ประเทศไทยอยู่ตรงไหน? ในประชาคมอาเซียน!

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประเทศไทยอยู่ตรงไหน? ในประชาคมอาเซียน!


อีกปีเศษๆ เราจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในขณะที่เรากำลังเล่นกีฬาสี เพื่อนๆ เรากำลัง ทำอะไรอยู่หนอ??

"เมียนมาร์" หรือพม่าที่เราเรียกกัน กำลังสนุกสนานอยู่กับกีฬาซีเกมส์ที่ "กรุงเนปิดอว์" การเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาระดับสากลสักรายการถือว่าเป็นการโชว์ศักยภาพ ความพร้อมของประเทศเจ้าภาพว่าพร้อมในด้านต่างๆ โดยเฉพาะครั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า "สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์" ตั้งใจจะใช้งานนี้เพื่อแสดงความพร้อมในการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนานาอารยประเทศเข้ามาลงทุน

"เวียดนาม" ต้องสะอึกเมื่อเห็นข่าวประเทศ "สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม" ลุกขึ้นมาประกาศแผนพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อ เตรียมความพร้อมเป็นผู้นำเศรษฐกิจอาเซียน อย่างการปฏิรูปเศรษฐกิจ ดอยเหม่ย ถือเป็น "หลักไมล์" สำคัญในการเปลี่ยนเวียดนามจากระบบเศรษฐกิจที่วางแผนโดย ส่วนกลาง ไปสู่การใช้ระบบเศรษฐกิจแบบกลไกตลาดมากขึ้น ลดบทบาทภาครัฐ เพิ่มบทบาทภาคเอกชน และมุ่งสู่แนวทางเสรีนิยม ทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่พร้อมจะสวมบทบาทป๋าดัน ต่อยอด ให้เศรษฐกิจเวียดนามในอนาคตด้วยความ พร้อมในด้านต่างๆ ของเวียดนามเอง

"กัมพูชา" ไม่รู้เหมือนกันว่า "ราชอาณาจักรกัมพูชา" ไปได้สปอนเซอร์รายใหญ่จากไหนถึงขนาดเทกระเป๋าซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มาแบบเต็มสตีม ซึ่งก็คงไม่พ้นพี่ใหญ่ลายมังกรเป็นแน่ งานนี้กัมพูชาอนุมัติ งบประมาณด้านการทหาร 468 ล้านเหรียญ สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17% คิดเป็น 14% ของงบประมาณทั้งหมด รายการสินค้าที่สั่งมาเพิ่มในคลังแสงก็มีประมาณ เครื่องบินลำเลียง Harbin Y-12 ยานพาหนะทางทหาร เรือตรวจการณ์ อู่ลอยน้ำ (Floating dock) จรวดหลายลำกล้อง Type 81 และอาวุธปล่อยต่อต้านอากาศ ยานแบบพกพา HN-5 รวมถึงรถถังหลัก T-55 มือสอง และรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ BTR-60 จากยูเครน ซึ่งงานนี้มีอยู่บางราย การที่กองทัพไทยเห็นแล้วยังน้ำลายไหล แต่ที่สำคัญพี่แกไม่ได้ไปฝึกซ้อมอาวุธกันที่ไหนไกล ก็อยู่แถวชายแดนติดบ้านเรานี่เอง ???..เอ๊ะยังไงล่ะพญาละแวกเกลอเก่า!!!...

"สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว" แม้ตอนนี้จะยังสบายดีหลวงพระบาง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ตื่นตัวในเรื่องของการศึกษา ด้วยว่าต้องลำบากมานานทำให้ความมุ่งมั่นของนักศึกษาที่นี่มีสูงมาก โดยเฉพราะนักศึกษาแพทย์ที่มาเรียนที่เมืองไทย พร้อมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังตื่นตัวและมีแนวโน้มที่จะไปได้สวยเนื่องจากยังไม่ช้ำ!!..

จะว่าไปหากมองแบบจินตนาการมัน จะเห็นเป็นภาพ เพื่อนบ้านต่างเหลียวมาชายตามองเราแล้วยิ้มเย้ยๆ พร้อมสบถว่า "เฮ๊ะ..ไทย!!"

กลับมามองประเทศไทย..เราทำอะไรหรือ??

สิ่งที่มวลมหาประชาชนเรียกร้องคือ สภาประชาชนจะเป็นผู้คัดเลือกคนดีที่ไม่ใช่ คนของพรรคการเมืองใดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรีชั่วคราว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 7 รัฐบาล ประชาชนจะเร่งรัดปฏิบัติงาน

"มาตรา 7 ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"

นายกฯ พระราชทานตามมาตรา 7 แห่งรัฐธรรมนูญฯ ได้กลายมาเป็นข้อเสนอ ให้กับความขัดแย้งทางการเมืองอีกครั้งตาม คำเรียกร้องของผู้นำมวลมหาประชาชน

ทั้งนี้ การเรียกร้องให้มี "นายกฯ พระราชทาน" ได้มีคำอธิบายว่าเป็นสิ่งที่พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจที่จะกระทำได้ โดยการอ้างอิงถึงการแต่งตั้งนาย สัญญา ธรรมศักดิ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายก รัฐมนตรีภายหลังจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เมื่อจอมพลถนอม กิตติขจร ได้ลาออกตำแหน่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงแต่งตั้งนายสัญญา ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งในภายหลังได้มีการเรียกขานกันทั่วไปว่านายสัญญาเป็น "นายกฯ พระราชทาน"

ซึ่งในการตั้งนายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2516 นั้น ไม่ถือเป็นประเพณีได้ เพราะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว หากเป็นประเพณีการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ก็ต้องเกิดการแต่งตั้งนายก รัฐมนตรีพระราชทานหลายครั้งหรือเกิดอย่างสม่ำเสมอจนเป็นปกติวิสัยจึงจะเรียก ว่าเป็นประเพณีได้

โดยรวมๆ แล้วไม่ว่าจะมองในแง่ไหน ก็เหมือนการนำประเทศถอยหลังกลับไปสู่ยุคเริ่มต้น ในขณะที่คนอื่นก้าวเดินไปข้างหน้า และการทำประชามติที่ "เอกนัฏ พร้อมพันธุ์" บอกว่าเป็นการดูถูกประชาชน อันนี้ ก็ดูแปลกๆ เพราะอีกหลายต่อหลายคนที่ไม่ได้ออกมาแสดงพลังร่วมด้วยในครั้งนี้ก็เป็นประชาชนเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ???


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ