแห่งอหิงสา??..ม็อบดาวกระจาย วันนี้ตั้งอยู่บนวิถีที่ถูกที่ควรหรือไม่ มีความชอบธรรมเพียงใด??.. และจะนำมาซึ่งความรุนแรงต่อไปในอนาคตหรือไม่??
สมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติฯ ระบบการศึกษาไทย นำโดย "เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล" ร่วมกับกลุ่มนักศึกษาอื่นๆ อาทิ กลุ่มสภาหน้าโดม ม.ธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายตั้งอยู่บนหลักสันติวิธีและหลีกเลี่ยงความรุนแรง
"สถานการณ์การเมืองเวลานี้กำลังเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงสูง ไม่ ว่าจะจากทางเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้ร่วมชุม นุมทุกฝ่าย ตามหลักการของสังคมประชาธิปไตยแล้ว เราจำเป็นต้องเคารพเพื่อนมนุษย์ที่แตกต่างความเห็นกัน ใช้เหตุผลและใช้สติ ถ้าใช้ความรุนแรงและไร้เหตุผลแล้ว ผลลัพธ์ที่เกิดกับสังคมในเวลานี้และในภายภาคหน้าย่อมไม่ดีกับทุกฝ่าย"
"ด้วยเหตุนี้ทางสมาพันธ์นักเรียนฯ จึงเรียกร้องขอให้ทั้งทางภาครัฐและฝั่งผู้ชุมนุมทุกฝ่าย ยึดมั่นอวิหิงสา (ความไม่เบียดเบียน) บนสันติวิธี และขันติธรรม"
"นักเรียนแม้จะน้อยนิดและเสียงอาจไม่ดังแต่ก็ขอให้ทุกฝ่ายรับฟัง ใช้สติยิ่ง กว่าอารมณ์" แถลงการณ์ระบุว่า
ในขณะที่กลุ่มสภาหน้าโดม เรียกร้อง ให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมแสดงซึ่งสิทธิเสรีภาพทางการเมืองยึดหลักสันติวิธีและปราศจากความรุนแรง และให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมเคารพต่อหลักกฎหมายตลอดจนหลักนิติรัฐและนิติธรรม และคำนึงถึงความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนและผลประโยชน์ของสาธารณะ ตลอดจนให้ประชาชนทุกกลุ่มใช้สติและพิจารณารับฟังข้อมูลข่าวสารอย่างรอบคอบ
"สุดท้ายนี้ทางกลุ่มอิสระ สภาหน้าโดม เราเคารพสิทธิการแสดงออกทางการ เมืองตามหลักประชาธิปไตยและหลักนิติรัฐ นิติธรรม พร้อมกับหวังว่าจะมีการสร้างความเข้าใจมีการเจรจาและการแสดงออก อย่างสร้างสรรค์"
ในขณะที่กลุ่มเยาวชนนิสิตนักศึกษา อื่นๆ เช่น กลุ่มดาวดิน ม.ขอนแก่น และกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน ม.บูรพา ก็ได้รณรงค์ ต่อต้านไม่เอาความรุนแรงผ่านทางโซเชียล มีเดีย โดยให้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ที่มีข้อความ ต่อต้านความรุนแรง
ในเรื่องดังกล่าว "ชัยวัฒน์ สถาอานันท์" หัวหน้าสาขาวิชาการเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผ่านเฟซบุ๊ก สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ม.มหิดล มองกรณีการยึดอาคารสถานที่ราชการของกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า
การไปยึดอาคารสถานที่ราชการเป็นสันติวิธีหรือไม่ ในการศึกษาสันติวิธีทั่วไป การเดินขบวน การยึดพื้นที่บางส่วน ของถนน เป็นเรื่องที่เห็นกันได้ทั่วไป การยึดสถานที่ก็เป็นการต่อสู้ด้วยสันติวิธีอีกอย่างหนึ่ง มีตัวอย่างมาตั้งแต่สองพันปีก่อน เช่น Bishop Ambrose ปฏิเสธคำสั่งของ รัฐบาลโรมันให้ยอมยกส่วนหนึ่งของโบสถ์ ในมิลานให้ชาวคริสต์นิกายอื่น ท่านบิชอป ละเมิดกฎยึดครองโบสถ์ทำพิธีมิสซาในโบสถ์อยู่ 5 วัน นี่เกิดเมื่อปี ค.ศ.385 หรือ ชาวอเมริกันอินเดียนเป็นร้อยคนบุกยึดเกาะอัลกาตราสในอ่าวซาน ฟรานซิสโกซึ่งรัฐบาลอเมริกันใช้เป็นคุกมานาน เหตุเกิดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1969 ชาวอเมริกันอินเดียนยึดเกาะนี้อยู่ถึง 2 ปี (15 คนสุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางพาตัวออกไปเมื่อ มิถุนายน 1971) หรือที่รู้จัก กันทั่วโลกก็คือการใช้สันติวิธีเข้ายึดครองพื้นที่ทางเศรษฐกิจ การเงินกลางเมืองใหญ่ของโลกอย่างนิวยอร์ก ลอนดอน และ เมลเบิร์น เมื่อปี 2011
ทั้งหมดนี้จะบอกว่า การยึดครองอาคารสถานที่เหล่านี้ยังนับว่าเป็น "สันติวิธี" ครับ เพราะการต่อสู้แบบสันติวิธีนี้มีทั้งแบบเบา และแบบหนัก แบบทำอยู่ใน ระบบ (เช่นส่งจดหมายร้องทุกข์ หรือแสดง สัญลักษณ์) และแบบเข้มข้น (เช่นการประท้วงของสตรีกรณี Greenham Common ซึ่งใช้หลายวิธีรวมทั้งการให้สตรีนับร้อยไปนั่ง นอนขวางประตูเพื่อ "ปิดกิจการ" ของฐานทัพอังกฤษที่นั่น) กล่าวให้ถึงที่สุด ถ้าใช้สันติวิธีสู้กับรัฐบาล สุดท้ายก็คงมุ่ง "ปิดกิจการ" ของรัฐบาลด้วยวิธีต่างๆ ที่ไม่ใช่การใช้อาวุธทำร้ายคน
ต่างจาก "สมเกียรติ อ่อนวิมล" นักสื่อสารมวลชน ที่มองว่าการพามวลชนตระเวนข่มขู่สื่อมวลชน และหน่วยราชการเป็นความรุนแรงในตัวอยู่แล้ว และจะเสี่ยงต่อการปะทะเกิดบาดเจ็บรุนแรงมากขึ้นไปอีก ต้องอารยะขัดขืน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทยเราก็ต้องยึดหลักประชาธิปไตย ถึงอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้ง เราต้อง เร่งให้การศึกษาเรื่องผลร้ายจากระบอบ ทักษิณ
หากพรรคการเมืองเก่า และใหม่ จะเอาชนะระบอบทักษิณได้ก็ต้องด้วยการให้การศึกษาเปลี่ยนความคิดประชาชนจนชนะเลือกตั้งใน 4 ปี 8 ปี 12 ปี กี่ปีก็ต้องยอม ฟังคุณสุเทพปราศรัยคืนนี้แล้วพบว่าคุณสุเทพใช้อหิงสาแบบ ไม่เข้าใจ จะใช้เป็นเพียงเครื่องมือชั่วคราวอีก 2 วัน หากกดดันไม่สำเร็จจะใช้วิธีอื่น
อหิงสาต้องทำโดยผู้เข้มแข็งอดทนมีวินัย ที่คุณสุเทพ ประกาศจะหยุดอหิงสาใน 2 วันถ้าไม่ได้อย่างใจ จึงเป็นอหิงสาของผู้อ่อนแอ ล้มเหลวพ่ายแพ้ต่อกิเลส การที่คุณสุเทพ จะไปกดดันทีวีช่อง 3 และช่อง 7 เพราะไม่ชอบการทำข่าวของเขาเพราะเขารายงานไม่ถูกใจ ก็ผิด Blue Sky/T-News ก็ลำเอียงข้างเดียวตลอด
ประเทศไทยวันนี้เต็มไปด้วยสื่อเลือกข้างประชาชนจะต้องรู้จักเลือกดู จะกดดันกันด้วยกำลังรุนแรงไม่ได้ แสดงความเห็นติเตียนได้ ไม่ชอบก็ปิดไม่ต้องดู คุณสุเทพจะต้องรับผิดชอบถ้า พามวลมหาชนไปสู่ความรุนแรง และความรุนแรงรับประกันความพ่ายแพ้แน่นอน การปราศรัยของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ทั้งเนื้อหา และอารมณ์ พบว่า คุณสุเทพ เป็นคนรุนแรงไม่ใช่นักอหิงสาที่แท้จริง ไม่ควรจะให้นำมวล มหาประชาชนต่อไป
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ หาก สิ้นปีความวุ่นวายนี้ยังไม่จบ ประเทศ ชาติคงต้องเผชิญกับมหันตภัยทางเศรษฐกิจอย่างยากที่จะปฏิเสธ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ